อัพเดต ไทม์ไลน์ สธ.พบติด 'โควิด-19' เพิ่ม 6 ราย ประวัติไป 6 จังหวัด

อัพเดต ไทม์ไลน์ สธ.พบติด 'โควิด-19' เพิ่ม 6 ราย ประวัติไป 6 จังหวัด

สธ.เผยพบผู้ติด "โควิด-19" เพิ่ม 6 ราย ไทม์ไลน์เกี่ยวข้อง 6 จังหวัด เชียงราย-เชียงใหม่-พะเยา-พิจิตร-ราชบุรี -กทม.

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตรวจพบผู้ติดโควิด-19 เพิ่ม 6 ราย เป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศทั้งหมด

โดยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อมีประวัติเดินทางไปในจังหวัดเชียงใหม่ 2 ราย และพะเยา พิจิตร ราชบุรี และ กรุงเทพฯ จังหวัดละ 1 ราย

160689431331

สำหรับไทม์ไลน์ทั้ง 6 ราย ที่ตรวจพบล่าสุด 
 
รายแรก จ.พะเยา อายุ 28 ปี ประวัติอยู่เมียนมา 1-26 พ.ย. กลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ย.โดยช่องทางธรรมชาติ จากนั้นวันที่ 28 พ.ย. มีเพื่อนขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่ปากซอยโลตัส แม่สาย และเหมารถแท็กซี่สีแดงขาว จำทะเบียนไม่ได้มาส่งที่จังหวัดเชียงรายซึ่งมีการสวมหน้ากากอนามัยทั้งหมดระหว่างเดินทาง จากนั้นเวลา 15.00 น. มีการพักที่ห้องเช่าของเพื่อนชั้น 2 ของตึกแถวหลังห้างบิ๊กซี เชียงรายโดยอาศัยอยู่คนเดียว ซึ่งในช่วง 21.00 น. ได้ออกไปซื้ออาหารรับประทานที่ร้านค้าในตัวเมืองกลับมารับประทานที่ห้องตลอดเวลาก็ได้มีการสวมหน้ากากเช่นเดียวกัน

ส่วน วันที่ 29 พ.ย.ไม่ได้ออกไปไหนตลอดเช้าถึงบ่าย แต่ช่วงเย็นแฟนขับรถยนต์ส่วนตัวมารับจากจังหวัดพะเยามารับไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค เวลา 20.00 น.จอดรถโซน C26 และนั่งรถสองแถวเข้างาน นั่งโต๊ะบริเวณลานเบียร์ มีการซื้อหาหารและเบียร์ บริเวณนั้น ไม่ได้ไปหน้าเวที สวมหน้ากากตลอดยกเว้นช่วงเวลาที่ดื่ม เวลา 23.00 น. กลับมาที่ห้องพักของเพื่อน จากนั้นเวลา 04.00 น. ออกไปพักโรงแรม HOPINN ในตัวเมือง

ต่อมา 30 พ.ย. เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเวลา 12.00 น. ได้แวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวระหว่างทาง และแวะร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ปตท. แม่สลวย จากนั้นเดินทางไปเชียงใหม่ ไปขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่เวลา 17.00 น. ก่อนจะเดินทางกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวร่วมกับแฟน แวะปั๊ม ปตท.แม่ขะจาน เพื่อเข้าห้องน้ำ

ทั้งนี้เมื่อทราบผลการตรวจในคืนวันนั้นได้เข้ารับการรักษาในห้องแยกโรคที่โรงพยาบาลจังหวัดพะเยา ต่อมาเช้าวันที่ 1 ธ.ค. รับแจ้งจากรพ.เอกชนจังหวัดเชียงใหม่ว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งตรงกับผลตรวจของรพ.พะเยา และทีมสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขพะเยาได้ค้นหาผู้สัมผัสซึ่งจะมีเพิ่มเติมต่อไป คนเสี่ยงสูง คือ เพื่อนร่วมโต๊ะ และเด็กเสิร์ฟ

รายที่ 2 ที่ กรุงเทพมหานคร เป็นผู้หญิงอายุ 21 ปีโดยประวัติพบว่า วันที่ 17-27 พ.ย.ไปเที่ยวโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิท ที่จังหวัดพิจิตร แล้วเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ทางช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เวลา 05.00 น. ต่อมาเวลา 06.00 น. นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งที่โรงแรมที่พักที่อำเภอแม่สาย ต่อมามีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และเรียกรถแกร็บเดินทางไปสนามบินเชียงรายเพื่อขึ้นเครื่องบินมาที่กรุงเทพฯ ด้วย เที่ยวบิน DD 8717 ลงที่สนามบินดอนเมือง จากนั้นเวลา 17.00 น. นั่งแท็กซี่ กลับที่พัก

ต่อมา วันที่ 29 พ.ย. เวลา 16.30 น. เข้ารับการตรวจที่คลินิกแพทย์และได้รับคำแนะนำให้ไปรพ. ดังนั้น เวลา 17.00 น. นั่งรถยนต์ส่วนตัวกลับมากับแฟนเพื่อตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือแฟน และแท็กซี่

