'ถาวร' เปิดข้อมูล 'ธนาธร-ปิยบุตร' หนุนม็อบเคลื่อนไหวชุมนุม
"ถาวร" ร่ายยาวอัด "ธนาธร-ปิยบุตร" เบื้องหลังม็อบชุมนุม เชื่อตั้งเป้าล้มสถาบัน-เปลี่ยนแปลงการปกครอง หนุน 5 ทางออกสกัด "สงครามกลางเมือง"
ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ส.ส.สงขลา แถลงข่าวถึงการชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรว่า การชุมนุมครั้งนี้มีคนบงการอยู่เบื้องหลังโดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เป็นสะพานเชื่อมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีเป้าหมายล้มสถาบันฯ แต่เลี่ยงไปใช้คำว่าปฏิรูป เพราะปรากฏความสอดคล้องระหว่างหลักคิดของคนบงการ ซึ่งถูกนำไปปฏิบัติในการชุมนุมที่เป็นหลักคิดชุดเดียวกัน เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสถาบันฯ เพราะคิดว่าสถาบันฯ เป็นอุปสรรคการก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองของกลุ่มตน
นายถาวร กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2559 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไปพูดที่มหาวิทยาลัยลอนดอน เรื่องThailand in a Deeper State of Crisis? โดยกล่าวหาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ว่ามีอำนาจอิทธิพลเหนือผู้พิพากษา อันเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งปรากฏตามคลิปวิดีโอและปรากฏตามเอกสารซึ่งเข้าลักษณะทฤษฎีสมคบคิด โดยสิ่งที่นายปิยบุตรบิดเบือนเพราะพระราชดำรัสที่ตรัสต่อศาลในวันที่ 24 เม.ย.2549 นั้น ในหลวงไม่ได้สั่งศาล และทรงย้ำว่าไม่เคยใช้อำนาจของพระองค์ตามที่นายปิยบุตรบิดเบือน
นายถาวร กล่าวว่า ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ได้ร่วมกันสมคบคิดนั้น ปรากฏตามหนังสือ Portrait ธนาธร(2561) หน้า 277 ว่า "...วิธีการของเราคือต้องมีอำนาจและต่อรอง (กับ) ×××× นี่ต่างหากคือเป้าหมาย ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้เอาทหารออกจากการเมืองไม่ได้หรอก จัดการเรื่องนี้ไม่ได้ จัดการเรื่องศาลไม่ได้หรอก..." ดังนั้นนายธนาธร กับนายปิยบุตร มาตั้งพรรคอนาคตใหม่ พุ่งเป้าสถาบันฯ แต่ลดโทนลงเพื่อลดแรงกดดันจากสังคม จนกระทั่งในที่สุดพรรคได้ถูกยุบเพราะผู้บริหารพรรคทำผิดกฎหมาย
"อีกเหตุการณ์ที่เหยียบย้ำความรู้สึกของคนไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562 เกิด Flash Mob ในช่วงบ่ายนายธนาธร ไปพูดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บอกว่า มี 2 ทางเลือกในการแก้รัฐธรรมนูญ คือยินยอมพร้อมใจกันทุกฝ่าย หรือแก้ด้วยเลือด และในวันนั้นมีผู้ร่วมชุมนุมชูป้าย อันมิบังควรซึ่งข้างหลังเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นครั้งแรกที่แสดงการจาบจ้วงเชิงสัญลักษณ์ในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย และมีอีกหลายครั้ง เช่น นายปิยบุตร แสดงความคิดเห็นหรือโพสต์ข้อความ เมื่อ 27 ก.ค.2563 “3 วันอันยิ่งใหญ่ของประชาชนในการลุกขึ้นสู้โค่นล้ม Charles X เปลี่ยนเป็นระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ (ปฏิวัติฝรั่งเศส ปี ค.ศ.1789) อยากทราบว่านายปิยบุตรมีวัตถุประสงค์อะไร"นายถาวร กล่าว
นายถาวร กล่าวว่า ทั้งนี้ ในระยะเวลา 8 เดือน สามารถยกระดับการชุมนุมต่อต้านสถาบันจากเชิงสัญลักษณ์และปกปิด มาเป็นการเสนอข้อเรียกร้องอย่างเปิดเผย ซึ่งนายธนาธร บอกว่า ประตูบานแรกเปิดขึ้นแล้วเป็นการยื่นข้อเสนอเพื่อปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์รวมทั้งนายธนาธรพูดเองว่า จำเป็นต้องพูดเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังจากก่อนหน้านี้พูดอ้อมๆ มาตลอด ทั้งนี้ สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ในระยะเวลารวดเร็ว เพราะมีการดำเนินการจัดตั้งเครือข่าย หล่อหลอมความคิดผ่านกระบวนการ Hate Speech ต่อต้านสถาบันฯในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ผ่านเทคโนโลยีโซเซียลมีเดีย และการสนับสนุนของต่างชาติบางประเทศมหาอำนาจ และรัฐบาลตามไม่ทันโดยอ้างว่าปฏิรูปไม่ใช่การล้มล้าง แต่ในความเป็นจริงเป็นพฤติกรรมตรงกันข้าม เป็นสร้างความเกลียดชัง มุ่งอาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ โดยปรากฏเป็นเหตุการณ์การบุกเข้าขัดขวางขบวนเสด็จของพระราชินีและพระองค์ทีในวันที่14 ต.ค.2563
นายถาวร กล่าวว่า ขณะที่การชุมนุมวันที่ 17 พ.ย.ม็อบไม่ได้มีการชุมนุม แต่มุ่งยกระดับโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ารัฐสภา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลัง ซึ่งเป็นไปตามยุทธวิธีสงครามประชาชน และได้ทำมาเป็นลำดับจากการโฆษณาชวนเชื่อ การโจมตีฝ่ายตรงข้าม การบังคับให้เลือกข้าง มาจนถึงยกระดับจากการชุมนุมประท้วงเป็นการก่อจราจล โดยมุ่งหวังให้เกิดการก่อวินาศกรรมและสงครามกลางเมือง เพื่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย นำไปสู่ความรุนแรง การนองเลือด ภาวะรัฐล้มเหลว ซึ่งสอดคล้องกับยุทธวิธีสงครามประชาชนที่กล่าวไปแล้วข้างต้นเห็นได้จากการไล่เรียงเหตุการณ์ มาเป็นลำดับ ดังนี้
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ได้โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรงและหยาบคาย โดยเฉพาะการโจมตีและสร้างข่าวเท็จใส่ร้ายสมเด็จพระพันปีหลวงฯ จนนำไปสู่ความโกรธแค้นของประชาชนที่จงรักภักดีจำนวนมากทำให้รัฐบาลต้องออกแถลงการณ์ประกาศบังคับใช้กฎหมายทุกหมวด ทุกมาตรากับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเฉพาะกฎหมายมาตรา 112
เมื่อวันที่ 20 - 21 พ.ย. ผู้ชุมนุมตอบโต้การบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 โดยประกาศแผนการเข้าบุกล้อม เพื่อยึดสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในวันที่ 25 พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผู้ก่อการเตรียมการยกระดับสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรง โดยเปลี่ยนการ์ดม็อบ จากการ์ดอาชีวะมาเป็นการ์ดรบพิเศษ พร้อมประกาศรับสมัครการ์ดอาสาใหม่เพื่อรับสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรงให้ได้ตามยุทธการสงครามประชาชนข้างต้น
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. การชุมนุมบริเวณถนนอักษะขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไปชุมนุมที่นั่น
ทั้งนี้ นายถาวร ได้เสนอแนวทางออกของประเทศเพื่อหยุดยั้งภาวะที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมือง ดังนี้ 1.ผู้บงการทุกระดับชั้นที่ทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ส่วนผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเหยื่อการโฆษณาชวนเชื่อควรได้รับการยกเว้น 2.นักการเมือง และพรรคการเมืองใด ที่ต้องการปฏิรูปสถาบันฯ ให้ประกาศตัวยอมรับให้ชัดเจนต่อสาธารณชน 3.คัดค้านการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ว่าจะอธิบายขยายความด้วยถ้อยคำความหมายแบบใดก็ตาม
4.คัดค้านการทำรัฐประหารอันจะนำไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองซ้ำเดิม รวมถึงทำให้สถาบันฯ ตกเป็นเป้าโจมตีของผู้ชุมนุมและต่างชาติ 5.ดำเนินการตรวจสอบทุจริตของรัฐบาล นักการเมือง และข้าราชการอย่างจริงจังรวมถึงการปฏิรูปนักการเมือง พรรคการเมือง ปฏิรูปประเทศให้เกิดความปรองดอง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง