นายกฯปลื้ม 'คนละครึ่ง' ประสบความสำเร็จ หนุนร้านค้าร่วม 1 ล้านราย

นายกฯปลื้ม 'คนละครึ่ง' ประสบความสำเร็จ หนุนร้านค้าร่วม 1 ล้านราย

นายกฯปลื้ม 'คนละครึ่ง' ประสบความสำเร็จ ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ตั้งเป้าร้านค้าเข้าร่วม 1 ล้านราย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินโครงการคนละครึ่งเป็นอย่างมาก ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งประชาชนและร้านค้า สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน เงินสะพัดในชุมชน เจ้าของร้านค้า หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ต่างก็มีรายได้เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชันก็สะดวก

โดยความคืบหน้าล่าสุด ข้อมูลจากกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.23 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7.1 ล้านคน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 7,629 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 3,888 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 3,741 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 216 บาทต่อครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเปิดให้มีการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง รอบสอง ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ช่วง 06.00-23.00 น. และในส่วนของการเพิ่มจำนวนร้านค้า

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ไปก่อนหน้านี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังร่วมกันอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย เพราะมีจำนวนมากที่สนใจร่วมโครงการฯ แต่มีความกังวลเรื่องการทำธุรกรรมผ่านมือถือและวิธีการลงทะเบียน

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทั่วประเทศ เร่งประชาสัมพันธ์โครงการฯ และอำนวยความสะดวกในเรื่องการรับรองว่าเป็นร้านค้าจริง ตั้งเป้าอยากให้มี 1 ล้านร้านค้า จะได้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ที่ผ่านมา จำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นมาก จาก 3 แสนร้าน ช่วงปลายเดือน ต.ค. เป็น 5.23 แสนร้านแล้ว และในจำนวนนี้เป็นหาบเร่แผงลอย มากว่า 7 หมื่นราย

“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกังวลก็คือ การฉวยโอกาสจากโครงการฯ เช่น การคิดราคาสินค้าที่สูงขึ้น หรือการทำธุรกรรมที่ไม่มีการซื้อขายจริง รัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ อย่าให้มีการดำเนินการไปในทางมิชอบ ไม่ทำลายบรรยากาศของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง

ซึ่งรัฐบาลตั้งใจจริงให้โครงการนี้ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โดยใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและโปร่งใส

ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ได้วางระบบการป้องกันการทุจริตในกิจกรรมที่เกี่ยวกับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไว้แล้ว และจะมีการระงับการใช้แอพพลิเคชันตลอดจนการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที หากพบการใช้จ่ายผิดเงื่อนไข และอาจมีการดำเนินการตามกฎหมายตามความผิดฐานฉ้อโกง ” รองโฆษกฯ กล่าว