น้ำท่วมภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 30 ราย เดือดร้อน 689,792 ครัวเรือน

น้ำท่วมภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 30 ราย เดือดร้อน 689,792 ครัวเรือน

ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ มีผู้เสียชีวิต 30 ราย เดือดร้อน 689,792 ครัวเรือน ยังมีน้ำท่วมขัง 5 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มกำลังอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 63 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 584 ตำบล 4,220 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 689,792 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 30 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. – ปัจจุบัน (11 ธ.ค. 63 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส รวม 101 อำเภอ 584 ตำบล 4,220 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 689,792 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 30 ราย (นครศรีธรรมราช 21 ราย พัทลุง 3 ราย สุราษฎร์ธานี 2 ราย ตรัง 2 ราย และสงขลา 2 ราย)
ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป
ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 5 จังหวัด 28 อำเภอ 122 ตำบล 776 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 205,917 ครัวเรือน ดังนี้
1. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และอำเภอบ้านนาสาร รวม 45 ตำบล 343 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,002 ครัวเรือน
2. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอทุ่งใหญ่ และอำเภอถ้ำพรรณา รวม 43 ตำบล 304 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 184,750 ครัวเรือน
3. ตรัง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง และอำเภอกันตัง รวม 9 ตำบล 38 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,033 ครัวเรือน
4. พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน และอำเภอบางแก้ว รวม 9 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,122 ครัวเรือน
5. สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ รวม 16 ตำบล 69 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,494 ครัวเรือน
ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด
ในภาพอาจจะมี 5 คน, ผู้คนกำลังนั่ง, สถานที่กลางแจ้ง และน้ำ
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่อื่น ๆ สนับสนุนการเผชิญเหตุ โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สำหรับในส่วนของผู้เสียชีวิต จังหวัดได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบแล้ว ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อ
ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่กลางแจ้ง