'ทูต5ชาติ' แนะ 'ไทย' ฟื้นเศรษฐกิจ ติดเทอร์โบ

'ทูต5ชาติ' แนะ 'ไทย' ฟื้นเศรษฐกิจ ติดเทอร์โบ

เอกอัครราชทูต " สหรัฐ - ออสเตรเลีย - อังกฤษ - ญี่ปุ่น - เยอรมนี " ตั้งวงเสนอแนะ ไทย ฟื้นเศรษฐกิจติดเทอร์โบ ชี้ไทยควรช่วงชิงโอกาสที่ห่วงโซ่อุปทานโลกชะลอตัวจากวิกฤติโควิดปฏิรูประบบการขออนุญาตทำธุรกิจที่ซับซ้อนให้ง่ายขึ้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงไทย หนึ่งในเป้าหมายใหม่ที่หลายประเทศเล็งใช้เป็นฐานการผลิตและย้ายซัพพลายเชนมายังไทย ซึ่งธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ จัดให้ ไทย อยู่ในอันดับที่ 21 ของโลกในฐานะประเทศที่มีความง่ายในการทำธุรกิจ และอยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย

ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย จัดสนทนาโต๊ะกลมเรื่อง “กุญแจสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังโควิด-19 แบบเร่งด่วน : การปรับสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจให้ง่ายขึ้น” โดยมีเอกอัครราชทูตจาก 5 ประเทศได้แก่ สหรัฐ ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่นร่วมเสนอมาตรการทางเศรษฐกิจ ตลอดจนข้อคิดเห็นจากภาคธุรกิจในเครือข่ายของแต่ละประเทศ เพื่อสนับสนุนไทยให้ปรับปรุงกฎระเบียบการดำเนินธุรกิจ และประกอบการพิจารณาเปิดประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคโควิด

ไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐ " กล่าวยืนยันถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นในการสนับสนุนไทยในการปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงระเบียบการทำธุรกิจ เพื่อให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางด้านการลงทุน โดยเฉพาะการย้ายห่วงโซ่อุปทานและฐานการผลิตมายังไทย ปัจจุบัน บริษัทต่างชาติจากทั้ง 5 ประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเกือบ 4,000 แห่ง และสร้างการจ้างงานมากกว่า 2 ล้านตำแหน่ง ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย

"ไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน แต่สามารถทำให้ดียิ่งขึ้นอีกได้ ตามข้อเสนอ 10 มาตรการในการยกระดับไทยสู่ 10 อันดับประเทศของโลกที่ประกอบธุรกิจได้ง่ายที่สุด แม้ต้องเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เหมือนเป็นหน้าต่างแห่งโอกาส เพราะในช่วง 3 - 4 เดือนที่กำลังฝ่าวิกฤติไวรัสให้ผ่านพ้นไป ไทยสามารถปฏิรูประบบตามข้อเสนอ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็วได้" ดีซอมบรี กล่าว 

160568507262

ทูตสหรัฐเห็นว่า การเข้าถึงแรงงานมีฝีมือเป็นเรื่องสำคัญในทุกประเทศ และรัฐบาลไทยก็มีมาตรการที่ผ่อนคลายช่วยแรงงานที่มีฝีมือเข้ามาในประเทศ แต่ยังมีกฎระเบียบบางอย่างที่เป็นอุปสรรคและความท้าทายในการนำแรงงานต่างชาติที่มีฝีมือเข้ามาในประเทศ จึงอยากเห็น ไทย เปิดกว้างมากขึ้น ไม่เฉพาะอุตสาหกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้ และช่วยอัพสกิลแรงงานท้องถิ่น โดยไม่ต้องกลัวว่าจะแย่งงานคนไทย ในปัจจุบันบริษัทในเครือข่ายหอการค้าสหรัฐได้ลงทุนในไทยคิดเป็นมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และขอยืนยันว่า สหรัฐยังต้องการลงทุนในไทยต่อไป


" อัลลัน แมคคินนอน เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย " กล่าวว่า สถานการณ์ในไทยคล้ายกับออสเตรเลียที่สามารถคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดี และยังออกมาตรการจำกัดการข้ามแดนและการท่องเที่ยวที่เข้มงวด ทำให้สกัดการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็แลกมาด้วยต้นทุนทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งพบว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ในไทยลดลง 40% ดังนั้นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจึงมีความสำคัญมากในภาวะแบบนี้

