‘จ้างงานฟื้น’ ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทย

‘จ้างงานฟื้น’ ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทย

หลังจากเศรษฐกิจไทยฟุบยาวมาหลายเดือน กระทบต่อการจ้างงานอย่างมาก ล่าสุดเดือน ก.ค.2563 พบผู้ตกงานสูงถึง 3.39 ล้านคน ล่าสุดภาครัฐจับมือเอกชนรุกนโยบายกระตุ้นการจ้างงานใหม่ ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเป็นปัจจัยหนุนฟื้นเศรษฐกิจไทย

สวัสดีผู้อ่านคอลัมน์ Think Forward ทุกท่านครับ นับถอยหลังอีกแค่ 2 เดือนก็จะเข้าสู่ปี 2564 ผมเชื่อว่าหลายคนอาจรู้สึกเหนื่อยล้ากับปีนี้อย่างมาก เพราะเจอหลากหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังอยู่กับพวกเราต่อไป คำว่า “การ์ดห้ามตก” ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนห้ามลืมและต้องปรับตัวใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังต่อไป

ขณะนี้ผู้ประกอบการจำนวนมากยังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนกระทบต่อความสามารถในการจ้างงาน แม้จะพยายามดูแลลูกจ้างอย่างเต็มที่ แต่หลายกิจการโดยเฉพาะธุรกิจภาคท่องเที่ยวและบริการ พบว่ามีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามปกติจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยพบว่าเดือน ก.ค.2563 มีผู้ตกงานสูงถึง 3.39 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.ที่มีการหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีข่าวดีว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.2563) เริ่มฟื้นตัวพร้อมกับความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 และคาดว่าไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.2563) กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัว หลังมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ หรือสเปเชียลทัวริสต์ วีซ่า (เอสทีวี) ภายใต้เงื่อนไขโควิด-19 ไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ขณะเดียวกันยังพบว่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.2563) โดยสินค้ากลุ่มอาหารและสุขอนามัยซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมีการขยายตัวต่อเนื่อง กกร.จึงปรับประมาณการส่งออกปี 2563 หดตัวในกรอบ -10% ถึง -8% ดีขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ -12% ถึง -10% ขณะที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ยังประมาณการกรอบเดิมที่ -9% ถึง -7%

สัญญาณเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทำให้ผมมั่นใจว่าการจ้างงานของไทยจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมเริ่มปกติแล้ว โอกาสที่คนตกงานจะน้อยลง เพราะก่อนหน้านี้คนกังวลว่าจะมีการตกงานเพิ่มขึ้นและฉุดเศรษฐกิจให้ไม่ดีตามไปด้วย แต่ปัจจุบันอยากให้มองว่าแนวโน้มการตกงานลดลง เศรษฐกิจจะดีขึ้น เพราะคนมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้น

ไม่เพียงแต่ปัจจัยเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนเก็บข้อมูล ฟากของภาครัฐเองที่ผ่านมาก็มีนโยบายในการกระตุ้นการจ้างงานใหม่ รักษาการจ้างงาน เป็นการทำงานร่วมกับเอกชน ถือว่ามาถูกทางและเห็นผลดี ซึ่งภาคอุตสาหกรรมขอขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญและจัดทำเครื่องมือต่างๆ ออกมาช่วย ทั้งการจัดงาน Job Expo Thailand 2020 ที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่จากภาครัฐที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างทันท่วงที สามารถสร้างงานมากกว่า 1.2 ล้านตำแหน่ง ความสำเร็จครั้งนี้หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลจัดต่อไป ไม่อยากให้จัดแค่ครั้งเดียวแล้วเลิก ในมุมมองของผมอยากให้จัดช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจะดีมาก

นอกจากนี้มาตรการช่วยจ่ายเงินนักศึกษาจบใหม่ 50% เอกชนจ่าย 50% สัญญาการจ้างงาน 1 ปี เรื่องนี้ช่วยแบ่งเบาภาคเอกชนอย่างมาก

เมื่อเร็วๆ นี้ ส.อ.ท.ได้หารือร่วมกับผู้บริหารภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาแรงงานอย่างเร่งด่วน ทั้งการช่วยเหลือกลุ่มที่ตกงาน การพัฒนาฝีมือแรงงานและทักษะต่างๆ ให้สอดรับกับงานในปัจจุบัน รวมทั้งแก้ปัญหานายจ้างที่มีปัญหาในการจ้างงาน อาทิ ด้านสภาพคล่อง การหาแรงงานที่มีทักษะตามเนื้องาน

การหารือประกอบด้วย 5 ประเด็น ได้แก่ 1.การจ้างงานและการสร้างความสมดุลอุปสงค์และอุปทานด้านแรงงาน 2.ผลิตภาพแรงงานสู่ไทยแลนด์ 4.0 3.ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศสู่อุตสาหกรรม 4.0 4.การมีส่วนร่วมต่อการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ และ 5.มาตรการโควิด-19 เพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงาน โดย ส.อ.ท.จะประสานความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานอย่างใกล้ชิดต่อไป

ท้ายนี้ หากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันอย่างจริงจังในการกระตุ้นการจ้างงานภายใต้โครงการต่างๆ ที่รัฐบาลสนับสนุน ผมเชื่อว่าการบริโภคจะกลับมา เกิดความเชื่อมั่นจนเศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในเร็ววันนี้

ท่านผู้อ่านหรือนักธุรกิจท่านใดอยากทราบข้อมูลด้านอุตสาหกรรมเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์ของสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ที่ @ftithailand หรือทักเข้ามาได้ที่เฟซบุ๊คของผมตามลิงก์นี้ได้เลยครับ www.facebook.com/ftichairman