PFund-REITs-IFF

PFund-REITs-IFF

มองหากองทุนที่ปลอดภัยกว่า

Event

อัพเดตแนวโน้มและคำแนะนำของ PFund-REITs-IFF.

Key highlights

การเคลื่อนไหวของ PFund-REITs-IFF ในรอบเดือนที่ผ่านมา

ในช่วงหนึ่งเดือนแรกหลังจากที่เราเริ่มออกบทวิเคราะห์ PFund-REITs-IFF ดัชนีราคาหน่วยลงทุนของกลุ่มขยับลดลงในทิศทางเดียวกันกับดัชนี SET โดยสาเหตุหลักมาจากผลกระทบของปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ซึ่งเกิดจากการที่มีจำนวนผู้ประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีออกมาชุมนุมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เราคิดว่าปัจจัยพื้นฐานหลักของ PFund-REITs-IFF ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภาวะตลาดที่เป็นลบเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยสรุปแล้ว เรายังคงชอบกลุ่มนี้ เนื่องจาก i) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลค่อนข้างสูงที่ 5.97% ใน 1H63 (เมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก) (figure 3) ii) ราคาหน่วยลงทุนผันผวนน้อยกว่า และ iii) ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)

IFF ดูแข็งแกร่งมากกว่ากองทุนประเภทอื่น

ในสภาวะปัจจุบัน เรามองว่า IFF ดูดีกว่ากองทุนประเภทอื่น (PFund และ REITs) จากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงกว่า โดยอยู่ที่ 3.2% สำหรับงวด 1H63 และมีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ (figure 6) ในขณะเดียวกัน หากอิงจากการวิเคราะห์แยกเป็นรายกลุ่มธุรกิจ เราพบว่ากลุ่มสำนักงานและ
กลุ่มอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากโรคระบาดน้อยกว่า เพราะลูกค้าอยู่ในภาคธุรกิจ ในขณะที่กลุ่มโรงแรม Serviced Apartment และค้าปลีกจะถูกกระทบหนักกว่า เพราะนักท่องเที่ยวในประเทศ และผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

กังวลการประท้วงในปี 2563 จะกระทบกับกลุ่มค้าปลีก

การชุมนุมประท้วงในประเทศไทยในปี 2563 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง โดยการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นการจัดชุมนุมเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะสามารถหาทางออกได้เมื่อไหร่ ซึ่งนับเป็นปัจจัยลบกับธุรกิจบางกลุ่ม (เช่น ค้าปลีก การบริโภค อสังหาริมทรัพย์) ทำให้เราคาดว่ากลุ่มค้าปลีกจะถูกกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจะลดโอกาสที่จะปรับขึ้นค่าเช่ากลับไปอยู่ระดับปกติ ทั้งนี้ หากพิจารณาจากสถิติในช่วงรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2555 ตลาดจะแย่ในช่วง 2Q55 ก่อนดีดตัวขึ้นในไตรมาสถัดไป

Recommendation

จากเกณฑ์การลงทุนใน PFund-REITs-IFF ที่เรากำหนดไว้ เรายังคงมองว่าประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่ i) อัตราผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง ii) premium หรือ discount จาก NAV iii) ผลการดำเนินงานในอดีตและแนวโน้มในอนาคต และ iv) แนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการ นอกจากนี้ ผลกระทบจาก
การชุมนุมทางการเมืองก็น่าจะทำให้เกิด downside ในกลุ่มค้าปลีก ดังนั้น เราจึงมองว่า CPNREIT ดูมีความเสี่ยงในขณะนี้ ดังนั้น เรายังคงเลือก JASIF, HREIT และ DIF เป็นกองเด่นของเรา เนื่องจากให้อัตราผลตตอบแทนอยู่ในช่วง 6.3-9.3% ในปี 2562 และ 3.6-5.1% ในงวด 1H63 ในขณะที่ ผล
ประกอบการรายไตรมาสก็ยังดูแข็งแกร่งและมั่นคง โดยสรุx เรามองว่ากองเหล่านี้ดูน่าสนใจในสถานการณ์ปัจจุบัน

Risks

COVID-19 ระบาด เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมือง