'ฮ่องกง' ผงาดอันดับ 1 เมืองค่าครองชีพแพงสุดในโลก 'กรุงเทพฯ' ร่วงอยู่อันดับ 46

'ฮ่องกง' ผงาดอันดับ 1 เมืองค่าครองชีพแพงสุดในโลก 'กรุงเทพฯ' ร่วงอยู่อันดับ 46

อีไอยู เผยผลสำรวจประจำปี เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ คือ ฮ่องกง ขณะที่ สิงคโปร์ และโอซากา ตกจากอันดับหนึ่ง และกรุงเทพมหานครร่วงลงไปอยู่อันดับ 46

ผลการสำรวจประจำปีของ ดิ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต หรือ อีไอยู ที่เผยแพร่วันพุธ (18 พ.ย.) ระบุว่า เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกในปีนี้ คือ ฮ่องกง, เมืองซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ และกรุงปารีสของฝรั่งเศส โดยซูริกและปารีสแซงสิงคโปร์และโอซากาสู่อันดับ 1 เนื่องจากเงินฟรังซ์สวิสและเงินยูโรแข็งค่าขึ้น

ขณะที่สิงคโปร์ตกไปอยู่อันดับ 4 ตามด้วยนครเทลอาวีฟของอิสราเอล และนครโอซากาของญี่ปุ่นอยู่ในอันดับ 5 ส่วนนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ และนครนิวยอร์กของสหรัฐอยู่ในอันดับ 7 นอกจากนี้ กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก และนครลอสแองเจลิสของสหรัฐอยู่ในอันดับ 9

ทั้่ง 10 เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งจาก 133 เมืองทั่วโลกที่ถูกสำรวจ และมีการเปรียบเทียบค่าครองชีพจากราคาสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันรวม 138 รายการ โดยการเปลี่ยนแปลงอันดับในปีนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากสถานการณ์ระบาดของของโควิด-19 ทั่วโลกและผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาด โดยสินค้า อย่าง ยาสูบ และบริการด้านนันทนาการ มีราคาสูงขึ้นมากที่สุด ขณะที่เสื้อผ้ามีราคาลดลงมากที่สุด

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ค่าครองชีพในสิงคโปร์ตกลง คือ การอพยพออกของแรงงานต่างชาติในช่วงโควิด-19 ประกอบกับจำนวนประชากรหดตัวเป็นครั้งแรกนับจากปี 2546 ทำให้ความต้องการบริโภคลดลง และเกิดภาวะเงินฝืด ส่วนโอซากามีลักษณะคล้ายกัน โดยดัชนีราคาสินค้าบริโภคคงที่และรัฐบาลญี่ปุ่นอุดหนุนค่าใช้จ่ายต่รงๆ เช่น ค่าโดยสารของะบบขนส่งสาธารณะ ขณะที่กรุงเทพมหานครร่วงลง 20 อันดับไปอยู่ที่อันดับ 46

ผลสำรวจในปีนี้ยังพบว่า เมืองส่วนใหญ่ของจีนมีค่าครองชีพแพงขึ้นสืบเนื่องจากสงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน