เรื่องปังๆ สนุกๆ สไตล์‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ “ผู้ชายหมุนรอบตัวเราด้วยเงิน”

เรื่องปังๆ สนุกๆ สไตล์‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’  “ผู้ชายหมุนรอบตัวเราด้วยเงิน”

ถ้าเป็นแฟนคลับ คงรู้สไตล์ “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” เป็นอย่างดี สำนวนที่คิ้มบอกว่า“ผู้ชายหมุนรอบตัวเราด้วยเงิน“ หรือ ”อายุยังไม่ถึงเลข 4 เลข 5 เธอยังไม่รู้ โลกมันหมุนด้วยเงิน” ถ้าอยากรวย ลองเริ่มทำสิ่งที่ตัวเราชอบก่อน แรกๆ ทำยูทูบก็โดนด่า แล้วทำยังไงต่อ...

"เวลาเราออกข้างนอก จะดูดีมีความสุข สุขภาพแข็งแรง แต่บางทีเราก็ไม่ได้แข็งแรงอย่างที่คิด เป็นโน่น เป็นนี่ และไม่ใช่วิสัยของคนมีชื่อเสียงหรือคนในแวดวงบันเทิงที่จะนำเสนอเรื่องราวที่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ มันเป็นเรื่องของสังขารจริงๆ ใส่ส้นสูงก็เจ็บขา เดินก็เจ็บขา เดินขึ้นบันไดก็เจ็บ ข้อเข่ามีท่าทางว่าจะเสื่อม ตายแล้ว ฉันจะทำยังไงต่อดี"

เจนนิเฟอร์ คิ้ม หรือ พรพรรณ ชุนหชัย นักร้องและโค้ชในรายการ The Voice Thailand ประเทศไทย ที่ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมากับ ‘คอนเทนท์กินแหลก’ ใน Instagram ส่วนตัว Jennifer Kim (@j.kim4real) เพื่อเป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือแม่ค้าที่สู้ชีวิต ได้แถลงเปิดใจถึงปัญหาสุขภาพ ทำให้ตัวเองคิดถอดใจ อยากลาออกจากวงการ เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

“ตั้งแต่ร้องเพลงมา อายุ 21 จนทุกวันนี้ 53 มันก็ 30 กว่าปีแล้ว หรือว่าเราจะพักสัก 1-2-3 ปีดี ไม่ต้องร้องเพลง ไม่ได้ต้องรับงานอะไร อยู่บ้านเฉยๆ พักผ่อน เพื่อรักษาหรือผ่าเข่า ไอ้หัวเข่านี่ ถ้ายืนตรงๆ แล้วเห็นข้างๆ ย่นๆ เข้าไป นั่นคือน้ำในเข่ามันหายไปแล้ว 

เพราะที่ผ่านมาเราใช้ข้อเข่าเยอะเกินไป ใส่ส้นสูงร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 21 แล้วร้องวันละ 5-6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ต้องไปหาหมอฉีดน้ำในเข่าเพิ่มเดือนละ 2 ครั้ง แล้วมันก็เจ็บ หมอบอกว่าอีกไม่นานก็ไปถึงขั้นผ่าเข่า เฮ้ย ชั้นไปถึงจุดนั้นจริงๆ เหรอ มันจริง ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง

160860892179

 ‘คอนเทนท์กินแหลก’ ในอินสตราแกรมของเจนนิเฟอร์คิ้ม

แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปผ่าเข่า ข้างละแสนห้า 2 ข้างสามแสน พักอีกเป็นเดือนแล้ว เราก็หาวิธีของเราเอง ลางเนื้อชอบลางยา บางทีเราอาจจะถูกกับอะไรสักอย่าง แล้วดันโชคดี เห็นผลตั้งแต่กล่องที่สอง แต่ต้องศึกษาดูส่วนผสมก่อนนะ ไม่ใช่ว่าใครบอกว่าอะไรดีๆ ไม่... ต้องดูก่อน มีส่วนผสมของอะไร คอลลาเจน Type II แล้วก็แคลเซียม L-Threonate ดูดซึมเพิ่มน้ำในข้อเข่าได้ มีวิตามิน D วิตามิน K เพิ่มประสิทธิภาพของแคลเซียมและคอลลาเจน มีผงกระดูกอ่อนของปลาฉลาม เป็นสูตรของยาจีน ศาสตร์แพทย์แผนโบราณของจีน ช่วยลดอาการอักเสบของข้อ พอกินตัวนี้แล้วก็ดีขึ้น เราเป็นคนชอบใส่ส้นสูง ชอบเดินเยอะๆ ไม่ชอบออกกำลังกาย เกลียดการออกกำลังกายทุกชนิด"

ที่เจนนิเฟอร์ คิ้ม เล่ามา คงทำให้เห็นภาพว่า ถ้าสุขภาพไม่ดี ชีวิตจะไปต่ออย่างไร ส่วนทุกข์หรือสุขอยู่ที่ความคิด ถ้าอย่างนั้นลองอ่านเรื่องสนุกๆ ปังๆ สไตล์คิ้ม

ที่คิดจะลาวงการ นอกจากเรื่องเข่าที่แก้ปัญหาได้แล้ว เรื่องเสียงมีปัญหาไหม

"เสียงน่ะ เวลาเรารักษามันดีๆ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ นอนให้เต็มที่ มันอาจจะทำเสียงสูงหดถอยลงมานิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่น่าเกลียด แต่เข่าไม่ว่าชั้นจะทำอะไร ก็ไม่ทันแล้ว เพราะใช้ไปเยอะเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เริ่มเสื่อม ต่อให้คุณไม่ได้ใช้อะไรมาก มันก็เสื่อมตามวัย ตามสภาพ บางคนเสื่อมเร็ว บางคนเสื่อมช้า บางคนอายุ 30-40 ผ่าเข่าแล้วค่ะ ขึ้นอยู่กับความเสื่อมของกรรมพันธุ์ของคนๆ นั้น กระดูกของคนๆ นั้นเป็นยังไง อุปสรรคต่างๆ 

ใจเราถึงอยู่แล้ว แต่ร่างกายเราจะต้องถึงไปด้วย ก็ต้องคอยดูแลมัน เป็นคนที่ลงทุนทุกอย่างเกี่ยวข้องกับขา รองเท้าก็ต้องใส่รองเท้าดีๆ อะไรที่กินไปเสริมเข่า เราก็ต้องกินของดีๆ ถ้าเรามีแต่คิดแล้วนั่งรถเข็นถือกระเป๋าแอร์เมส มันก็ไม่ใช่ฉัน ตอนนี้สามารถกลับมาลุยงานได้เหมือนเดิม ไม่ได้ต้องการให้แข็งแรงเหมือนวัยรุ่น เอาแค่ดีเหมือน 3 ปีที่แล้ว อีก 10-20 ปีข้างหน้าชั้นไม่ต้องมานั่งเจ็บเข่าปวดเข่า ซึ่งทุกวันนี้พร้อมที่จะทำทุกๆ อย่าง เพราะเมื่อเข่าพร้อม ใจเราก็พร้อม"

เคยรู้สึกอิ่มตัวไม่อยากร้องเพลงบ้างไหม

"เราไม่เคยอิ่มตัวกับเรื่องของวงการนี้ สมมติว่าร้องเพลงจนไม่มีแพสชั่นอยากจะร้องแล้ว ฉันก็ทำยูทูบ ทำรายการ ‘เจ๊คิ้มกินรอบวง’ ทำรายการ ‘แม่ยั่วเมือง’ ไม่ว่าเราอายุเท่าไร ศักยภาพในตัวเรามันจะมีหลายๆ อย่าง เราอย่าไปยึดมั่นว่า ถ้าฉันเป็นนักร้อง ฉันก็ร้องเพลงอย่างเดียว เหมือนคนขายก๋วยเตี๋ยว ก็ต้องขายก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว เฮ้ย ในร้านมีของทอดไว้กินเล่นไหม มีลูกชิ้นปิ้งไหม มีนั่นมีนี่ มีน้ำไว้ขายไหม มันคล้ายๆ แบบนี้ เราสามารถแตกแขนงความสามารถของเราออกไปหลายๆ ทาง เลยไม่คิดว่าเราจะต้องหยุดทำงาน"

มีอะไรที่อยากทำเพิ่มเติมไหม

"อยากจะมีสามีรวย ตอนนี้ก็กินคอลลาเจนให้เข่าดี แล้วจะได้วิ่งตามผู้ชายรวยๆ บ้าง เพราะถ้าเกิดผู้ชายอายุน้อยกว่า เราก็ต้องวิ่งเอาตังค์โปรย ทุกวันนี้ไม่รอแล้ว พอแล้ว ฉันไปข้างหน้าแล้ว คือเป้าหมายหลักของเรา ไม่ว่าวัยไหนขึ้นอยู่กับแนวคิดของคุณ ถ้าคุณคิดว่าความสมบูรณ์แบบของชีวิต คือ การมีลูก มีสามีเหมือนคนอื่นๆ คุณก็แค่เป็นผู้ตาม แต่ถ้าคุณบอกว่า ทำไมฉันต้องมีสามีด้วย รำคาญ ทำไมฉันต้องมีลูกด้วย รำคาญ ไม่ใช่อะไร พวกมันน่ะรำคาญเรา เราไม่สามารถเก่งได้เท่าคนเหล่านั้น แต่ละคนมีความเก่งของตัวเอง 

เราอาจจะทำงานเก่งหรืออะไรก็แล้วแต่ ภาระที่เราแบกครอบครัว แบกอะไรไว้ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ มีตัวตนไม่เหมือนใคร มีวิถีของเราเอง ไม่จำเป็นต้องเด่นต้องอะไร ไม่ต้องเอาอย่างใคร หรือเอาแบบอย่างของคนอื่นมาคิดแล้วมันทำให้เรารู้สึกด้อย ฉันเป็นแบบนี้ ฉันแฮปปี้ดี คนนี้กินสเต็กแพงๆ แล้วลงในไอจี ลงในเฟซบุ๊ค ก็เราไม่อยากกิน ไม่ชอบสเต็ก เราจะกินส้มตำ คอหมูย่าง"

คิดจะเกษียณอายุตอนไหน

"คำว่าเกษียณอายุมีไว้สำหรับคนที่เขาตั้งเป้าไว้ว่าทำมาเยอะแล้ว เหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อน แต่เรารู้สึกว่า เมื่อไรที่เราทำงานชิ้นหนึ่งสำเร็จ เราจะไม่ยึดติดกับชิ้นนั้น เสร็จไปแล้ว หาชิ้นใหม่มาทำอีก แล้วเมื่อมันสำเร็จ มันคือรางวัลของเรา 

เราไม่ใช่คนที่ว่าให้รางวัลกับตัวเองสิ จะให้ทำไม งานสำเร็จแล้ว นั่นคือรางวัลของฉัน ฉันไม่ต้องไปเที่ยวก็ได้ ขอให้ฉันมีงานทำ ฉันไม่ต้องมีอะไรเยอะแยะ เหมือนคนอื่นเลย ขอให้ฉันคิดหรือทำอะไรที่อยากทำ ให้มันสำเร็จก็แค่นั้น"

ชื่อเสียงมีขึ้น แล้วก็มีลง ? 

"ก็อยากจะมีชื่อเสียงตลอดเวลา ไม่อยากให้ใครลืม แต่มันเป็นอย่างนั้นไม่ได้ เป็นวัฏจักร เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แค่นั้น ถ้าเรายอมรับสิ่งนี้ได้ คุณจะรู้สึกว่าเหมือนเรารู้แพทเทิร์น เหมือนเราเปิดกูเกิลแมพ เอ้า นี่ เดี๋ยวไปถึงตรงนี้นะขึ้นสะพาน ตรงนี้รถติด ตรงนี้โล่ง ตรงนี้ทางตัน"

ช่วงที่งานน้อยๆ รู้สึกท้อไหม

"มี แต่พอดูเงินในบัญชีแล้ว เอาเถอะน่า... เอาเถอะ หามาเยอะแล้ว จะหาอะไรอีก ถ้าสิ่งที่เรามีอยู่ มันเป็นความพอใจของเราแล้ว เงินในบัญชีเราอาจจะไม่ได้เยอะเท่าคนอื่น แต่ฉันพอใจ ดีกว่าสมัยที่ฉันเป็นเด็ก ดีกว่าสิ่งที่ฉันตั้งใจคิดไว้ตอนอายุ 20 กว่าว่ามีเท่านี้ก็พอแล้ว พอแก่มามีเหลือให้ครอบครัว ให้ลูกหลานไว้เท่านี้ ฉันก็โอเค.  แม้คนจะไม่นิยมเราแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนจะต้องผ่านจุดนี้ให้ได้ มันเหมือนหกล้มแล้วแผลถลอก เลือดออก มันแสบนะ เดี๋ยวแผลตกสะเก็ด มันจะหายนะ"

ทุกวันนี้มีเงินเยอะ ไม่จำเป็นต้องตามหาความรักแล้วใช่ไหม

"โอ้ย ตายแล้ว เธอต้องให้ฉันหาฮวงซุ้ยแล้ว หาโลงศพแล้ว เธอกล้าพูดว่า ให้ฉันหาความรัก ไปหาของกินไหมดีกว่าไปหาความรัก อายุยังไม่ถึงเลข 4 เลข 5 เธอยังไม่รู้ โลกมันหมุนด้วยเงิน ผู้ชายหมุนรอบตัวเราด้วยเงิน ชั้นไม่เคยปิดตายเรื่องความรัก ชั้นเปิดอ้าแล้ว มันก็ไม่เห็นมา จนแห้งแล้ว ถ้าที่บ้านมีป้าอายุ 50 จะตอบเหมือนกันเลย คือเราผ่านอะไรมาเยอะ จนมองว่า เมื่อเรารักตัวเองเป็น แค่นี้ก็พอแล้ว

เวลามีคนๆ หนึ่งเข้ามาในชีวิต ถ้าเป็นความดีเรารับได้ แต่ถ้าไม่ดี บางทีเราต้องแบกปัญหาทุกอย่างของมัน เราไม่ได้แบกแค่พ่อแม่เรา แต่แบกโคตรเหง้าของเขาด้วย คุณเคยคิดไหมว่า คุณจะต้องเจอเรื่องนี้ คนๆหนึ่งอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดไว้ในระยะยาว เราต้องพร้อมแบกรับปัญหาที่ตามมา เราเป็นคนบ้างาน ชอบทำงาน 

แต่พอมีเขาเข้ามาแล้ว ทำให้ชีวิตฉันกลายเป็นคนอ้วนไม่ได้ ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ได้ เราอยู่เฉยๆ ก็ดีแล้ว มันเป็นไปตามวัย อันนี้เรียกว่าวัยวุฒิ อายุ 50 จะมาบอกว่าฉันก็ยังมองหารักแท้อยู่ หือ ระหว่างรักแท้กับไม่มีจะแ_ก เลือกเอานะคะ"

การเป็นยูทูบเบอร์มีที่มาที่ไปอย่างไร

"ก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ไม่มีงานทำ จะให้นั่งเงียบอยู่ที่บ้านคนเดียว นั่งเกาอยู่คนเดียวก็ไม่ใช่ ทำเพื่อความสนุก มันต้องเริ่มต้นจากทำให้สนุกก่อน ทำให้เป็นตัวของตัวเองก่อน ก็ฉันชอบแบบนี้ คนจะดูน้อยก็ช่าง ก็ฉันอยากจะเป็นแบบนี้ ถ้ามันดี สามารถหาเงินมาให้เราได้ เกิดผลประโยชน์งอกเงยมาก็ถือว่าโชคดี ทำยังไงให้มันดัง ให้มันรวย ให้มันเปรี้ยง มันจะยากเหมือนการจับสามีรวยๆ เลย"

เนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง

"มี 2 รายการ ‘แม่ยั่วเมือง’ หนักไปทางเรื่องกินล้วนๆ ‘เจ๊คิ๊มกินรอบวง’ ทีมงานของ Scenario & Rachadalai เป็นคนคิด คนเราจะเพลิดเพลินเรื่องอะไร เมาท์เรื่องชาวบ้าน เมาท์เรื่องใต้สะดือ กินร้านไหนดี ฟังเพลงอะไร วนอยู่แค่นี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือ เรื่องที่เราคุยกับแขก แขกคนนั้นจะเปิดใจกับเราแค่ไหน เรื่องบ้าๆ บอๆ เหมือนเพื่อนคุยกัน"

ส่วนใหญ่คนทำยูทูบเบอร์จะเป็นวัยรุ่น แล้วเราทำอย่างไรให้คนติดตาม

"ยูทูบจริงๆ เป็นโลกของคนทั้งโลก ไม่ได้เป็นโลกของวัยรุ่น แต่ที่เรามองอย่างนัั้น เพราะวัยรุ่นสามารถสร้างยอดวิว มี Subscribe ซึ่งจริงๆ เด็กก็ทำได้ คนแก่ก็ทำได้ มันเป็นโลกกลางๆ ที่ทุกคนเลือกที่จะทำอะไร เป็นพื้นที่กว้างๆ ที่ต้นอะไรก็จะโผล่ขึ้นมาโตได้ ขึ้นอยู่กับว่าโตมายังไง อยู่ในดินสภาพไหน คนให้ความสนใจแค่ไหน 

มันคนหลายกลุ่ม ถ้าใครเริ่มทำยูทูบ อยากเป็นยูทูบเบอร์ ให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน ทำไปก่อน เริ่มทำไปเลย ดีหรือไม่ดี ให้คนที่เข้ามาช่วยบอก ติเพื่อก่อ เราจะได้รับรู้ว่า จะแก้ไขยังไง แต่พวกชอบด่าๆ ๆ ก็ช่างมัน เพราะว่าเราก็โดนด่า ด่ามาก็ด่ากลับ ดูไม่จบใช่ไหม ด่าอยู่นั่น"

อนาคตคิดว่าจะทำอะไรที่ปังกว่านี้ไหม

"ยังนึกไม่ออก ถ้าอะไรที่มันดีจริงๆ มันก็ทำเงิน เราก็สบายใจ เหมือนเราเปิดร้านอาหาร เอ้า ร้านนี้ทำเงินแล้ว เราก็จะเปิดอีกกิจการหนึ่ง ทำไปเรื่อยๆ เราสนุกกับการที่ได้ทำ ในสิ่งที่ท้าทายเรามากกว่าได้เงินมาเยอะๆ มันไม่ได้ท้าทายอะไรเลยนะ มันเหมือนเราแต่งงานมีสามีคนหนึ่ง แล้วสามีรวยมาก ไม่ให้เราทำอะไรเลย นั่งอยู่นิ่งๆ หมดแพสชั่น ทั้งๆ ที่ตังค์เยอะ"

จะมีผลงานเพลงใหม่ออกมาไหม

"มีคนชวนอยู่ตลอดเวลา มีความรู้สึกว่าทุกวันนี้วงการเพลงเราตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ดูอย่าง ‘แจ๊คแฟนฉัน’ ออกมาทำเพลง ก็รู้แล้วว่าเป็นช่วงตกต่ำวงการเพลง ชื่อเพลงอะไรนะ เห็นมะไม่มีใครจำชื่อเพลงได้ เรามาถึงยุคมืดของแวดวงการทำซิงเกิลแล้ว แจ๊คแฟนฉันลุกขึ้นมาทำเพลง แล้วบังคับให้ทุกๆ คนร้องเพลง ‘เกิดมาเพื่ออกหัก’ มาฟีเจอริ่งบ้าง คัฟเวอร์บ้าง มันเป็นยุคของป้จเจก ความเป็นส่วนตัว ศาสตร์และศิลป์ของการร้องเพลงหายไป มีแต่ความอยาก แต่ว่าเป็นเพลงที่เพราะนะ

ส่วนเพลงของตัวเอง ก็ต้องดูทีมงาน อย่าง ‘ตั๊ก ศิริพร’ บอกว่า ถ้าเพลง ‘ดึงดัน’ ครบ 1 ล้านวิว นางจะกระโดด เราก็ท้าว่าถ้า 100 ล้านวิวขอให้กระโดดตึก ช่วงนี้ 80 ล้านแล้ว ก็ถามว่าไปลาลูกลาสามีแล้วหรือยัง ทุกวันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เหมือนเป็นเรื่องดวง ต้องพร้อมต้องดีจริงๆ แล้วทำให้ถูกจังหวะ อย่างเพลง ‘เกิดมาเพื่ออกหัก’ ก็เดาๆ ว่าน่าจะได้สัก 10 ล้าน ก็บุญหัวแล้ว ต้องบวชแล้ว เคยบวชแล้ว ก็บวชอีกรอบ"