'Cartier' ประวัติ-เปิดกรุผลงานวินเทจสุดวิจิตรในกรุงเทพฯ

ลักชัวรี่, ไฮเอนด์, แบรนด์เนม และถ้อยคำอื่นๆ ที่แสดงถึงความหรูระยับ ความประณีต คุณภาพ และราคา ล้วนคือคำอธิบายความเป็น คาร์เทียร์ (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสุดหรูของโลก

คาร์เทียร์ ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์สินค้าเครื่องประดับและนาฬิกาหรูสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านดีไซน์ การผลิตระดับฝีมือช่างศิลป์ไร้ที่ติด้วยคุณภาพอัญมณีและวัตถุดิบอันยอดเยี่ยม ก่อตั้งโดย มร.หลุยส์ ฟรองซัวร์ คาร์เทียร์ (Louis-François Cartier) เมื่อปีค.ศ.1847

มร.หลุยส์ ฟรองซัวร์ คาร์เทียร์ ค.ศ.1819-1904

จุดกำเนิดของคาร์เทียร์เดิมเป็นร้านจิวเวลรี่เล็กๆ ที่ ถนน Montorgueil ในปารีส มร.หลุยส์รับช่วงกิจการต่อจาก มร.อดอล์ฟ พิการ์ด  (Adolphe Picard) สุดยอดช่างทำนาฬิกาขณะนั้น ซึ่งมร.หลุยส์ได้เรียนรู้เทคนิครวมถึงวิธีการต่างๆ จากอดอล์ฟจนเชี่ยวชาญ

ผู้สืบทอดร้านคาร์เทียร์ต่อจากมร.หลุยส์ก็คือลูกชายของเขาเองชื่อ อัลเฟรด คาร์เทียร์ (Alfred Cartier) และคนที่ทำให้คาร์เทียร์ก้าวสู่ความมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกคือ หลุยส์ (Louis), ปิแอร์ (Pierre) และ ฌาคส์ (Jacques) ลูกชายทั้งสามคนของอัลเฟรด ถือเป็นจุดเปลี่ยนอันยิ่งใหญ่ของคาร์เทียร์ทั้งเครื่องประดับและนาฬิกา

มร.อัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ และนาฬิกาข้อมือรุ่น Santos de Cartier (credit photo : www.en.cartier.com)

ผลงานสร้างชื่อให้กับคาร์เทียร์ที่หลุยส์ออกแบบคือนาฬิกาข้อมือรุ่น Santos de Cartier (ซานโตส เดอ คาร์เทียร์) เริ่มจากในปีค.ศ.1904 (พ.ศ.2447) เมื่อ อัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ (Alberto Santos-Dumont) เพื่อนนักบินชาวบราซิลของหลุยส์ ออกปากเปรยกับเขาถึงความเทอะทะของนาฬิกาแบบพกพา ทั้งยังไม่สะดวกหยิบมาดูเวลาขณะทำการบิน

หลุยส์จึงออกแบบนาฬิกาข้อมือที่มีหน้าปัดแบน-กรอบสี่เหลี่ยม ไม่เพียงแต่เพื่อนนักบินของเขาจะชอบ ลูกค้าคนอื่นๆ ก็ชอบด้วย หลุยส์จึงตั้งชื่อนาฬิการุ่นนี้ว่า “ซานโตส เดอ คาร์เทียร์” และเป็นนาฬิกาข้อมือผู้ชายรุ่นแรกของคาร์เทียร์

หลุยส์เป็นกำลังสำคัญในการออกแบบของคาร์เทียร์ เขาชื่นชอบศิลปะแบบ Art Deco และเชี่ยวชาญศิลปะตะวันออก เขารู้วิธีผสมผสานการออกแบบจากความชอบนี้เพื่อเพื่อให้อัญมณีและวัสดุล้ำค่าที่นำมาประกอบกันเปล่งประกายความงามอย่างที่สุด

ตำนานอันทรงเกียรติแห่งคาร์เทียร์ (credit photo : www.en.cartier.com)

