กำชับกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19กักตัวเคร่งครัด ลดแพร่เชื้อต่อ

กำชับกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19กักตัวเคร่งครัด ลดแพร่เชื้อต่อ

กำชับกลุ่มเสี่ยงติดโควิด-19 ปฏิบัติตัวเคร่งครัด ลดแพร่เชื้อต่อคนอื่น ต้องกักตัวเองไม่ไปพบปะผู้คน 14 วัน ใส่หน้ากากอนามัย 100%

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 ม.ค.2564 ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 216 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 214 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค(Quarantine) 2 รายมาจากอินเดียและสหรัฐอเมริกา รวมผู้ป่วยสะสม 7,379 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,356 ราย รักษาหายแล้ว 4,299 ราย ยังอยู่ในโรงพยาบาล(รพ.) 3,016 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย สะสมที่ 64 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รายที่เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาที่ จ.ชลบุรี โรคประจำตัวคือเบาหวาน มีประวัติเสี่ยงคือเล่นการพนันใน อ.บางละมุง เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ตรวจพบโควิด-19 โดยไม่มีอาการ เข้ารักษาที่ฮอสปิเทล (Hospitel) สถานที่ที่นำผู้ป่วยอาการไม่มากมาพักรักษารวมกันในโรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 16.00 น. มีอาการเหนื่อยหอบ ทีมสอบสวนโรคจึงแนะนำให้ไปรักษาที่รพ.บางละมุง โดยผู้ป่วยบอกว่าอาการยังไม่มาก จึงไม่ไป รพ. ขอนอนพักที่ฮอสปิเทลต่อ ซึ่งต่อมาในวันที่ 1 มกราคม เวลา 03.00 น.พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตในห้องพัก

“ตอนนี้ความรุนแรงของโรคนี้จากเดิม 100 รายจะเสียชีวิต 2 รายหรือ 2% แต่ครั้งนี้อยู่ที่0.8- 0.9 % อัตราไม่ได้มากขึ้น แต่หากติดเชื้อวันละ 200-300 อัตราการเสียชีวิตก็จะเพิ่มขึ้น ก็จะได้ยินรายงานการเสียชีวิตต่อเนื่องต่อไปอย่างนี้ เรื่องต่างๆ เหล่านี้เบาใจไม่ได้ แม้วันนี้ตัวเลขลงมาน้อยกว่าเมื่อวาน แต่แนวโน้มของทิศทางยังเพิ่มขึ้นอยู่ ทุกคนต้องทราบถึงอันตรายที่ใกล้ตัวมากและร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

สำหรับผู้ติดเชื้อในประเทศ 214 รายในวันนี้ แยกเป็น 1.มีความเชื่อมโยงกับสมุทรสาคร 3 ราย ส่วนใหญ่ในวัยแรงงาน พบใน กรุงเทพมหานคร(กทม.) ชัยนาทและราชบุรี 2.เชื่อมโยงกับระยอง 1 ราย เป็นผู้สูงอายุใน กทม. 3. เชื่อมโยงพัทยา ชลบุรี 1 ราย พบในพระนครศรีอยุธยา 4.ผู้ไปสถานที่หรือทำอาชีพเสี่ยงหรือสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 23 ราย พบใน กทม. 16 ราย ปทุมธานี 2 ราย นครปฐม 2 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย อ่างทอง 2 ราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มนี้มีทั้งอายุน้อยในวัยทำงาน มีอายุลดลงเป็นเด็ก เช่น เด็กหญิง 8 ปี รวมถึงผู้สูงอายุ บ่งบอกว่าเป็นการกระจายเชื้อในครอบครัวแล้ว และ5.กลุ่มอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 154 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนใหญ่มาก รอการสอบสวนโรคอยู่ ยังไม่มีไทม์ไลน์ ไม่ทราบว่ามีใครเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำหรือสูง เรากักตัวผู้ติดเชื้อออกมา แต่ต้องรายงานเพื่อส่งข่าวผู้ที่สัมผัสให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อและแยกตัวเองออก พบใน นนทบุรี 25 ราย สมุทรสาคร 37 ราย ระยอง 27 ราย ชลบุรี 32 ราย จันทบุรี 10 ราย และสมุทรปราการ 23 ราย

“หากใครรับทราบว่าเพื่อนฝูงคนใกล้ชิดพบว่าติดโควิด-19แล้ว ท่านต้องกักตัวเองไม่ไปพบปะคนอื่น สวมหน้ากากอนามัย 100% ไม่มีการมั่วสุมอีกแล้ว เพราะกลุ่มดังกล่าวอยู่ในกลุ่มติดเชื้อแล้วและมีโอกาสแพร่เชื้อสูงมาก ท่านถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะรับเชื้อ จึงต้องลดโอภาสแพร่ต่อไปให้คนอื่นด้วยการกักตัวเองท14 วัน ภาครัฐทำงานอย่างเต็มที่ แต่จำนวนตัวเลขติดเชื้อก็สูงมาก ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า การกระจายไปของผู้ติดเชื้อจากแผนที่ประเทศไทยยังคงที่ 53 จังหวัด ไม่มีเพิ่มเติมขึ้นมา แต่อยากให้เห็นภาพว่าครึ่งเดือนหลังในธันวาคมเพิ่มจาก 6 จังหวัดมาเป็น 53 จังหวัด เพิ่มขึ้นราว 9 เท่า ดังนั้นภาพเหล่านี้ไม่ควรมีการติดเชื้อไปมากกว่านี้แล้ว แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครคนหนึ่ง แต่ต้องร่วมมือกันทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พบว่า มีผู้ที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ คือ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุและผูที่ไปสถานที่เสี่ยงคือบ่อนการพนัน แต่ไม่ยอมกักตัวอย่างเคร่งครัด ทำให้เสี่ยงการแพร่เชื้อต่อคนอื่นๆ เช่น กรณีวิศวกรสาวกลับบ้านที่ชัยนาท โดยไปจากสมุทรสาคร ไปเข้าตรวจและยังจัดปาร์ตี้รวมญาติ พอผลตรวจออก "ติดเชื้อ" มีคนเสี่ยงสูง 27 คน และ
กรณีเจ้าของร้านหมูกระทะที่จ.ระยอง  มีประวัติไปบ่อนไปตรวจเชื้อแล้ว ระหว่างนั้นก็ยังมีกินร่วมวงหมูกระทะกับคนอื่นๆ และวงนั้นมีคนติดเชื้อต่อ เป็นต้น