เช็คลิสต์คดี'แกนนำ'ม็อบ ชนักติดหลังชุมนุมข้ามปี

ผ่านมาแล้วเกือบ 6 เดือนเต็มในสถานการณ์กลุ่มคณะราษฎรเคลื่อนไหวทะลุเพดานดาวกระจายชุมนุมใหญ่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลเพื่อผลักดัน 3 ข้อเรียกร้องต่อเนื่องไปถึงปี 2564 ซึ่ง "อานนท์ นำภา" แกนนำคนสำคัญ ปราศรัยบนเวทีห้าแยกลาดพร้าวเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ประกาศให้ปฏิทิน 2564 เป็นปีแห่งชุมนุมเข้มข้น ยกระดับเคลื่อนไหว "บวกเป็นบวก"

ทว่าตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา แกนนำแนวร่วมหลายคนถูกดำเนินคดีมีหมายจับนำตัวไปคุมขัง ก่อนได้รับการประกันตัวหลายหลาย มาวันนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" รวบรวมคดีความแกนนำตลอดการชุมนุมที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่กรุงเทพฯ อยู่ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง อาศัยอำนาจตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่15-22 ต.ค.นั้น

ข้อมูลจาก กองบัญชาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าการดำเนินคดีกับแกนนำชุมนุมนั้น ในพื้นที่ บช.น.ดำเนินไปแล้ว 120 คดีแบ่งเป็นส่งพนักงานอัยการ 39 คดี และอีก 81 คดีอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน จากจำนวนผู้ต้องหา 78 คน และมี 3 คนที่ถูกดำเนินคดีซ้ำ มีฐานความผิด ประกอบด้วย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวน 46 ราย , ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวาย ตาม ป.อาญามาตรา 215 จำนวน 21 ราย , ประทุษร้ายต่อเสรีภาพพระราชินี ตาม ป.อาญา มาตรา 110 จำนวน 3 ราย , ยุยงปลุกปั่น ตาม ป.อาญามาตรา 116 จำนวน 10 ราย , ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน 1 ราย

นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหามาตรา 112 จากการชุมนุมในพื้นที่กรุงเทพฯมี อย่างน้อยจำนวน 34 คน มีทั้งการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นแกนนำที่ขึ้นปราศรัยเวทีต่างๆ และผู้ชุมนุมรายอื่นๆ ที่ร่วมปราศรัยมีเนื้อหาที่เข้าข่ายกระทำความผิด 

หากลงรายละเอียดตั้งแต่ "หมายเรียก-หมายจับ-ข้อกล่าวหา" ไปที่แกนนำคนสำคัญ พบว่า "อานนท์ นำภา" มีคดีการชุมนุมปราศรัยร่วมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ต่อเนื่องท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563 ถูกแจ้งข้อหาตาม ม.116 ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ ม.112 รวมถึงคดีที่กรมศิลปากร และ กทม.แจ้งความกรณีวางหมุดคณะราษฎร ฐานร่วมกันทำลายให้เสียทรัพย์ซึ่งโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน

ยังมีคดีที่ "อานนท์" ถูกจับกุมที่แยกนางเลิ้ง ภายหลังเจ้าหน้าตำรวจเข้ากระชับพื้นที่การชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อรุ่งเช้าวันที่ 15 ต.ค. ด้วยหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ จากชุมนุมที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ขณะเดียวกันมีหมายเรียกจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ลงวันที่ 23 พ.ย. และหมายเรียกจากตำรวจให้รับทราบข้อกล่าวหาม.112 แล้ว 5 คดี รวมถึงความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 กรณีเขียนราษฎรสาส์นถึงในหลวงเมื่อการชุมนุมวันที่ 8 พ.ย. และชุมนุมที่หน้าอาคารัฐสภาวันที่ 17 พ.ย.

ถัดมา "ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล" หรือ "รุ้ง" มีคดีการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. โดย "รุ้ง" ถูกจับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านถนนข้าวสาร เมื่อเช้าวันที่ 15 ต.ค. ด้วยหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี และข้อหาตามความผิดตาม ม.116 กรณีจัดชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. และปักหมุดคณะราษฎรเช้าวันที่ 20 ก.ย. รวมถึงหมายเรียกสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี วันที่ 27 พ.ย.ในข้อกล่าวมาตรา 112 จากการชุมนุมที่ท่าน้ำนนท์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. จนล่าสุดหมายเรียก สภ.เมืองพิษณุโลก ในข้อกล่าวหาที่นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมพลังประชาชาติไทย แจ้งจับในคดีมาตรา 112

ด้าน "พริษฐ์ ชิวารักษ์" หรือ "เพนกวิน" เคยถูกจับกุมจากการชุมนุมที้ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจกระชับพื้นที่เมื่อเช้าวันที่15 ต.ค. จากหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. แต่ "เพนกวิน" ออกมาเปิดเผยว่าคดีนี้อัยการไม่มายื่นฟ้องให้ทันภายในกำหนดระยะเวลา จึงเป็นผลให้ไม่ต้องไปรายงานตัวต่อศาล และไม่ต้องกังวลจะถูกขังจากคดีชุมนุมวันที่ 10 ส.ค. แต่แล้วก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. "เพนกวิน" ได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีมาตรา 112 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี จากกรณีปราศรัยที่ท่าน้ำนนท์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย.

นอกจากนี้ "เพนกวิน" ยังมีคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 กรณีการปราศรัยที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 3 ก.ย. รวมถึงข้อกล่าวหามาตรา 112 กรณีชุมนุมที่สนามหลวงในการปักหมุดคณะราษฎร ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย. และการปราศรัยที่ ศาลากลางเก่าจ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ในกิจกรรม "เพื่อปรีดี เพื่ออยุธยา เพื่อประชาธิปไตย" ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานตามความผิดมาตรา 112 จากการปราศรัยเมื่อวันที่ 14 พ.ย. บริเวณแยกคอกวัวในเวที MOB FEST รวมถึงข้อหาความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.บ.การโฆษณาเครื่องขยายเสียง พ.ร.บ.จราจร และทำให้เสียทรัพย์มาตรา358 จากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.

ส่วน "ภาณุพงศ์ จาดนอก" เคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ซอยรามคำแหง 26 ตามหมายจับศาลแขวงปทุมวัน คดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนถูกแจ้งข้อหาเพิ่มคดีตามมาตรา 116 มาตรา 112 มาตรา 215 และ พ.ร.บ.โบราณสถานฯ กรณีจัดชุมนุมที่สนามหลวงและปักหมุดคณะราษฎร ระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.เช่นกัน  โดย "ภานุพงศ์" ยังมีคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา เคยแสดงตัวจับกุมที่โรงพยาบาลพระราม 9 จากคดีจัดชุมนุมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ในวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ยังแจ้งข้อกล่าวหากรณีชูป้ายประท้วงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ต.ค. จากนั้นเมื่อวันที่16 พ.ย. "ภานุพงศ์" เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีนำมวลชนสาดสีที่หน้า ม.พัน.4 พล.1 รอ. กรณีเรียกร้องนำทหาร 3 นายที่ล็อกคอผู้ชุมนุมระหว่างทำกิจกรรมเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่หน้ารัฐสภามาแสดงความรับผิดชอบ

ขณะที่ "จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา" หรือ "ไผ่ดาวดิน" เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมขณะชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พร้อมพวกรวม 19 คน ในความผิดมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือหากย้อนกลับ โดยวันที่ 23 ต.ค. ศาลอุทธรณ์กลางมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในระหว่างการสอบสวน โดยกำหนดวงเงินประกัน 7 หมื่นบาท

มาที่ "ปิยรัฐ จงเทพ" หรือ "โตโต้" หัวหน้าการ์ดกลุ่ม wevo เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ตามจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีในความผิดตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 เป็นคดีหลังจากการปราศรัยเมื่อเดือน ส.ค. โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ศาลจังหวัดอุบลราชธานี มีคำสั่งยกคำร้องขอฝากขังของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี โดยศาลพิเคราะห์แล้วไม่มีเหตุจำเป็นในการขอฝากขัง นอกจากนี้จากเหตุการณ์เข้ารื้อรั้วลวดหนามที่แยกอุรุพงษ์ ถนนเพชรบุรี ซอย 2 ในภารกิจส่งคืนเจ้าหน้าที่เมื่อคืนวันที่ 7 ธ.ค. ทำให้ "ปิยรัฐ" พร้อมสมาชิก wevo ถูกตำรวจ สน.พญาไท แจ้งดำเนินคดีมาตรา 215 และ 216 ด้วย

ส่วน "ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล" หรือ "มายด์" แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกตำรวจนอกเครื่องแบบจับกุมที่ร้านกาแฟย่านราชวิถี เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จากการจัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 15 ต.ค. โดยคดีนี้ศาลแขวงปทุมวันยกคำร้องขอฝากขัง และอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 2 หมื่นบาท แต่เนื่องจาก "มายด์" เป็นนักศึกษา จึงยังไม่ต้องวางเงินประกัน แต่หากผิดสัญญาประกันต้องจ่ายค่าปรับ

นอกจากนี้ "มายด์" ยังไปรายงานตัวที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามหมายเรียกความผิดมาตรา 116 จากกรณีไปชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค. และมีหมายเรียกจาก สน.ลุมพินี ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 และ 11 และหมายเรียกสน.บางโพ ข้อกล่าวหามาตรา 112 โดยคาดว่าเป็นคดีจากการชุมนุมไปสภาไล่ขี้ข้าศักดินา ที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 24 ก.ย.

ด้าน "ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี" หรือ "ฟอร์ด" เลขาธิการเยาวชนปลดแอก มีคดีที่ศาลแขวงปทุมวัน ฝออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุม12 คน ในความผิดฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินจากการชุมนุมที่ แยกราชประสงค์วันที่ 15 ต.ค. โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ศาลแขวงปทุมวัน ให้ประกันตัวโดยให้วางหลักทรัพย์ 2 หมื่นบาทโดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว

ปิดท้ายที่ "อินทิรา เจริญปุระ" หรือ "ทราย" ผู้สนับสนุนกลุ่มคณะราษฎร รับหมายเรียกข้อหา ม.112 จาก สน.บางเขน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. รวมถึง "สมบัติ ทองย้อย" หัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง  ได้รับหมายเรียกจากสน.ทุ่งมหาเมฆ ให้ไปรับทราบข้อหา ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการออกหมายเรียกวันที่ 8 ธ.ค.

เป็นคดีความสำคัญรายล้อม "แกนนำ-การ์ด" ตั้งแต่การชุมนุมเมื่อกลางปี 2563 ซึ่งมีหลายคดีที่แกนนำอยู่ระหว่างการรวบรวมพยายนหลักฐานหักล้างข้อกล่าวหา กลายเป็นเดิมพันบนยอดเพดานต่อการนัดหมาย "ชุมนุมข้ามปี" ตลอดปฏิทินการเมือง 2564 ไปด้วย.