160569782922

"ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของออสเตรเลีย ทั้งในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจ ออสเตรเลียมีบริษัทประกอบธุรกิจในไทยมากกว่า 300 บริษัท และยังมีบริษัทอีกมากที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย ในด้านสตาร์ทอัพ ฟินเทค ธุรกิจในวงการสาธารณสุข อาหารแปรรูป และโลจิสติกส์ " เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย กล่าว

ด้าน " ไบรอัน เดวิดสัน เอกอัครราชทูตอังกฤษ " มองว่า ไทยเป็นฐานการลงทุนที่สำคัญและแข็งแกร่งของอังกฤษในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอยากให้ไทยคงสถานะประเทศผู้แข่งขันกับคู่ค้าต่างๆ และสามารถดึงดูดการลงทุนไม่เฉพาะมายังไทย แต่รวมถึงอาเซียน โดยไทยสามารถใช้ช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดโควิดลดอุปสรรคที่ขัดขวางการลงทุนจากต่างชาติได้

1605702901100

"แม้ว่าไทยเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการทำธุรกิจ แต่ยังมีคู่แข่งอีกมากมายในภูมิภาคนี้ เช่น เวียดนาม ซึ่งสภาหอการค้าอังกฤษมองว่า ไทยสามารถช่วงชิงโอกาสตอนนี้ที่ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกเกิดการชะลอตัวจากวิกฤติโควิด ทำการปฏิรูประบบการขออนุญาตทำธุรกิจและขั้นตอนศุลกากรที่ซับซ้อนให้เป็นรูปแบบดิจิทัล เพื่อคงการเป็นประเทศดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามายังไทย" เอกอัครราชทูตอังกฤษ ระบุ

ขณะที่ " นะชิดะ คะสุยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น " เสนอแนะถึงความเป็นไปได้ที่นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นจะเดินทางเข้าไทย โดยมีระยะเวลากักตัวน้อยกว่า 14 วัน ในลักษณะการเดินทางเพื่อธุรกิจแบบเร่งด่วน (Fast Track Entry) โดยยืนยันว่าจะปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขของไทยในด้านอื่นๆอย่างเคร่งครัด

160570293490

"ปัจจุบันมีบริษัทญี่ปุ่น ในไทยกว่า 6,000 แห่ง รวมถึงบริษัทที่ไม่ใช่สมาชิกสภาหอการค้าญี่ปุ่น– กรุงเทพ (เจซีซี) ต่างต้องการให้รัฐบาลไทยผ่อนปรนมาตราการเปิดรับนักธุรกิจต่างชาติเข้าประเทศ จะช่วยให้การเจรจาธุรกิจมีความต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้ามาปฏิบัติงาน ดูแลรักษาสายพานการผลิตที่อาจใช้เวลาทำงานน้อยกว่าระยะเวลาการกักตัว" เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นกล่าว และว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นได้ทำข้อตก Fast Track Entry กับเกาหลีใต้ สิงคโปร์และเวียดนามแล้ว เพื่อให้การเดินทางเพื่อธุรกิจมีความต่อเนื่อง

" เกอร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตเยอรมนี " เรียกร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย และลดขั้นตอน หรือกฏระเบียบทางการค้าที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุด รวมทั้งลดการใช้เอกสารกระดาษที่เกี่ยวข้องกับพิธีการศุลากรการค้าผ่านแดน การขอคืนภาษี ใบแจ้งหนี้สินค้า การต่ออายุใบอนุญาต และการรับรองสำเนาเอกสารต่างๆ โดยให้เปลี่ยนไปเป็นระบบดิจิทัล เพื่อให้บริการเหล่านี้มีความง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทาปัญหาโลกร้อน

เอกอัครราชทูตเยอรมนี ย้ำว่า ไม่ได้กังวลเรื่องความสามารถในการแข่งขันเพราะยังเชื่อมั่นว่า ไทยควรถูกจัดอยู่ในประเทศที่ดีที่สุดของอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ

160570298074

160568610790