Quantamental (1 ธ.ค.63)

Quantamental (1 ธ.ค.63)

หยุดพักชั่วคราว ก่อนจะแรลลี่ต่อ

เดือน พ.ย. ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์แรง (เกินคาด)

ในบทวิเคราะห์ฉบับเดือน พ.ย. Valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับกลางๆ (ไม่ถูก - ไม่แพง) ขณะที่ ปัจจัยด้าน Momentum อ่อนแอเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ข่าวดีเรื่องวัคซีนโควิด-19 และผลการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ เข้ามาช่วยหนุนให้ตลาดทุนทั่วโลกรีบาวด์ ซึ่งเป็นไปตามที่เราประเมินไว้ว่า ด้วย Valuation ที่อยู่ระดับกลางๆ ขณะที่ Momentum อ่อนแอเล็กน้อย หากมีข้อมูลข่าวสารด้านบวก (ลบ) จะทำให้ตลาดหุ้นไทยเกิดการรีบาวด์ (ลงต่อ) ได้ทั้ง 2 ทาง

มองไปอนาคต Valuation ตลาดหุ้นไทยยังไม่แพงเกินไป

Valuation ของ SET index ในปัจจุบันอาจดูว่าแพง ด้วย Forward PE 26.9 เท่า และ Modified-yield gap (M-yield gap) ที่ -0.88 จุด (อิงประมาณการกำไรปี 2563) อย่างไรก็ดีหากเราเลื่อนการคำนวณ Valuation ของ SET index โดยไปใช้ข้อมูลประมาณการฯปี 2564 จะพบว่ายังมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนอยู่ โดยหากอิงคาดการณ์ EPS ปี 2564 ที่ 78.6 บาท/หุ้น จะได้ว่า Forward PE ลดลงมาอยู่ที่ 17.9 เท่า และ M-yield gap จะอยู่ที่ +0.8 จุด (ค่า M-yield gap เป็นบวก แสดงว่า Valuation ของตลาดหุ้นถูกในเชิงเปรียบเทียบกับตลาดพันธบัตร) ... ทั้งนี้ เราใช้ข้อมูลประมาณการฯจาก Bloomberg consensus

ขณะเดียวกัน Cyclical Adjusted PE (CAPE) ที่เป็นการประเมิน Valuation ระยะยาวล่าสุดอยู่ที่ 17.1 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่า +1.0 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยในอดีต ที่ 19.8 เท่า

ปัจจัยด้าน Momentum ฟื้นตัวดีขึ้น แต่ Short-term reversal น่าจะเกิดขึ้น

Cross-asset class momentum (CAC factor) พลิกกลับมาเป็นบวกโดย i) อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดพันธบัตรย้อยหลัง 12 เดือน +0.2% ต่อเดือน ii) อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นย้อนหลัง 3 เดือน+2.4% ต่อเดือน หากอิงจาก CAC โมเดล เราแนะนำให้นักลงทุนระยะยสั้นกลับเข้าสู่การลงทุนในตลาดหุ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ที่แรงเกินไปในเดือน พ.ย. อาจทำให้เกิดการพักฐาน หรือที่เรียกว่า Short-term reversal ตามทฤษฎีได้ ดังนั้นเราประเมินว่ามีโอกาสที่ดัชนี SET index จะพักฐานในช่วงต้นเดือน ธ.ค.

"Santa Claus rally"

ความผิดปกติของตลาดฯ (Market anomaly) ที่เรียกว่า "Santa Claus rally" คือ การปรับขึ้นของตลาดหุ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของเดือน ธ.ค. และ 2 วันทำการแรกของเดือน ม.ค. ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลในอดีตตั้งแต่ปี 2543 - 2562 พบว่า การลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ดังกล่าวให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ย +1.5% ด้วยอัตราความสำเร็จ 70% โดยเราประเมินว่าความผิดปกติดังกล่าวเป็นผลจากการ ปรับพอร์ตของนักลงทุนเพื่อเตรียมตัวรับ "January effect"

เราประเมินว่ามีโอกาสที่จะเกิด "Santa Claus rally" ในปีนี้เนื่องจาก i) Valuation ของตลาดหุ้นไทยปีหน้ายังน่าสนใจ ii) ปัจจัย Momentum เริ่มดีขึ้น iii) อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังต่ำต่อเนื่อง หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และ iv) ข่าวดีจากวัคซีนโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดังนั้นเราแนะนำนักลงทุนระยะสั้น หาจังหวะเก็งกำไรในช่วงก่อนสัปดาห์สุดท้ายของปี 2563

Sideways, selective buy

ในเชิงการวิเคราะห์ Technical ดัชนี SET index มีโอกาสที่จะพักฐานหลังปรับขึ้นแรง +17.9% ในเดือน พ.ย.โดยเราประเมินแนวรับ 1380 จุด และ 1350 จุด / แนวต้าน 1450 จุด และ 1480 จุด ตามลำดับ

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. เราเลือก BOL และ AH ขณะที่เราแนะนำให้ "ถือ/ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" หุ้นเด่น 2 ตัวที่เราแนะนำไปเมื่อเดือน พ.ย. ได้แก่ PTL และ BLA