อดีตตำรวจตระเวนปลูก'ต้นไม้'ที่บ้านเกิดสระบุรี

แม้จะเกษียณอายุราชการมา 4 ปีแล้ว ร.ต.ท.ราชันย์ ชมสุวรรณ อดีตรองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ก็ยังขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนปลูกต้นไม้ริมทาง แต่ตอนนี้เปลี่ยนจากกรุงเทพฯมาที่บ้านเกิดจังหวัดสระบุรี

“ผมยังทำเหมือนเดิมทุกอย่าง คือ บรรทุกต้นไม้ 20-30 ต้น ไปปลูกริมทาง และรดน้ำต้นไม้” เขา กล่าว 

เขาเคยบอกว่า  หลังเกษียณชีวิตราชการ จะใช้ชีวิตแบบพอเพียง ตามแนวทางในหลวง รัชกาลที่ 9 และปลูกต้นไม้ต่อไป จนกว่าจะปลูกไม่ไหว

“ลูกชายผมเคยบอกว่า เกษียณแล้วให้พักผ่อน ถ้าทำอย่างนั้นผมคงเหงา ตอนนี้ผมก็กินเงินบำนาญ เอาเงินไปซื้อต้นไม้ หรือไม่ก็บริจาคเพื่อการกุศล ตอนใกล้เกษียณลูกชายก็ซื้อที่ดินในสระบุรีให้ ตอนนี้ผมก็ปลูกต้นไม้เยอะมาก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมไปปลูกต้นไม้ 50 ต้นริมถนน บางทีก็ไปปลูกที่วัดหรือไม่ก็โรงเรียน "

อดีตรองสารวัตรจราจรคนนี้ ไม่ชอบอยู่เฉยๆ ถ้าว่างเมื่อไร ก็จะทำโน้นทำนี่ คิดแล้วก็ลงมือทำเลย จะไปปลูกต้นไม้ที่วัด ก็ติดต่อแล้วปลูกเลย หรือเทศบาลมีที่ว่างทิ้งไว้ ก็ไปปลูกต้นไม้

“ปลูกเสร็จเหนื่อยก็พัก ทำเท่าที่ทำได้ ได้ออกกำลังกาย แค่นี้ก็มีความสุข จำได้ว่า เมื่อปี 2555 ปลูกต้นสักทองริมบึงมักกะสัน 350 ต้นแถวๆ ถนนราชปรารถ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ตอนนั้นมีคนมาร่วมปลูกด้วย ตั้งชื่อว่า สวนป่าสักทอง... เพื่อเป็นสมบัติกทม."

เขาตั้งใจว่า ชีวิตที่เหลือ อยากจะปลูกต้นไม้อีกหลายพันหลายหมื่นต้น และทำสวนปลูกพืชกินได้ทุกอย่าง โดยไม่ได้คิดว่าทำเพื่อขาย เขาอยากทำเพื่อคนอื่น เพื่อการเรียนรู้

 “ในเมื่อเราอุทิศตัวแบบนี้แล้ว ก็ควรทำอย่างต่อเนื่อง ”

(ตอนเป็นตำรวจอยู่กรุงเทพฯ ก็ปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น) 

แม้ช่วงวัยที่หลายคนบอกว่า พักผ่อนได้แล้ว แต่เขาก็ยังมีความสุขกับการขุดดิน ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้

“ก็ผมรักต้นไม้ ผมก็ต้องดูแล แทนที่จะออกไปดื่มเหล้า ผมก็ใช้เวลาตรงนี้ ปลูกต้นไม้ดีกว่า แม้ผมจะไม่ร่ำรวย ผมก็มีความสุข บ้านก็มีแล้ว ลูกๆ ผมก็ทำงานหมดแล้ว บางครั้งลูกชายก็มาช่วยปลูกต้นไม้”

