สธ.เผยเหตุการณ์โควิด19 ยังอยู่ระดับ 1

สธ.เผยเหตุการณ์โควิด19 ยังอยู่ระดับ 1

สธ.เผย 10 รายจากท่าขี้เหล็ก ไม่ยอมให้ข้อมูลที่แท้จริง ทำการสอบสวนโรคยุ่งยาก ยันไม่ถือว่าเป็นการแพร่ระบาดแบบซูเปอร์ สเปรดเดอร์ ยังอยู่ระดับ 1 ของเหตุการณ์

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด -19  นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวว่า  การสอบสวนโรคในหญิงสาว 10 คนที่ลักลอบเดินทางจากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ มีความยุ่งยาก เพราะทุกคน ไม่ยอมให้ข้อมูลที่แท้จริง เนื่องจากกลัวความผิด ทั้ง 10 คนนี้เป็นเพื่อนกัน พบว่ามีการนัดแนะเกี่ยวกับข้อมูลที่ให้กับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคจึงยากลำบาก มีข้อเท็จจริงแค่ 50% จนต้องตรวจสอบจากซิมการ์ด ในโทรศัพท์มือถือถึงทราบสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ถือวากำลังทำลายประเทศ ต้องถูกดำเนินการตรมกฎหมาย แต่ถ้ามาตามระบบปกติก็จะไม่ดำเนินการรุนแรง ดังนั้นขอให้คนที่จะเดินทางมาจากท่าขี้เหล็กขอให้เข้ามาอย่างถูกต้องตามระบบ และขอย้ำว่าต้องให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้นในการสอบสวนควบคุมโรค และขอแรงคนในพื้นที่ เจ้าของสถานที่เป็นหูเป็นตา หากพบคนที่เดินทางมาจากท่าขี้เหล็กขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบด้วย

    “ตัวแปรหนึ่งที่สำคัญที่อาจจะทำให้เกิดการควบคุมโรคยุ่งยากขึ้น คือ ผู้ติดเชื้อปกปิดประวัติ ไม่ให้ข้อมูลตามความความจริงทั้งหมด ถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างหนึ่ง เพราะทำให้ระยะเวลาการทำงานล่าช้าลงไป จึงขอร้องผู้ที่ติดเชื้อและผู้ที่เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อหากเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลให้บอกตามความเป็นจริง และการให้ข้อมูลเท็จจะมีความผิดตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้ จากสถานการณ์ตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นการแพร่ระบาดแบบซูเปอร์ สเปรดเดอร์ ยังอยู่ในระดับที่ 1 ของ 3 เหตุการณ์ที่สธ.คาดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย คือ นำเชื้อมาจากต่างประเทศ ยอดผู้ป่วยจะเป็นยอดเล็ก ๆ มีผู้ติดเชื้อประมาณ 1-2 ราย และสามารถควบคุมได้(Spike Only) อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งจับตาอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนมากก็จะถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่จะบอกว่าเป็นซูเปอร์ สเปรดเดอร์” นพ.โอภาส กล่าว

          เมื่อถามว่ากรณีจะมีการจัดงานบิ๊กเมาน์เท่น (Big Mountain Music Festival) ที่จะจัดในช่วงเดือน ธ.ค. นั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วยังสามารถจัดงานได้หรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า จัดได้ แต่ต้องมีมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรอง มีการสแกนแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” เป็นไปตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หรือจะมีการมาตรการเสริมเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจอีก ส่วนประชาชนหากเข้าร่วมงานขอให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และอย่าลืมสแกนไทยชนะ.