"Food" Sector (27 ต.ค.63)

"Food" Sector (27 ต.ค.63)

ช้าๆได้พร้าเล่มงาม

Event

อัพเดตแนวโน้มกลุ่มอาหาร

lmpact

รายได้ของผู้ประกอบการน่าจะฟื้นตัวหลังยกเลิกมาตรการ lockdown

ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการทานอาหารในร้านได้เต็มรูปแบบ โดยมีมาตรการเว้นระยะห่าง (social distancing) ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2563 และเนื่องจากประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ดี (มียอดผู้ติดเชื้อรวม 3,736 รายเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2563) มาตรการดังกล่าวจึงค่อยๆ มีการผ่อนคลาย จากในร้านอาหารจากโต๊ะละ 1 คน มาเป็นเปิดให้บริการตามปกติ นอกจากนี้ สอดคล้องกับจำนวนลูกค้าเข้าห้างสรรพสินค้าที่เพิ่มขึ้นทำให้เราเชื่อว่ารายได้ของผู้ประกอบการธุรกิจอาหารน่าจะดีขึ้น QoQ โดยคาดว่า SSSG เฉลี่ยจะดีขึ้นมาอยู่ในช่วง -20% ถึง -15% ใน 3Q63 จากที่ติดลบหนักถึง -60% ถึง -50% ใน 2Q63

มาตรการกระตุ้นรอบใหม่น่าจะช่วยขับเคลื่อนโมเมนตั้มการฟื้นตัว

ศูนย์บริหารสถานการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) อนุมัติมาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ซึ่งตามโครงการนี้ ผู้บริโภคสามารถนำค่าใช้จ่ายซื้อสินค้ และบริการต่างๆ ที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม ในช่วงวันที่ 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563 มาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 30,000 บาท ถึงแม้ว่าโครงการนี้อาจจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อผู้ประกอบการธุรกิจบริการร้านอาหาร แต่เรายังคาดว่าจะได้อานิสงส์จากการที่มีลูกค้าเข้าศูนย์การค้ามากขึ้นใน 4Q63 ซึ่งจะช่วยหนุนให้ SSSG ดีขึ้น

ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนกำไร

เพื่อเอาตัวรอดในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ประกอบการธุรกิจบริการด้านอาหารจึงหันมาเน้นประหยัดต้นทุน โดยมีตั้งแต่การเลื่อนขยายสาขา ต่อรองค่าเช่าที่ ลดเงินเดือนผู้บริหาร ลดค่าล่วงเวลายกเลิกสัญญาจ้างพนักงาน part-time ฯลฯ เราเชื่อว่าในช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นในปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจบริการร้านอาหารน่าจะควบคุมค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ของ SG&A ไว้ที่ระดับที่ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพได้

Valuation & Action

เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มบริการร้านอาหารน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายรอบล่าสุด เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564-65 ของ MK Restaurant Group (M.BK/M TB) และ Zen Corporation Group (ZEN.BK/ZEN TB) ขึ้นจากเดิม
เนื่องจากคาดว่าทั้งสองบริษัทจะบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น M จาก ถือ เป็น ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2564F ใหม่ที่ 53.50 บาทจากเดิมที่ 51.50 บาท และปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น ZEN จาก ขาย เป็น ถือ โดยให้ราคาเป้ าหมายใหม่ที่ 8.40 บาท จากเดิมที่ 7.60 บาท

Risks

จำนวนลูกค้าเข้าร้านฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ มีการ lockdown เมืองอีกครั้ง และกำลังซื้อต่ำเกินคาด