จันทร์กระจ่างกับกระทงแห่งความหวัง

ทำไมต้องลอยกระทง ก็เพราะอากาศช่วงนี้กำลังเย็นสบาย พระจันทร์ก็สวย น้ำก็มากเต็มตลิ่ง เป็นโอกาสดีที่ผู้คนจะออกนอกบ้าน ไปงานรื่นเริง ไปพบปะสังสรรค์กับญาติมิตร การลอยกระทงยังมีความหมายถึงการขอขมาพระแม่คงคา และยังอธิษฐานขอพร ขอให้ชีวิตมีความสุขสมปรารถนา

ประเพณีลอยกระทง สันนิษฐานว่าเริ่มมีตั้งแต่พ่อขุนรามคำแหง ตามหลักฐานในศิลาจารึก เรียกว่า พิธีจองเปรียง หรือ การลอยพระประทีป ต่อด้วยงานเผาเทียนเล่นไฟ เป็นงานรื่นเริงต้อนรับฤดูหนาว นอกจากนี้ยังพบหลักฐานว่าท้าวศรีจุฬาลักษณ์ หรือนางนพมาศ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงดอกบัวโคมลอยน้ำ

 (ภาพ Absolute China Tour)

นักประวัติศาสตร์ระบุว่า พิธีลอยกระทงน่าจะมีที่มาจากศาสนาพราหมณ์ เพื่อบูชาเทพเจ้า 3 พระองค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม เมื่อเวลาผ่านไป เมืองไทยรับเอาศาสนาพุทธเข้ามาทำให้เกิดประเพณีลอยกระทงเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุและลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า

ประเพณีลอยกระทงในเมืองไทย เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของคนไทยทั่วทุกภาค เช่น ภาคเหนือเรียกว่า “ยี่เป็ง” หรือการทำบุญเดือนยี่ นิยมปล่อยโคมลอยเพื่อบูชาพระอุปคุตต์ ถ้าไปจังหวักตาก คนที่นั่นนิยม “ลอยกระทงสาย” เป็นกระทงไซส์เล็ก ปล่อยลงสายน้ำคราวละมาก ๆ กระทงใบน้อยกับแสงเทียนวิบวับจะลอยไปตามกระแสน้ำ เป็นภาพที่สวยงามยิ่ง

จังหวัดสุโขทัย งานลอยกระทงจำลองบรรยากาศสมัยนางนพมาศ ได้แก่ ลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ ในบรรยากาศย้อนอดีต ภาคอีสานก็มีประเพณีลอยกระทง และประเพณีไหลเรือไฟ

ที่ไหน ๆ ก็จัดประเพณีลอยกระทง ในกรุงเทพจัดงานลอยกระทงที่ภูเขาทอง ตามงานวัด ตามร้านอาหาร โรงแรม และพื้นที่สาธารณะที่ติดแม่น้ำ หนุ่มสาวมักชวนกันไปลอยกระทง แล้วอธิษฐานขอพร ขอให้ความรักสมหวัง เด็ก ๆ ก็สนุกกับการประดิษฐ์กระทงและได้ออกไปเที่ยว ประเพณีลอยกระทงของไทยจึงเป็นงานเฉลิมฉลองให้กับสิ่งดี ๆ บางรายเชื่อว่าช่วยสะเดาะเคราะห์ ลอยความทุกข์เศร้าออกไป

 

หลายประเทศในเอเชียมีประเพณีลอยกระทงเหมือนกัน ในอินเดียนอกจากพิธีปล่อยโคมลอย เหมือนหลายจังหวัดในภาคเหนือของไทย ในอินเดียมีพิธีปล่อยโคมลอย (Sky Lantern) และจุดตะเกียงบูชาเทพลักษมี โดยจุดไฟลงในชามดินเผาเล็ก ๆ วางไว้ในบ้านหรือในโบสถ์ เรียกว่าเทศกาล Diwali  หรือ Light Ceremony โดยเชื่อกันว่า แสงสว่างจะขับไล่ภูติผีและสิ่งชั่วร้าย และแสงสว่างจะนำสู่ความรู้และชัยชนะ ประเพณี Diwali จัดในหลายเมืองในอินเดีย ช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

ในเกาหลีและญี่ปุ่นก็มีพิธีปล่อยกระทงน้อยลอยน้ำ ที่เรียกกระทงน้อยเพราะเป็นกระทงใบเล็ก ทำจากกระดาษหรือวัสดุธรรมชาติ จุดไฟแล้วปล่อยลอยไปตามสายน้ำ ในเกาหลีเรียกว่า Yudeung Light  ส่วนในญี่ปุ่นเรียกว่า Toro ซึ่งแปลว่า Lantern หรืออีกชื่อว่า Bon Festival ส่วนหนึ่งเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่าและอุบัติเหตุเครื่องบินตก เมื่อปี 1985 ทำให้ผู้เสียชีวิต 524 ราย ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่ามนุษย์เรามีต้นกำเนิดจากสายน้ำ ตะเกียงที่จุดเป็นตัวแทนที่จะส่งวิญญาณกลับคืนสู่สายน้ำ พิธีปล่อยตะเกียงลงน้ำจัดช่วงกลางเดือนสิงหาคม

ในประเทศจีน ใครดูหนังกำลังภายในหรือหนังย้อนยุค จะได้ชมฉากปล่อยกระทงน้อยลอยน้ำเหมือนกัน ทำจากกระดาษพับเป็นรูปดอกบัวหรือรูปทรงกล่อง จุดตะเกียงข้างในแล้วปล่อยลงน้ำ เป็นประเพณีเก่าแก่ สันนิษฐานว่าเริ่มมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง บางคนบอกว่าเก่ากว่านั้น ย้อนไปไกลถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง (960-1279 BC) สมัยราชวงศ์ถังมีอีกชื่อว่า Ghost Festival

ในปักกิ่งมีเทศกาลปล่อยโคมขึ้นฟ้าเรียกว่า “ซั่งหยวน” เพื่อระลึกถึงพระราชวังปักกิ่งครั้งรุ่งเรือง โดยจุดไฟลงในกระดาษพับรูปดอกบัวขนาดเท่าฝ่ามือแล้วปล่อยลอยไปแสดงถึงความสุขสงบหลังไฟสงคราม ในขณะที่บางชุมชนมีพิธีปล่อยโคมน้อยลงน้ำในช่วงกลางฤดูร้อน ราวกลางเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม หรือเทศกาลสารทจีน โดยเชื่อกันว่าวันนี้ประตูนรกเปิดพวกผีจะเดินทางผ่านมิติมาสู่โลกมนุษย์ได้ เมื่อลอยโคมน้อยจุดไฟสว่างไสวเพื่อขับไล่ภูติผี และอธิษฐานขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา หรือเรียกว่าเทศกาล Lotus Floating Lantern, Floating Candle Lantern เทศกาลปล่อยโคมลงน้ำคนละอย่างกับปล่อยโคมสู่ฟ้า ซึ่งจัดช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือปีใหม่จีน

 (ภาพ China Plus)

คนปล่อยกระทงหรือโคมลอยน้ำ แสดงถึงปล่อยความทุกข์โศกให้ลอยจากไป แล้วคาดหวังสิ่งดี ๆ คนหนุ่มสาวจะอธิษฐานหาคู่ครองที่ดี คนมีบุตรแล้วจะขอพรให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง มีชีวิตยืนยาว

 ลอยกระทงปีนี้ อยากไปปล่อยความทุกข์แล้วเริ่มความหวังใหม่ ที่ไหนดี มีอาทิ

ไอคอนสยาม จัดงาน ลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง (Iconsiam Chao Phraya River of Eternal Prosperity) เชิญลอยกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ หรือกระทงน้ำแข็ง เพื่ออนุรักษ์สายน้ำ และชม นิทรรศการกระทงโคมชักนานาชาติ 16 ประเทศ พร้อมกิจกรรมสนุกสุขสรรค์ ณ เมืองสุขสยาม ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม เวลา 18.00 น. บริเวณริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร

 ลอยกระทง โรงแรมแชงกรี-ลา

โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ จัดงานลอยกระทง คืนวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พร้อมกิจกรรมรื่นเริง อาทิ ขบวนแห่กลองยาว, ประกวดนางนพมาศ, การแสดงรำไทย, ลุ้นรางวัลห้องพักกับชุดแต่งกายชุดไทยยอดเยี่ยม พร้อมรับประทานอาหาร มีอาทิ ห้องอาหาร เน็กซ์ทู คาเฟ่ จัดบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดและอาหารนานาชาติ ผู้ใหญ่ท่านละ 2,498++บาท เด็ก 1,249++บาท / ห้องอาหาร ศาลาทิพย์ ผู้ใหญ่ 2,498++บาท เด็ก 1,249++บาท (ทุกท่านจะได้รับกระทง 1 ใบฟรี) โทร. 0 2236 9952 หรือ 0 2236 7777  อีเมล: [email protected]

  โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ

โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ (Capella Bangkok) บูติกรีสอร์ทริมแม่น้ำแห่งใหม่ จัดเทศกาลลอยกระทง วันที่ 31 ตุลาคม ณ ห้องอาหาร พระนคร พร้อมอาหารไทยปรุงแบบร่วมสมัย และชมการแสดงดนตรีสด การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และร่วมลอยกระทงจากกระทงที่ผลิตด้วยวัสดุธรรมชาติ บุฟเฟ่ต์อาหารไทยมื้อค่ำ ท่านละ 6,000 บาท / หรือเลือกอาหารตะวันตก ที่ห้องอาหาร โค้ท โดยเชฟเมาโร โคลาเกรคโค (มิชลิน 3 ดาวจากห้องอาหารมิราซูร์ เมืองมองตง ประเทศฝรั่งเศส) กับรายการอาหาร Carte Blanche 9 คอร์ส ท่านละ 9,000 บาท แพร์ริ่งกับไวน์เพิ่มท่านละ 3,200 บาท สอบถามโทร.0 2098 3888

โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20 จัดเทศกาลลอยกระทงพร้อมงานวันฮาโลวีน ที่ห้องอาหาร ฟู้ด เอ็กซเชนจ์ (Food Exchange) ได้แก่ บุฟเฟ่ต์วันลอยกระทง อาหารนานาชาติ เวลา 12.30 – 14.30 น. ท่านละ 650 บาท โทร.0 2009 4999 อีเมล์ h9343-[email protected]

 ลอยกระทง โรงแรม 137 พิลลาร์ เฮาส์ เชียงใหม่

วันที่ 31 ตุลาคม โรงแรม 137 พิลลาร์ เฮาส์ เชียงใหม่ จัดเทศกาลลอยกระทง ที่ห้องอาหาร พาเลต และ เดอะ ไดนิ่งรูม ในบ้านไม้สักหลังงาม พร้อมเซตอาหารไทย 6 คอร์ส และมิชลิน เพลต เทสติ้ง เมนู 6 คอร์ส มื้อกลางวันและมื้อค่ำ พร้อมรับกระทงท่านละ 1 ใบ โทร.053 247 788 อีเมล: [email protected].

 อาหารไทย  โรงแรม 137 พิลลาร์เฮาส์ เชียงใหม่

 ลอยกระทง โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง

วันที่ 31 ตุลาคม เวลา 18.00 – 22.00 น. โรงแรมแคนทารี เบย์ ระยอง จัดเทศกาลลอยกระทง พร้อมบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำ ท่านละ 750 บาทสุทธิ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา พร้อมกิจกรรมประกวดกระทงและนางนพมาศ โทร. 038-804-844,

https://www.kantarycollection.com/kantarybay-rayong/