เปิดความพร้อมบริหารจัดการ 'โควิดเชียงใหม่' -76จังหวัด

เปิดความพร้อมบริหารจัดการ 'โควิดเชียงใหม่' -76จังหวัด

เปิดผลสำรวจประเมินความพร้อมศักยภาพบริหารจัดการ'โควิดเชียงใหม่' พบได้ 9 คะแนน ขณะที่มีถึง 45 จังหวัดไม่พร้อมเรื่องสถานกักกันมากที่สุด


     จากกรณีที่มีการตรวจพบ 'โควิดเชียงใหม่' โดยเป็นหญิงไทย อายุ 29 ปึเดินทางจากประเทศเมียนมาร์เข้าประเทศไทยจากเชียงรายมายังเชียงใหม่ ซึ่งมีอาการป่วยและมีประวัติไปสถานที่หลายแห่งในเชียงใหม่ มีผู้สัมผัสใกล้ชิดกว่า 300 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 100 คน เมื่อ'โควิดเชียงใหม่'เกิดขึ้น จังหวัดมีความพร้อมในการบริหารจัดการอย่างไร รวมถึงจังหวัดอื่นๆด้วย ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆนี้ มีการปิดเผยถึงความพร้อมในการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ทั้ง 77 จังหวัด รวมถึง ความพร้อมโควิดเชียงใหม่ด้วย

     นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ปาฐกถาเรื่อง “ความสำเร็จของการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณสุขสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในการประชุมวิชาการ แนวโน้มการพัฒนายา วัคซีน  และเทคโนโลยีห้องปฏิบัติการในสถานการณ์การระบาดของโควิด19" ว่า จากการสำรวจตามการประเมินความพร้อมในการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ทั้ง 77 จังหวัด ใน 3 ด้าน คือ 1. ด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค   เช่น การเฝ้าระวังตามเกณฑ์ผู้ต้องสงสัยสอบสวนโรค เฝ้าระวังกลุ่มประชากรเสี่ยง มีห้องแลปตรวจได้เพียงพอและประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสม่ำเสมอ 2.ด้านรักษาพยาบาล เช่น มีคลินิกทางเดินโรคหายใจ มีห้องแยกโรค   และ3.ด้านเศรษฐกิจ สังคมและการมีส่วนร่วมของเครือข่าย เช่น ช่องทางแสดงความคิดเห็น มีสถานที่กับกันตามมาตรฐานและมีแผนเผชิญเหตุและซ้อมแผน

ภาพรวมผลสำรวจ พบว่า ด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคมี 41 จังหวัดไม่พร้อมเรื่องเฝ้าระวังตามเกณฑ์ผู้ต้องสงสัยสอบสวนโรคมากที่สุดด้านรักษาพยาบาล 100% พร้อมเรื่องคลินิกโรคทางเดินหายใจ และ ด้านเศรษฐกิจ สังคมและการมีส่วนร่วมของเครือข่ายมี 45 จังหวัดไม่พร้อมเรื่องสถานกักกันมากที่สุด


หากพิจารณาภาพรวมรายจังหวัด แบ่งได้เป็น 7 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ได้คะแนนเต็ม 10 มี 10 จังหวัดได้แก่ เชียงราย ปราจีนบุรี สมุทรปราการ  นครพนม บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ กระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และพัทลุง

2.ได้9 คะแนน มี 18 จังหวัด ได้แก่ โควิดเชียงใหม่ น่านลำพู นเพชรบูรณ์ นครนายก สระบุรี สิงห์บุรี ลพบุรีประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ระยอง มหาสารคาม อุดรธานี บึงกาฬ สุรินทร์นครราชสีมา พังงา และสงขลา


3.ได้ 8 คะแนนมี 15 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง แพร่ พิษณุโลก ชัยนาทนครปฐม สุพรรณบุรี จันทบุรี ชลบุรี กาฬสินธุ์ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ นครศรีธรรมราช ชุมพร และนราธิวาส


4. ได้ 7 คะแนนมี 13 จังหวัด ได้แก่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ นนทบุรี อยุธยาฉะเชิงเทรา ขอนแก่น เลย สกลนคร อุบลราชธานียโสธร ระนองและปัตตานี


5.ได้ 6 คะแนนมี 13 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ พิจิตรอุทัยธานี ปทุมธานี อ่างทอง สมุทรสาค รกาญจนบุรี สระแก้ว ชัยภูมิ มุกดาหาร สตูลและยะลา


6. ได้ 5 คะแนนมี 3 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ราชบุรีและตราด
และ 7.ได้ 4 คะแนนมี 4 จังหวัด ได้แก่กำแพงเพชร เพชรบุรี หนองคายและตรัง

"จังหวัดอื่นๆที่ยังไม่ผ่านประเมินทั้งหมด  ก็จะมีการกำหนดนโยบายสู่การปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดเพื่อให้ผ่านประเมินต่อไป อาทิ  เสริมความเข้มแข็งของระบบเฝ้าระวังโรคในสถานพยาบาล เพิ่มหน่ววยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อจาก 1 ทีมเป็น 3ทีมต่ออำเภอ  เตรียมสถานที่กักกันตามมาตรฐาน และเตรียมเวชภัณฑ์ ยา และวัสดุอุปกรณ์สำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นต้น"นพ.เกียรติภูมิกล่าว