'ผลเลือกตั้งสหรัฐ' 2020 จะ ‘โจ ไบเดน’ หรือ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’  ไทยก็ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจ

'ผลเลือกตั้งสหรัฐ' 2020 จะ ‘โจ ไบเดน’ หรือ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’  ไทยก็ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจ

ไม่ว่า "ผลเลือกตั้งสหรัฐ" ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของอเมริกา จะออกมาที่ “โจ ไบเดน” หรือ “โดนัลด์ ทรัมป์” ต่างส่งผลกระทบต่อทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่วันนี้ยังมีโจทย์ใหญ่ที่ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาโดยเร็ว รวมถึงเร่งยุติความขัดแย้งทางการเมืองให้ไว

การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกาหนนี้ ดูจะเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะห้วงที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทาย และมีความผันผวนเปลี่ยนแปลงมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิดที่สะเทือนไปทั่วโลก ส่งผลกระทบไปยังระบบเศรษฐกิจที่ต้องการการเยียวยาอย่างเร่งด่วนในทุกๆ ประเทศ

ขณะที่สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจของโลกทั้ง สหรัฐ และจีน ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่การเลือกตั้งของสหรัฐครั้งนี้หากผล (ซึ่งค่อนข้างแน่ชัด) ปรากฏว่า โจ ไบเดน สามารถครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาของพรรคเดโมแครต เป็นผู้กำชัยชนะขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ ก็อาจทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง ด้วยท่าทีและแนวคิดที่ดูเป็นมิตรมากกว่า โดนัลด์ ทรัมป์

ขณะเดียวกัน ย่อมเป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐ เนื่องจากการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ การผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ น่าจะทำได้ราบรื่นกว่าในกรณีที่พรรคเดโมแครตครองเสียงเพียงสภาเดียว “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปี 2564 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3.0% ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์ก็มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศอื่นๆ ตามความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ลดลง 

แต่หากผลเลือกตั้งสหรัฐเกิดพลิกโผ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย ซึ่งอาจจะเพราะผลคะแนนที่ได้มากกว่า โจ ไบเดน หรือกรณีผลการนับคะแนนออกมาสูสีระหว่างผู้สมัครทั้งสอง จนนำไปสู่กระบวนการฟ้องร้อง หากเป็นเช่นนี้ ก็คาดการณ์ได้ว่า ตลาดเงินตลาดทุนคงจะผันผวนมากขึ้นไปอีก

กลับมาที่ประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าถ้าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้น 1% จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 0.2% (แต่ต้องอยู่บนสมมติฐานที่การเมืองไม่วุ่นวาย หรือไม่มีการแพร่ระบาดซ้ำของโควิด) จากผลกระทบทางตรงจากการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐ และผลกระทบทางอ้อมผ่านเศรษฐกิจโลกในภาพรวมที่ฟื้นตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลเลือกตั้งสหรัฐ จะออกมาที่ โจ ไบเดน หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ ประเทศไทย ซึ่งอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง ยังมีโจทย์ใหญ่ที่ต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนกลับมาให้ได้โดยเร็ว เร่งยุติความขัดแย้งทางการเมืองให้ไว อย่าปล่อยให้ปัญหาหมักหมม ลากยาว ยืดเยื้อ

ทุกฝ่ายต้องแสดงออกถึงความจริงใจที่จะแก้ปัญหา เพราะหากผลเลือกตั้งสหรัฐบ่งชี้ว่า ส่งผลดีต่อโลก และรวมถึงประเทศไทย แต่เรายังคงวุ่นวายอยู่กับการเมืองที่ขัดแย้งกันไปมา ความเชื่อมั่นในการลงทุนไม่มี มาตรการเยียวยาที่รัฐออกมาไม่บังเกิดผล จะเป็น “ไบเดน” หรือ “ทรัมป์” ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรกับประเทศไทย