'โควิด-19' กระทบคนกรุงเทพฯ งดท่องเที่ยวส่งท้ายปีเก่า

'โควิด-19' กระทบคนกรุงเทพฯ งดท่องเที่ยวส่งท้ายปีเก่า

"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" ชี้คนกรุงเทพฯ-ปริมณฑลส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นฐานตลาดขนาดใหญ่ของตลาดไทยเที่ยวไทย งดเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ 2564 เปลี่ยนมู้ดปรับแผนอยู่บ้าน รอสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น

จากการที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากใน จ.สมุทรสาคร และเพิ่มมากขึ้นในอีกหลายจังหวัด ส่งผลทำให้ทางการในหลายจังหวัดมีความจำเป็นต้องยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19

และเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2563 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ ศบค. ได้ออกมาตรการควบคุมฯ โดยจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน ตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้แก่ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ซึ่งขณะนี้มีเพียง 1 จังหวัดคือ จ.สมุทรสาคร 2.พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 3.พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) และ 4.พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) แต่ละพื้นที่ควบคุมทางการจะมีระดับของมาตรการที่ต่างกัน

เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นข่าวร้ายต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยที่กำลังอยู่ในระยะของการเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะในช่วงจังหวะเวลาที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญของการท่องเที่ยว 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้สำรวจแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (ระหว่างวันที่ 31ธ.ค.2563-3 ธ.ค.2564) ของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นฐานตลาดขนาดใหญ่ของตลาดไทยเที่ยวไทย ระหว่างวันที่ 12 ธ.ค.-23 ธ.ค.2563 เพื่อสะท้อนภาพมุมมองของคนไทยในภาวะที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ต่อแผนการเดินทางท่องเที่ยว พบว่าเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลทำให้คนกรุงเทพฯ ปรับแผนอยู่บ้านและรอสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น

บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลนี้จะแตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะเมื่อโรคโควิด-19 ได้กลับมาเยือนอีกครั้ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าทางการจะไม่ได้มีมาตรการควบคุมการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของคนไทย แต่จากผลสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯ กว่า 54.8% ไม่มีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2564

โดยกว่า 40.7% เป็นการยกเลิกหรือเลื่อนแผนการเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้าเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ขณะที่เหตุผลอื่นๆ อาทิ กลุ่มตัวอย่างเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวก่อนหน้านี้แล้ว หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่แต่มีแผนที่จะท่องเที่ยวหลังปีใหม่ และปัจจัยเศรษฐกิจในครัวเรือน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจพบว่าคนกรุงเทพฯ ประมาณ 30.9% ยังมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโควิดในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากหลังวันที่ 23 ธ.ค.2563 จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวจริงของผู้ตอบแบบสอบถาม สำหรับผู้ที่มีแผนเดินทางไปต่างจังหวัดนั้นจะมีทั้งการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวแบบพักค้างคืนและการเดินทางไปเช้า-เย็นกลับ โดยยังมีแผนเดินทางไปจังหวัดที่ไม่พบการระบาดของโควิด-19 

ขณะที่กลุ่มตัวอย่างบางกลุ่มมีการปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและมีแผนจะเดินทางแต่อาจปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดที่จะไป สำหรับจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่างที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวยังเป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางภูเขา โดยมีการกระจายการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ มากขึ้น 

ไม่เพียงแต่เฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างเชียงใหม่ เชียงราย และนครราชสีมา แต่ยังรวมถึงเมืองท่องเที่ยวรองที่ได้รับความนิยม อาทิ น่าน เลย และพิษณุโลก ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทางทะเลที่คนกรุงเทพฯ ยังเดินทางท่องเที่ยว อาทิ เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างกว่า 14.3% ยังมีความไม่แน่ใจ เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์ของโควิด-19 และมาตรการควบคุมการระบาดของทางการ

สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้ของผู้ประกอบการ คือ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านช่องทางต่างๆ ของผู้ประกอบการ อาทิ เว็บไซต์ หรือช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อประกอบการตัดสินใจของลูกค้าที่จะมาใช้บริการหรือมีแผนที่จะเดินทางในช่วงนี้ และป้องกันการเกิดข่าวลืออันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ 

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังต้องรักษามาตรฐานความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการ และจะต้องเตรียมแผนรองรับการปรับเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามพัฒนาการการระบาดของโควิด-19 ในระยะนี้

อย่างไรก็ดี จากการที่ทางการได้มีการออกมาตรการที่เข้มข้นในการควบคุมดูแลการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัด และหากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในช่วงระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้ ภาพรวมของตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 1 ของปี 2564