เมื่อเทรนด์อีวีมาแรง! 'โชเซ่นฯ' ไม่รอช้ารุก 'อีวีเอ็น' รับดีมานด์โต

เมื่อเทรนด์อีวีมาแรง! 'โชเซ่นฯ' ไม่รอช้ารุก 'อีวีเอ็น' รับดีมานด์โต

"โชเซ่นฯ" เร่งปั้น “แพลตฟอร์มการบริหารจัดการ การชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า EVen (อีวีเอ็น) ระบบการจัดการพลังงานยานยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติเพื่อรองรับดีมานด์ที่กำลังพุ่งทยานอย่างรวดเร็ว เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านระบบอัจฉริยะคุมอีวีชาร์จของไทย

จึงไม่น่าแปลกใจที่แพลตฟอร์มการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ทางบริษัทฯได้พัฒนามานั้น จะได้ถูกนำไปติดตั้ง ณ การไฟฟ้าแห่งชาติใน สปป.ลาว แล้วเชื่อมต่อกับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง ๆ เริ่มต้นในพื้นที่เมืองเวียนจันทน์ เพื่อเก็บข้อมูล (Big Data) พฤติกรรมคนใช้รถ EV อาทิ เวลาที่ชาร์จ กำลังไฟ สถานการณ์ชาร์จแบบเรียลไทม์ พื้นที่ไหนใช้ไฟฟ้าเท่าไหร่ เพื่อประโยชน์ในการออกนโยบายต่าง ๆ และการควบคุมงบประมาณของรัฐ จึงถือเป็นระบบ EV Nation Grid เป็นที่แรกๆของโลก ซึ่งนอกจากจะช่วยลดมลพิษอย่างยั่งยืนแล้ว ยังนับเป็นการยกระดับศักยภาพแหล่งพลังงานภายในประเทศให้ถูกใช้อย่างคุ้มค่า

160985793268

วรพจน์ รื่นเริงวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โชเซ่น เอ็นเนอร์จี้ จำกัด มองว่า เทรนด์ที่เข้ามาดิสรัปต์ตลาดโลกคือ EV ทำให้รถยนต์ที่ไม่สมาร์ทอยู่ไม่ได้ ซึ่งรถที่สามาร์ทคือรถที่มีคอมพิวเตอร์ บวกด้วยเซ็นเซอร์ กล้อง วิชชั่น และเรดาร์ ตรงจุดนี้คอมพิวเตอร์จะสามารถขับเคลื่อนได้ก็ต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้า อีกทั้งเทรนด์ของโลกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อจากนี้ คือ Autonomous Car หรือรถขับเคลื่อนอัตโนมัติ และที่จะตอบโจทย์อัตโนมัติคาร์ได้ดีที่สุดคือ EV เพราะคอมพิวเตอร์ในรถต้องการไฟฟ้า ไม่ต้องการน้ำมัน ส่งผลให้ในหลายประเทศมีการประกาศทิศทางที่ชัดเจนต่อการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า อย่างเช่น นอร์เวย์ ที่มีการวางแผนให้ทั้งประเทศเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ภายในปี 2568 เป็นต้น

ทั้งนี้ได้มีการคาดการณ์จาก Tony Seba นักวิชาการ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐฯ ว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือ 2573 โลกจะเปลี่ยนมาใช้รถอีวีเกือบทั้งหมด และมีการคาดการณ์จากสื่อหลายสำนัก ว่ายอดขาย EV & PHEV ทั่วโลกในปี 2583 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 16,150 เท่าจากปัจจุบัน ส่วนทางด้านจุดชาร์จในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาพบว่าจะเติบโตกว่า 364 เท่า

160985808097

เร่งสปีดรุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน

เห็นได้ชัดว่า ทุกๆประเทศเริ่มที่จะตื่นตัว และหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของโชเซ่น เอ็นเนอร์จี้ ที่จะเสิร์ฟแพลตฟอร์มการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าอีวีเอ็น เพื่อตอบสนองการใช้งานที่ตรงจุด ซึ่งปัจจุบันได้มีการติดตั้งที่ โรงแรมในเครือเซ็นทารา เช่น เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิล์ด, เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทารา อุดรธานี ,จุดจอดชาร์จวอลโว ที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม โนเบิล และล่าสุดที่ข้ามประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ประเทศลาว ผ่านการทำสัมปทานทั่วประเทศ จนกลายเป็นระบบชาร์จรถพลังงานไฟฟ้าแห่งชาติลาวเป็นที่เรียบร้อย