คาร์เทียร์ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้ออกแบบเครื่องประดับสำหรับราชวงศ์ในหลายประเทศ กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร (King Edward VII of Great Britain) ทรงเลือกคาร์เทียร์ให้ทำงานออกแบบมงกุฎ 27 องค์ สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองคในปีค.ศ.1902 ทรงมีพระราชดำรัสชื่นชม “คาร์เทียร์” ว่า “Jewellers of the King and King of Jewellers” (ช่างอัญมณีสำหรับราชา และราชาแห่งช่างอัญมณี)  รวมถึงพระราชทาน ตราสินค้ารับรองจากราชสำนัก (royal warrant of appointment) ให้คาร์เทียร์ในปีค.ศ.1904 เช่นเดียวกับราชสำนักสเปน โปรตุเกส และรัสเซีย ที่พระราชทานให้คาร์เทียร์ในเวลาต่อมาเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันคาร์เทียร์ขยายสาขาได้มากกว่า 200 แห่งใน 125 ประเทศ และจากรายงานประจำปี 2020 การจัดอันดับ “100 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก” ของ Forbes พบว่า คาร์เทียร์ ติดอยู่ในอันดับที่ 56

เป็นโอกาสดีสำหรับสาวกคาร์เทียร์ในเมืองไทย หรือผู้สนใจศึกษางานออกแบบของคาร์เทียร์ เมื่อ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) และ มร.แฮรี่ เฟน จับมือร่วมกันจัดงาน  Lotus Arts de Vivre x Obsidian Objets d’Art : A moment of serendipity – A vintage Cartier Collection นำของสะสมเครื่องประดับและนาฬิกาวินเทจแบรนด์คาร์เทียร์รุ่นคลาสสิกของ มร.แฮรี่ เฟน เจ้าของแบรนด์ Obsidian Objets d’Art (ออบซิเดียน ออบเจคท์ เดอ อาร์ต) แห่งกรุงลอนดอน มาจัดแสดงและพร้อมแบ่งปันคอลเลคชั่นให้นักสะสมชาวไทยได้ครอบครอง

ผลงานแต่ละชิ้นที่นำมาจัดแสดง ผลิตขึ้นระหว่างปีค.ศ.1910-1991 (พ.ศ.2454-2518)  อาทิ

Cartier Square Onyx and Diamond Lady’s Wristwatch - รุ่น Nain Jaune

นาฬิกาวินเทจสำหรับผู้หญิง Cartier Square Onyx and Diamond Lady’s Wristwatch - รุ่น Nain Jaune ตั้งตามชื่อเกมกระดานของฝรั่งเศส โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดงผลิตขึ้นในปีค.ศ.1913-1914 (พ.ศ.2456-2457) โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเงินล้อมเพชร ประมาณ 0.8 กะรัต ตัดกับมุมที่ประดับด้วยโอนิคส์ (Onyx)  เข็มทรงเบรเกต์ (Breguet) สีน้ำเงิน และตัวเลขโรมันสีดำ จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เม็ดมะยมทำด้วยไพลิน สายผ้าสีดำ

Cartier Platinum and Diamond ‘Tortue’

Cartier Tortue นาฬิกาคาร์เทียร์รุ่น ตอร์ตู ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ‘เต่า’ โดยคาร์เทียร์ได้เปิดตัวนาฬิกาที่มีดีไซน์วงรีในปีค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) และกลายเป็นรุ่นยอดนิยมตลอดกาลรุ่นหนึ่งของแบรนด์ สำหรับรุ่นที่นำมาจัดแสดงคือ Cartier Platinum and Diamond ‘Tortue’ ผลิตในช่วง ค.ศ.1919-1920 (พ.ศ.2462-2463) หรือมีอายุราว 101 ปี ตัวเรือนสีโรสโกลด์ประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงโรสคัท (Rose Cut Diamond) น้ำหนัก 3 กะรัต เข็มทรงเบรเกต์สีน้ำเงิน ตัวเลขโรมันสีดำ สายผ้าสีดำ สวยสง่าแบบเฟมินีน

 

Cartier A Square Diamond Set Lady’s Evening Wristwatch

Cartier A Square Diamond Set Lady’s Evening Wristwatch เรือนนี้อายุราว 109 ปี ผลิตในปีค.ศ.1911-1912 (พ.ศ.2454 -2455) เป็นนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมล้อมเพชรรุ่นแรกๆ ดีไซน์บาง 6 มิลลิเมตร สะท้อนความสง่างามของผู้หญิง ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพชรทรงโรสคัท 3.2 กะรัต หน้าปัดสีเงิน ตัดกับตัวเลขโรมันสีดำ เข็มทรงเบรเกต์สีน้ำเงิน จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ

A Platinum, Diamond and Onyx Lady’s Wristwatch

A Platinum, Diamond and Onyx Lady’s Wristwatch ผลิตขึ้นเมื่อ ค.ศ.1919 (พ. ศ.2462) หรือ 101 ปีก่อน หากย้อนกลับไปในช่วงต้นปี ค.ศ.1910 (พ.ศ.2453) คาร์เทียร์แบรนด์ที่ไม่ได้วิ่งตามแฟชั่น แต่ถือคติห้ามลอกเลียนแบบ จงสร้างสรรค์ ได้นำสีดำและสีขาวมาใช้ ซึ่งเป็นรูปแบบของศิลปะแนว ‘อาร์ต เดโค’ ซึ่งเป็นศิลปะที่หลุดพ้นจากความเป็นคลาสสิกเข้าสู่ยุคเริ่มต้นของ Modernism เริ่มในช่วงปี ค.ศ.1925-1939 (พ.ศ.2468-2482) เป็นศิลปะที่เน้นการใช้เส้นโค้ง เส้นตรงเรียบง่าย แต่ดูแข็งแรง โดดเด่นในลักษณะที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต สะท้อนความหรูหราและสง่างาม นาฬิกาเรือนนี้มีหน้าปัดสีเงิน ตัวเลขโรมันสีดำ เข็มทรงเบรเกต์สีน้ำเงิน จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ ตัวเรือนทองคำขาวล้อมเพชร น้ำหนักโดยประมาณ 2.5 กะรัต และโอนิคส์ (นิลดำ) สายผ้าสีดำ

Cartier Round Platinum and Diamond Wristwatch

Cartier Round Platinum and Diamond Wristwatch คาร์เทียร์ผู้ปฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยการคิดค้นนาฬิกาข้อมือ โดยในปีค.ศ.1907 (พ.ศ.2450) คาร์เทียร์เริ่มสร้างนาฬิกาข้อมืออย่างจริงจังและเป็นสิ่งที่ชนชั้นสูงในสมัยนั้นต่างถวิลหาอยากครอบครอง โดยนาฬิกาเรือนที่นำมาแสดงนี้ผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1919 (พ. ศ.2462) เด่นด้วยดีไซน์ทรงกลม เป็นดีไซน์ที่หาได้ยากของคาร์เทียร์ หน้าปัดสีเงิน ล้อมเพชรประมาณ 3 กะรัต ตัวเลขโรมันสีดำ เข็มทรงเบรเกต์สีน้ำเงิน จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

Cartier Antique Diamond Lady’s Cocktail Watch

Cartier Antique Diamond Lady’s Cocktail Watch นาฬิกาเรือนนี้ผลิตเมื่อ 93 ปีก่อน ในปี ค.ศ.1927 (พ.ศ.2470) ตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดทรงสีเหลี่ยมล้อมเพชร ตัวเลขอารบิก เข็มทรง Èpée หรือ ‘ทรงดาบ’ จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเรือนด้วยสายนาฬิกาดีไซน์แบบสายเชือกสีดำ

Cartier Antique Tank Normale Diamond set cocktail

ใครที่หลงใหล Cartier Tank สุดยอดดีไซน์คลาสสิกจนกลายเป็นตำนานของคาร์เทียร์ต้องไม่พลาดยลโฉม  Cartier Antique Tank Normale Diamond set cocktail ซึ่งมีอายุกว่า 98 ปี ผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1922 (พ.ศ.2465) โดย Cartier Tank เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1917 (พ.ศ.2460) นาฬิกาเรือนที่นำมาโชว์นี้เป็นรุ่นที่สวยงามโดดเด่นด้วยเพชรเจียระไนทรงโรสคัท 2.50 กะรัต หน้าปัดสีเงิน ตัวเลขโรมัน เข็มแบบเบรเกต์สีน้ำเงิน จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ

Cartier Tank Normale

Cartier Tank Normale เรือนนี้ผลิตในปี ค.ศ.1929 (พ.ศ. 2472) หรือ 91 ปีก่อน เป็นดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา คงความคลาสสิกจนถึงปัจจุบัน หน้าปัดสีเงิน ตัวเลขโรมัน เข็มแบบเบรเกต์สีน้ำเงิน จุดแสดงเวลานาทีเป็นรูปรางรถไฟ เข้ากันได้อย่างลงตัวกับสายหนังสีน้ำตาล ตัวเรือนหนา 5.5 มิลลิเมตร

Cartier Tank Cintrée–Curved

Cartier Tank Cintrée–Curved ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของแบรนด์ เรือนนี้ผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) ตัวเรือนบางและการดีไซน์ที่ให้โค้งตามข้อมือของผู้สวมใส่ หน้าปัดคงความคลาสสิกด้วยเลขโรมัน โลโก้คาร์เทียร์ เข็มนาฬิกาทรงดาบสีน้ำเงิน เม็ดมะยมทำด้วยไพลิน และสายหนัง

Cartier, An 18ct Gold and Diamond ‘Crash’ Wristwatch

นาฬิการุ่น ‘Crash’ นับเป็นผลงานที่ดึงดูดทุกสายตากับตัวเรือนที่บิดเบี้ยว แต่งดงาม ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากจินตนาการของ มร.ฌอง-ฌาคส์ คาร์เทียร์ ที่ว่า..หากนาฬิการุ่น Tank เกิดอุบัติเหตุรถชนจะมีรูปร่างอย่างไร โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดง คือ Cartier, An 18ct Gold and Diamond ‘Crash’ Wristwatch ผลิตขึ้นในช่วง ค.ศ.1991 (พ.ศ.2534)  ตัวเรือนทองคำขาว ประดับเพชร 4 - 4.30 กะรัต หน้าปัดสีขาวนวลตัดกับตัวเลขโรมันสีดำ สลักคำว่า Cartier ที่  IIV เข็มนาฬิกาทรงดาบสีน้ำเงิน สายผ้าสีน้ำเงิน

อีกหนึ่งไฮไลท์และหาชมได้ยาก ต้องยกให้จิวเวลรี่วินเทจในตำนานของคาร์เทียร์ Cartier Love Bangle กำไลข้อมือทอง 18K ที่นำมาแสดงในครั้งนี้ผลิตขึ้นราวปี ค.ศ.1975 (พ.ศ. 2518) เป็นเครื่องประดับเพื่อแสดงความรักเหนือกาลเวลาดีไซน์สง่างามไร้ที่ติ มาพร้อมไขควงเก็บรักษาอย่างดีในกล่องหนังสีแดงของแบรนด์คาร์เทียร์

Cartier, London, A Gem and Diamond Cocktail Ring

Cartier, London, A Gem and Diamond Cocktail Ring ค.ศ.1960 (พ. ศ. 2503) แหวนค็อกเทลวินเทจ ประดับเพชร 1.5 กะรัต สลับทับทิบและแซฟไฟร์สีเขียวเจียระไนทรงเหลี่ยม เก็บรักษาอย่างดีในกล่องหนังสีแดงของแบรนด์คาร์เทียร์ ลอนดอน

Cartier Paris Diamond “Leek” Brooch

Cartier Paris Diamond “Leek” Brooch เข็มกลัดประดับเพชรดีไซน์เก๋ของคาร์เทียร์ชิ้นนี้มีอายุ 90 ปี สร้างสรรค์ขึ้นในปีค.ศ.1930 (พ.ศ. 2473) ตัวเรือนทองคำขาว ดีไซน์เป็นรูป Leek ประดับเพชรรวมน้ำหนักโดยประมาณ 1.5 – 1.7 กะรัต ได้อย่างประณีต

Cartier, A Gold and Diamond “Draperie” Necklace

Cartier, A Gold and Diamond “Draperie” Necklace สร้อยคอทองประดับเพชรคาร์เทียร์ ดีไซน์คลาสสิกด้วยโซ่ลูกปัดทรงกลมขัดเงา 10 เส้น เรียงร้อยจนเกิดมิติ ประดับเพชร ประมาณ 2.10-2.30 กะรัต

Cartier, Paris, A Gold Collar Necklace

Cartier, Paris, A Gold Collar Necklace สร้อยคอทองคำเส้นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นราวปีค.ศ.1940 (พ.ศ. 2483) เป็นสร้อยคอที่เรียบหรูและสง่างาม โดดเด่นด้วยดีไซน์คล้ายเชือกสองเส้นซึ่งถูกฉลุลายการเชื่อมอิฐ อ่อนช้อยด้วยดีไซน์ใบไม้ที่ถูกสลักอย่างประณีตแลดูพลิ้วไหว ได้รับการเก็บรักษาอย่างดีในกล่องหนังสีแดงของแบรนด์คาร์เทียร์

Cartier, A Mid-20th Century Sapphire, Ruby and Diamond Leaf Brooch

Cartier, A Mid-20th Century Sapphire, Ruby and Diamond Leaf Brooch เข็มกลัดรูปใบไม้วินเทจชิ้นนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ. 2493) โดยดีไซน์คล้ายสัญลักษณ์ Buta (บูตา) ในภาษาสันสกฤตแปลว่า "ไฟ" เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ สง่าราศี ฉลุลายตาข่าย ประดับทับทิม แซฟไฟร์สีน้ำเงินและเพชร มาพร้อมกล่องหนังสีแดงลงนาม Cartier Paris

Cartier, Paris, A Pair of Gold ‘Coffee Bean’ Bracelets

Cartier, Paris, A Pair of Gold ‘Coffee Bean’ Bracelets สร้อยข้อมือดีไซน์เมล็ดกาแฟสีทองจำนวนสองเส้นจากคาร์เทียร์ ในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ.2493) สามารถปรับเป็นสร้อยคอได้โดยห่วงโซ่รูปไข่ มาพร้อมกับกล่องหนังสีแดงของแบรนด์

สำหรับใครที่ชื่นชอบดีไซน์จิวเวลรี่ในยุคเฟื่องฟูของศิลปะอาร์ตเดโคในช่วงปี 1920 ถึง 1935 ต้องไม่พลาดชมเครื่องประดับวินเทจของคาร์เทียร์ที่มีอายุ 90 ปี ผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1930. หรือ พ.ศ.2473 ซึ่งแต่ละชิ้นมีความเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความเรียบง่าย สง่างาม อาทิ

Cartier, Paris, An Art Deco Diamond Bracelet

Cartier, Paris, An Art Deco Diamond Bracelet จากค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) สร้อยข้อมือประดับเพชรสไตล์อาร์ตเดโค ประกอบด้วยเพชรเจียระไนแบบโรสคัทและเพชรทรงกลม น้ำหนักประมาณ 22 – 24 กะรัต สร้อยข้อมือชิ้นนี้คือการหลอมรวมความเรียบง่าย แต่หรูหราด้วยลายฉลุ โดดเด่นด้วยเพชรเม็ดเดียว ซึ่งวางอยู่ตรงกึ่งกลาง น้ำหนัก 2.62 กะรัต และเพชรที่วางอยู่ตรงปลายสำหรับล็อก 3.20 กะรัต

Cartier, London, An Art Deco Diamond Bracelet

Cartier, London, An Art Deco Diamond Bracelet ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) สร้อยข้อมือประดับเพชรสไตล์อาร์ตเดโคจากคาร์เทียร์ลอนดอน สะดุดตาด้วยดีไซน์ที่พลิ้วไหวของริบบิ้นเมื่อต้องลมจนเกิดคลื่น (undulating ribbon) งดงามด้วยการประดับเพชรทรงบิลเลี่ยนคัท และ เข็มทรงเบรเกต์t รวมน้ำหนักเพชรประมาณ 22-24 กะรัต บรรจุในกล่องหนัง คาร์เทียร์ ลอนดอน สีแดง

Cartier, London, An Art Deco Cartier, Paris, A Pair of Art Deco Diamond Earrings

Cartier, London, An Art Deco Cartier, Paris, A Pair of Art Deco Diamond Earrings ต่างหูเพชรสไตล์อาร์ตเดโคจากคาร์เทียร์ ปารีส ปีค.ศ.1930 ดีไซน์น้ำตกประดับเพชรเจียระไนทรงหยดน้ำ หรือทรงลูกแพร์ และเพชรเหลี่ยม รวมน้ำหนักเพชรประมาณ 21-24 กะรัต บรรจุในกล่องหนัง คาร์เทียร์ สีแดง

ทั้งนี้ภายในงานยังจัดแสดงเครื่องประดับและนาฬิกาวินเทจมากมาย อาทิ นาฬิกา รุ่น Antique Diamond Lady’s Cocktail Watch ผลิตปี ค.ศ.1919, Cartier “Cristallor”  ผลิตปี ค.ศ. 1975, London Tank – Hooded Lugs ผลิตปี ค.ศ. 1976, London Tank JC ผลิตปี ค.ศ. 1966, Square Tank with “Baton” Chapters ผลิตปี ค.ศ. 1959, Cartier London White Gold Cintrée with White Gold Bracelet ผลิตปี ค.ศ. 1967, Tank Allongée - Elongated ผลิตปี ค.ศ. 1940, Cartier London ‘Crash’ ผลิตปี ค.ศ. 1987 เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถร่วมชมความงดงามเหนือกาลเวลาของนาฬิกาและเครื่องประดับวินเทจ แบรนด์คาร์เทียร์ในงาน Lotus Arts de Vivre x Obsidian Objets d’Art : A moment of serendipity – A vintage Cartier Collection ได้ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค, โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00-19.00 น.

มร.นิกกี้ วอน บูเรน ประธานกรรมการบริหาร Lotus Arts de Vivre

มร.นิกกี้ วอน บูเรน ประธานกรรมการบริหาร Lotus Arts de Vivre กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมงานกับ มร.แฮรี่ เฟน นักสะสมระดับโลกผู้ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน “คาร์เทียร์” แบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงที่มีตำนานยาวนานกว่า 170 ปี สัญชาติฝรั่งเศสอย่างลึกซึ้ง อีกทั้งโลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ และ มร.แฮรี่ เฟน มีรสนิยมที่เหมือนกัน คือหลงใหลในงานฝีมือชั้นเยี่ยมที่ออกแบบอย่างวิจิตร มีจินตนาการ สร้างสรรค์และความละเมียดละไมในศาสตร์แห่งศิลป์ ซึ่งคาร์เทียร์เป็นแบรนด์เครื่องประดับระดับตำนานชื่อก้องโลก และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดทำเครื่องประดับให้แก่ราชสำนักต่างๆ ในยุโรป หลายประเทศ จนได้รับฉายาว่าเป็น “ผู้ผลิตเครื่องประดับให้ราชา และเป็นราชาแห่งเครื่องประดับ” ประกอบกับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ดูสง่า สวยงามเหนือกาลเวลา

“คาร์เทียร์ยังเป็นผู้นำในวงการนาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพบุรุษ แทนการใช้นาฬิกาพกอย่างสมัยก่อน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) แต่นาฬิการุ่น Tank ที่ออกแบบในปี ค.ศ.1919 (พ.ศ. 2462) ยังถือว่าเป็นสุดยอดของความมีรสนิยมสำหรับสุภาพบุรุษจนถึงปัจจุบันและในปีค.ศ.1967 (พ.ศ. 2510) คาร์เทียร์ได้ผลิตนาฬิกาข้อมือรุ่น Crash ออกมาซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบันเลยก็ว่าได้”

ทั้งนี้เครื่องประดับและนาฬิกาวินเทจ สำหรับผู้หญิงและผู้ชายของคาร์เทียร์ที่นำมาจัดแสดงนั้นถูกผลิตขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1910-1991 (พ.ศ. 2454-2518) ซึ่งถือเป็นชิ้นงานจากยุคทองของคาร์เทียร์ที่เหล่านักสะสมทั่วโลกถวิลหาอยากครอบครองและหายากยิ่งนัก อีกทั้งยังคุ้มค่าในด้านการลงทุน เนื่องจากชิ้นงานหายากหลายๆ ชิ้นของ      คาร์เทียร์นั้นซื้อขายกันในราคาหลายล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว นับว่าคาร์เทียร์วินเทจนั้นควรค่าแก่การสะสม เพื่อการลงทุนเพราะมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

มร.แฮรี่ เฟน

มร.แฮรี่ เฟน เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องนาฬิกาและเครื่องประดับวินเทจของคาร์เทียร์ที่หาตัวเทียบได้ยาก เขาได้ทำการศึกษาหาข้อมูลมากว่า 40 ปี ทำให้มีความรู้ ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับชิ้นงานเครื่องประดับหัตถศิลป์เลอค่าเหล่านี้ที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความงดงามและประณีตมากว่าหนึ่งศตวรรษ

ในช่วงเวลาที่ มร.แฮรี่ เฟน เริ่มสนใจในงานของคาร์เทียร์นั้น ยังไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจผลงานของคาร์เทียร์มากนัก จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ.1978 (พ.ศ. 2521) เกิดการประมูลทรัพย์สินของนักสะสมชาวนิวยอร์ก นามว่า มร.โรเบิร์ต กรีน และต่อมาในปี ค.ศ.1981 (พ.ศ. 2524) บริษัทคาร์เทียร์เองได้จัดนิทรรศการผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน              

จาก 2 เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสความตื่นตัวในหมู่นักสะสมในผลิตภัณฑ์วินเทจของคาร์เทียร์ขึ้นมาอย่างจริงจัง จนในปัจจุบันกระแสความสนใจและการแข่งขันดุเดือดอย่างมาก