รายที่ 3 จ.พิจิตร เป็นหญิงอายุ 25 ปี ประวัติพบว่า วันที่ 17-27 พ.ย.ไปเที่ยวโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิท ที่กทม. (รายที่ 2) แล้วเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ทางช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เวลา 05.00 น. ต่อมาเวลา 06.00 น. นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งที่โรงแรมที่พักที่อำเภอแม่สาย ต่อมามีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และเรียกรถแกร็บเดินทางไปสนามบินเชียงรายเพื่อขึ้นเครื่องบินมาที่กรุงเทพฯด้วยเที่ยวบิน DD 8717 ลงที่สนามบินดอนเมือง จากนั้นเวลา 17.00 น. ต่อเครื่องจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินพิษณุโลก มีเพื่อนมารับกลับไปยังจังหวัดพิจิตร โดยพักกับเพื่อนที่มารับ มีการรับประทานอาหารที่ร้านเบิร์ด บาร์ จ.พิจิตร ร่วมกับเพื่อนในกลุ่มรวม 4 คน ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. ช่วงเช้ารับประทานก๊วยเตี๋ยว หน้าปากซอยหอพัก ตกเย็นไปที่ร้านบิร์ด บาร์ ต่อด้วยร้าน crocodile Rock pub จ.พิจิตร , วันที่ 30 พ.ย. ไปทำเล็บ ช่วงกลางวันสั่งแกร็บมารับประทาน ช่วงเย็นไปร้านบิร์ด บาร์ ต่อด้วยร้าน crocodile Rock pub , วันที่ 1 ธ.ค. สสจ.พิจิตร เก็บตัวอย่างส่งตรวจพร้อมนำตัวกักดูอาการ ผลตรวจออกมาว่าพบเชื้อโควิด-19

รายที่ 4 จ.ราชบุรี เป็นหญิงอายุ 36 ปี มีประวัติไปทำงานที่สถานบันเทิงที่ประเทศเมียนมาช่วงวันที่ 3-28 พ.ย. สังเกตเห็นว่ามีเพื่อนเริ่มมีอาการป่วย ส่วนเจ้าตัวมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ซื้อยารับประทานเอง เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. เดินทางกลับไทยโดยมีคนเมียนมาเป็นผู้นำทาง มีการเดินทางจากชายแดนไปที่สนามบินเชียงใหม่ ด้วยรถยนต์ของเพื่อน พร้อมแฟนของเพื่อน ทั้งคู่ไม่สวมหน้ากาก จากนั้นนั่งเครื่องบินจากจังหวัดเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯโดยสายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน 10.40 น. ถึงสนามบินดอนเมืองเวลา 12.00 น. แล้วนั่งแท็กซี่จากดอนเมืองไปที่สถานีขนส่งหมอชิตเดินทางต่อด้วยรถตู้ไปลงที่บิ๊กซี จ.ราชบุรี แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างหน้าบิ๊กซีราชบุรี ไปตรวจรักษาที่รพ.เอกชนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. จากนั้นเพื่อนที่ไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันส่งผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 มาให้ผู้ป่วยรายนี้จึงถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชบุรี และมีผลการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อเช่นเดียวกัน ทีมสอบสวนโรคเบื้องต้นมีการใช้เวลาประมาณ 1 วันที่อยู่ในชุมชนดังนั้นมีโอกาสที่จะพบผู้สัมผัสในชุมชนอีก

รายที่ 5 และ 6 จ.เชียงใหม่ เป็นเพศหญิงอายุ 23 ปี และ 25 ปี 2 รายนี้ไม่มีอาการ กลับเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ผ่านพรมแดนธรรมชาติ โดยเข้ามาพร้อมกัน 3 คน เวลา 15.00-17.00 น. โดยเดินเท้า ต่อรถจักยานยนต์รับจ้าง 3 คัน วันที่ 27 พ.ย. ค้างที่บ้านเพื่อนที่อำเภอแม่สาย จากนั้น 28 พ.ย. เวลา 12.00-16.00 น. เหมารถจากอำเภอแม่สายเดินทางพร้อมกัน 3 คนกลับมาที่ที่พัก และหอพักย่านสันติธรรม ระหว่างเดินทางไม่ได้แวะที่ไหน โดยทั้ง 3 คนให้ข้อมูลว่าวันที่ 29 พ.ย. อยู่ที่พักตลอด แต่ทีมสอบสวนโรคอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิด จากนั้นวันที่ 30 พ.ย. ผู้ติดเชื้อจากจังหวัดพะเยา (รายที่ 1) มาหาที่บ้านพัก และหอพักย่านสันติธรรม ในช่วงค่ำ หลังจากไปตรวจหาเชื้อฯ ที่ รพ.เอกชน ต่อมาวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 12.00 น. ไปฟังผลแทนเพื่อนที่รพ.เอกชน ทั้งนี้ทีมสอบสวนโรคสัมภาษณ์ประวัติเพิ่มเติมพบว่า มีประวัติเสี่ยงเดินทางมาจากพื้นที่ระบาดเช่นกัน จึงติดตามเพื่อนอีก 2 รายมาตรวจทั้งหมด กระทั่งเวลา 18.00 น. ผลตรวจพบติดเชื้อ และเข้ารับการรักษาที่รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ส่วนเพื่อนอีก 1 คนที่มาด้วยกันนั้นผลตรวจเป็นลบ จึงกักตัวที่สถานที่แยกกัก