กว่า 38 ปีที่อดีตรองสารวัตรจราจรคนนี้ตระเวณปลูกต้นไม้ บางครั้งปลูกคนเดียว บางครั้งมีแนวร่วม ตั้งแต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง คนในชุมชน นักเรียนนักศึกษา มาร่วมลงแรงกับเขา 

 หากใครขับรถหรือเดินผ่านถนนราชปรารถที่มุ่งหน้าไปเส้นทางพญาไท ซ้ายมือจะมีต้นสักทองเรียงราย นั่นแหละฝีมือเขาคนนี้

"ผมปลูกต้นไม้มาตั้งแต่ปี 2524 เพราะผมชอบ ครั้งแรกปลูกรอบๆ โรงพักมักกะสัน ตอนนั้นสร้างใหม่ ยังไม่ค่อยมีต้นไม้ จากนั้นขยับมาปลูกย่านอาร์ซีเอ พื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย บึงมักกะสัน ที่ไหนมีพื้นที่ว่าง ผมก็ปลูกต้นไม้ แม้มีเจ้าของก็ปลูกให้ ” 

ตอนที่เขายังเป็นตำรวจจราจรในกรุงเทพฯ ทุกๆ วันหลังตี 5 เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปจัดการเรื่องการจราจร จากนั้น 9.00 น.เป็นเวลาของการตระเวนปลูกและซ่อมแซมต้นไม้ เมื่อเสร็จภาระกิจ พักผ่อน ช่วงสี่โมงเป็นต้นไปกล้ับมาปฎิบัติหน้าที่ด้านการจราจรจนถึงสองทุ่ม

เราเคยถามว่า ปลูกต้นไม้เกือบทุกวัน ก็ไม่ได้สร้างรายได้ แล้วทำทำไม...

“ผมตั้งปณิธานว่า ผมจะปลูกต้นไม้ จนกว่าผมจะปลูกไม่ไหว ถ้าปลูกไม่ไหว ผมก็จะเอากล้าไม้ ไปบริจาคให้ประชาชน วัดหรือสถานที่ราชการ ช่วยกันเอาต้นไม้ไปปลูก”

เพราะต้นไม้ที่ค่อยๆ เติบโต คือ ความสุขของเขา

“โอ่โอ้ ! พอได้เห็นต้นไม้ที่ปลูกโต ผมว่าสุดยอดเลย นี่เป็นผลงานของเรา ทำแล้วเกิดประโยชน์"

(เกษียณมาสี่ปีแล้ว ก็ยังปลูกต้นไม้)

แต่ก็มีเรื่องน่าเศร้าสำหรับคนปลูกต้นไม้ที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ หลายปีที่แล้ว ตอนอยู่กรุงเทพฯ เขาเคยปลูกต้นสักทองแถวช่อง 9 อสมท. กว่าร้อยต้น เมื่อมันเติบใหญ่ สูงเมตรกว่าๆ แล้วถูกฟันทิ้ง

“ตอนนั้นกทม. ไม่อยากให้ปลูกต้นไม้ใหญ่บนไหล่ถนน จึงฟันทิ้ง ถามว่าเสียใจไหม...เสียใจ แต่เมื่อทางราชการไม่เห็นด้วย ก็ไม่เป็นไร ผมก็หาที่ปลูกต้นไม้ใหม่ได้ มีพื้นที่ว่างเปล่ารกร้างที่จะปลูกต้นไม้อีกเยอะ” 

หากถามว่า เหตุใดทำให้ อดีตตำรวจจราจรอย่างเขา ใช้เวลาหลายสิบปีปลูกต้นไม้ในเมืองกรุง 

“ก็ผมเป็นคนบ้านนอก ครอบครัวทำนา บ้านนอกของเราเขียวชอุ่ม บรรยากาศดี ก็อยากให้กรุงเทพฯ มีพื้นที่แบบนั้นบ้าง ต้นไม้จะให้ความร่มรื่น อากาศดีๆ "