160985810832

ส่วนโมเดลธุรกิจ วรพจน์ เล่าว่า ด้วยความที่บริษัทฯ มีโมเดลธุรกิจแบบ B2B ,B2C และ B2G โดย B2B จะเน้นเข้าไปร่วมกับห้างสรรพสินค้า คอนโด โรงแรม โครงการหมู่บ้าน ส่วน B2C จะมีการขายชาร์จเจอร์ให้กับยูสเซอร์ และบริษัทยานยนต์ อย่าง ฮุนได วอลโว่ เกียร์ และค่ายรถยนต์ชั้นนำ ส่วน B2G ที่กำลังดำเนินการปรึกษาหารือในขณะนี้กับการไฟฟ้า

ขณะเดียวกันจุดคุ้มทุน (Break Even Point) ทางบริษัทฯได้มีการศึกษาเพื่อวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการลงทุน อย่างโมเดลที่ลาวเป็นหลัก คือ คืนทุนประมาณ 4 ปี หลังจากที่ลงสัมปทานคือการลงทุนให้ก่อนและเก็บจากการที่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ลาวมาชาร์จ ทั้งในบ้าน นอกบ้าน รวมถึงรถบัสทุกคันในประเทศลาวที่จะเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าทั้งหมด ที่จะเกิดขึ้นภายในปีหน้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่วนทางด้านราคาได้มีการเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นของต่างประเทศพบว่า แพลตฟอร์ม EVen มีราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว อย่างต่างประเทศจะมีค่า  subscription fee ,ค่าที่เชื่อมต่อเข้าระบบ ซึ่งจะคิดตั้งแต่เริ่มเซ็ตอัพระบบในหลักหลายแสนบาท และค่าบริการรายปี จุดชาร์จต่อตัวประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท อีกทั้งค่า transaction fee สูงถึง 15% ทุกครั้งที่มีการใช้ ส่วนของโชเซ่นไม่มีค่าเซ็ตอัพ แต่มีค่า subscription fee 250 บาท/เสา/หัวชาร์จ กับการใช้ EVBox และยี่ห้ออื่นๆ เพียง 350 บาท/เสา/หัวชาร์จ แต่จะโตตามเสาทุกเดือน และค่ามีtransaction fee แต่ตอนนี้จะมีการนำระบบแถมไปกับเครื่องที่ขาย เนื่องจากทางโชเซ่นได้มีการนำเข้าฮาร์ดแวร์ที่เป็น EV Box เช่นกัน จึงสามารถนำซอฟต์แวร์ผนวกรวมกับฮาร์ดแวร์ที่ขาย เสมือนเป็นโอเปอร์เรเตอร์ที่ขายฮาร์ดแวร์และแถมแพ็คเกจไปพร้อมกัน

1609858177100

ทั้งนี้ เดต้าที่เก็บเป็นบิ๊กเดต้าตั้งแต่รถลงทะเบียน ซึ่งในประเทศไทยจะได้เดต้าจากการชาร์จ อีกทั้งเดต้าในเรื่อง payment อย่างการทำกับประเทศลาวที่ทำร่วมกับ BECL Bank อย่าง Jumbo Card ซึ่งเป็นบัตรแรกที่ใช้แทนเงินสดในประเทศลาว เหมือน Rabbit card ในประเทศไทย, Octopus card ในประเทศฮ่องกง ที่สามารถใช้ในการใช้จ่ายต่างๆกับร้านสะดวกซื้อ หรือใช้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศลาว และอีกมากมายในประเทศลาว บริษัทฯได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 บริษัทจาก 90 องค์กรทั่วโลก ที่รัฐบาลสวิสเลือก ในโครงการลดการปล่อยมลภาวะ

ขณะที่โมเดลรายได้ จะมาจากในส่วนของ payment เป็นตัวหนึ่งที่จะได้ transaction fee ในเรื่องของการขนส่งทุกครั้งที่มีการชาร์จรถ หรือ ซื้อของในร้านค้าหรือ ทางด่วน อธิบายให้เข้าใจง่ายคือ ทุกวันนี้จะมีข้อมูลเข้าระบบทั้งหมดตั้งแต่ใครเป็นเจ้าของรถ ไปชาร์จที่ใดบ้าง ใช้เวลาเท่าไร พลังงานเท่าไร พฤติกรรมทั้งหมดจะรู้ บวกกับการจ่ายเงิน เพราะฉะนั้นบิ๊กเดต้าที่จะเกิดขึ้นมหาศาล สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงการตลาดได้อีกมาก อีกทั้งโรดแมปในอนาคต วรพจน์ ย้ำว่า ต้องการที่จะพัฒนาไปจนถึง Autonomous Car จำพวกรถบัส หรือรถจักรยานยนต์ที่จะเข้ามาในระบบด้วยเช่นกัน