'เอ็กโก กรุ๊ป' ยื่นแล้ว ขอเป็นผู้รับใบอนุญาตชิปเปอร์นำเข้าLNG รายที่6 ของประเทศ

'เอ็กโก กรุ๊ป' ยื่นแล้ว ขอเป็นผู้รับใบอนุญาตชิปเปอร์นำเข้าLNG รายที่6 ของประเทศ

“เอ็กโก กรุ๊ป” ยื่นขอใบอนุญาตต่อกกพ.หวังเป็นชิปเปอร์นำเข้าแอลเอ็นจี รายที่ 6 ของประเทศ ปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปี ป้อนโรงไฟฟ้าลดต้นทุนผลิตไฟ เสริมศักยภาพแข่งขัน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นขอใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีแผนจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปี เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าของบริษัท

โดยการนำเข้าในส่วนนี้ เป็นปริมาณก๊าซฯส่วนเกินจากสัญญาซื้อขายก๊าซฯระยะยาวจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ซึ่งจะนำเข้า LNG ดังกล่าว มาป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม กำลังผลิตติดตั้งรวม 256 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม กำลังการผลิตติดตั้งรวม 121 เมกะวัตต์

160620617752

อีกทั้ง จะนำเข้ามาป้อนเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจน จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าทดแทน (SPP Replacement) กำลังการผลิตระหว่าง 100-120 เมกะวัตต์ ที่จะหมดสัญญาในปี 2567 โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ไม่มีสัญญาใหม่กับทาง ปตท. ซึ่งการนำเข้า LNG ดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าให้กับบริษัท และทำให้สามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น

“การยื่นขอใบอนุญาต LNG Shipper นอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าก๊าซฯแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการทำธุรกิจ LNG ในอนาคตของ เอ็กโกฯ ที่มองโอกาสต่อยอดการลงทุน LNG Value Chain ทั้งธุรกิจต้นน้ำและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ”

160620619660

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ราคา LNG ตลาดจร (Spot) ในปัจจุบัน จะเป็นช่วงขาขึ้นและมีราคาแพงกว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติในประเทศนั้น บริษัทฯ ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำเข้าLNG จะเป็นการพิจารณาดำเนินการในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม โดยมองถึงการนำเข้าในลักษณะของสัญญาระยะสั้น Spot และสัญญาระยะยาว

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ประกอบการที่ได้รับ ใบอนุญาต LNG Shipper จาก กกพ. จำนวน 5 ราย ได้แก่ ปตท. ,กฟผ, กัลฟ์ฯ, หินกองฯ, และบี.กริม ซึ่งหาก เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับการอนุมัติก็จะเป็นรายที่ 6 ของประเทศ