“เตรียมบิน”ปลายปีนี้ "กพท."เชื่อวัคซีนหนุนเดินทางได้"

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกมาทำบทวิเคราะห์ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยแบ่งเป็น ผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2563 ซึ่งประเมินว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 มีการฟื้นตัวดี เริ่มมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาบางส่วน เช่น เข้ามาทำธุรกิจหรือการท่องเที่ยวแบบมีข้อจำกัด ซึ่งเป็นการดำเนินการที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ในปี 2563 จะมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 17 ล้านคน ลดลงกว่า 80%

ขณะที่คาดการณ์ผลกระทบผู้โดยสารภายในประเทศ กพท.ประเมินว่าหากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ฟื้นตัวดี จะทำให้จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศรวมจำนวน 40 ล้านคน แต่หากฟื้นตัวปกติจะเฉลี่ยอยู่ที่ 37 ล้านคน และหากฟื้นตัวช้าจะอยู่ที่ 35 ล้านคน โดยหากปริมาณผู้โดยสารฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง จะทำให้จำนวนผู้โดยสารกลับเข้าสู่สภาวะปกติก่อนเกิดโควิด -19 ในปี 2566 โดยมีจำนวนประมาณ 76 ล้านคน

ศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ฉายภาพถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินในปี 2564 โดยระบุว่า กพท.ยังประเมินว่าเมื่อมีการใช้วัคซีนโควิด -19 อย่างแพร่หลาย จะเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมการบินเริ่มกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากผู้โดยสารจะเริ่มวางแผนการเดินทาง โดย กพท.ประเมินว่า ผู้โดยสารกลุ่มแรกที่มีความจำเป็นในการเดินทาง จะเริ่มวางแผนการเดินทางในช่วงฤดูการท่องเที่ยว หรือปลายปี 2564

หลังจากนั้นเมื่อทั่วโลกมั่นใจถึงการใช้วัคซีนแล้ว จะเป็นผลบวกกับอุตสาหกรรมการบินอย่างชัดเจนในปี 2565 ที่จะเริ่มมีการเดินทางอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมการบินจะกลับมาฟื้นตัวแต่ยังคงไม่เติบโตเทียบเท่ากับปี 2562 หรือในช่วงที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เนื่องจากความเชื่อมั่น และการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวด้วยการเดินทางทางอากาศ จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว กพท.จึงคาดว่ากรณีที่วัคซีนเริ่มใช้ในกลางปีหน้า อุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวเป็นปกติในปี 2566

“ตอนนี้แม้จะมีการระบาดของโควิค -19 ระลอกใหม่ แต่ กพท.เชื่อว่าเมื่อวัคซีนมีการใช้อย่างแพร่หลายช่วงกลางปีนี้ จะก่อให้เกิดการเดินทางระหว่างประเทศ และการเดินทางในประเทศก็จะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ดังนั้นยังมองว่าแม้จะมีการแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แต่เราก็เชื่อว่าสิ้นปีจะเริ่มมีการเดินทาง และการบินจะฟื้นตัวในปี 2565 - 2566”

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการเดินทางภายในประเทศจะเริ่มฟื้นตัว แต่เนื่องจากอุสาหกรรมการบินของไทยในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้ด้วยการท่องเที่ยว ดังนั้นเมื่อเส้นทางระหว่างประเทศยังไม่สามารถทำการบินได้อย่างปกติ จากข้อจำกัดการคัดกรองผู้โดยสาร จึงส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัวมากเท่ากับช่วงปกติ กพท.มองว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศ จะเริ่มกลับมาเดินทางภายหลังวัคซีนใช้งานและเห็นผล ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงปลายปี 2564 จะเริ่มเห็นการเดินทางระหว่างประเทศ

น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ตลอดทั้งปี 2563 เป็นปีที่เห็นการปรับตัวของธุรกิจการบิน โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอส์ต) ที่ปรับกลยุทธ์หันมาทำเส้นทางบินภายในประเทศเยอะมาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจากเดิมที่เป็นท่าอากาศยานรองรับสายการบินเส้นทางระหว่างประเทศเป็นหลัก ขณะนี้กลับมีเที่ยวบินที่ให้บริการเส้นทางภายในประเทศสูงกว่าปีที่ผ่านมา

“ในช่วงที่ผ่านมาเที่ยวบินในประเทศบูมมาก สายการบินที่มีฮับอยู่สุวรรณภูมิอย่างไทยเวียดเจ็ท เพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ และไทยแอร์เอเชียก็เพิ่มฮับการบินสุวรรณภูมิด้วย 2 – 3 เดือนที่ผ่านมาเที่ยวบินในประเทศเราสูงกว่าปีที่ผ่านมาอีก ส่วนปริมาณผู้โดยสารก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน”