อ่อนตัว

อ่อนตัว

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1215 / 1220 จุด แนวรับ 1200 / 1188 จุด ทางเทคนิคยังคงไม่มีสัญญาณซื้อ โดยมีแนวรับลุ้นรีบาวด์ที่ 1180 จุด เราให้น้ำหนัก 50% ที่มีโอกาสเกิดการชุมนุมยืดเยื้อแบบไม่รุนแรงและคาดดัชนีฯ ผันผวนในกรอบ 1150-1280 จุด ปัจจัยลบ คือ เศรษฐกิจจีน 3Q20 GDP เติบโตน้อยกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และการเรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน ของกลุ่มผู้ชุมนุม มิฉะนั้นอาจเกิดเหตุ Surprise วันนี้ ปัจจัยบวก คือ ครม. หารือวันนี้ เพื่อเปิดสภาวิสามัญหาทางออกคลี่คลายสถานการณ์ และการลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

        1) พรรคประชาธิปัตย์และประธานสภาเสนอนายกฯ เปิดสภาวิสามัญ เปิดอภิปรายทั่วไปในการประชุมร่วมรัฐสภาตามมาตรา 165 เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน (+ตลาดหุ้นไทย)

        2) กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน มิฉะนั้นจะมีเหตุการณ์ประหลาดใจเกิดขึ้นวันนี้ (-ตลาดหุ้นไทย)

        3) กลุ่มสถาบันการเงินไทย ทยอยประกาศงบ 3Q20E วันนี้ นำโดย SCB TMB KTB (-หุ้นธนาคารรายหลักทรัพย์)

        4) การรอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยประธานสภาผู้แทนฯ และรมว. คลัง จะเจรจากันอีกครั้งวันนี้ (เป็น Positive Surprise หากเป็นจริง)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ Earnings-UBS, Netflix / China-Loan Prime Rate 1 ปี (3.85%) 5 ปี (4.65%) / USA-สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขานิวยอร์กและชิคาโก, Housing Starts เดือน ก.ย. คาด +2.8% MoM (Vs เดือน ส.ค.-5.1% MoM), Building Permits เดือน ก.ย. คาด +1.8% MoM (Vs เดือน ส.ค. -0.9% MoM)/ EU-ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค. คาดเกินดุล 26.8 พันล้านยูโร (Vs เดือน ก.ค. เกินดุล 25.5 พันล้านยูโร)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยดิ่งแรงเป็นวันที่สี่: ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงตลอดการซื้อขายและลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1205.61 จุด -28.07 จุด ก่อนรีบาวด์ปลายตลาดมาปิดที่ 1208.75 จุด -24.93 จุด -2.02% วอลุ่ม 5.4 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง -5.26% ขนส่งและโลจิสติกส์ -4.3% สื่อและสิ่งพิมพ์ -3.72% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ -3.71% ธนาคาร -3.62% โดยหุ้นบวก >4% NER KCE SVI RCL NYT หุ้นลบ >4% AOT SCB BBL CRC CPN HMPRO BEM WHA DTAC CK VGI ICHI PLANB JMT TCAP GLOBAL DOHOME PRM WORK

- ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดร่วง: การกังวลว่าทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลง เพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผล DJIA -1.44% S&P500 -1.63% Nasdaq -1.65% นำลงโดยกลุ่มพลังงาน -2% กลุ่มเทคโนโลยี -1.9% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลดลง DAX -0.42% CAC40 -0.13% FTSE -0.59% กังวลการระบาดรอบ 2 ของ COVID-19 และผลกำไรบจ. ส่วนปัจจัยบวก คือ การเจรจา Brexit อาจมีทางออกที่ดีในอนาคต

- น้ำมันดิบลงต่อ แต่ทองฟื้นตัว: Brent –31 เซนต์ ปิดที่ USD42.62/บาร์เรล WTI -5 เซนต์ ปิดที่ USD40.83/บาร์เรล วิตกการระบาด COVID-19 ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันโลกลดลง ส่วนทองคำกลับมาฟื้นตัว +USD5.3 ปิดที่ USD1,911.70/ออนซ์ จากการกลับมาอ่อนค่าของเงิน USD

ประเด็นสำคัญ

+ การเมือง: การเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญคาดเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากนายกฯ ประยุทธ์สนับสนุนให้เปิดสภาฯ เพื่อนำข้อเท็จจริงมาพูดกัน โดยจะมีการหารือเรื่องดังกล่าวในการประชุมครม. วันนี้ กับพรรคร่วมรัฐบาล

- การเมือง: กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉิน มิฉะนั้นอาจมี Surprise ขณะที่ศาลฯ ให้ประกัน 25 แกนนา รวมทั้งเพนกวิน รุ้ง

+ มาตรการคนละครึ่ง: 3 วันแรก มีผู้ลงทะเบียน 5.8 ล้านคน จากเป้า 10 ล้านคน

- Oil: ผลประชุมกลุ่มโอเปคพลัส มีมติคงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในอัตราเดิมที่ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงเดือน ธ.ค. 2020 โดยการประชุมครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือน ธ.ค.

+ Brexit: รองประธานคณะกรรมาธิการอียู มารอส เซฟโควิช เผยว่าอียูยังคงต้องการทำข้อตกลงการค้ากับ UK และพร้อมที่จะเจรจาจนถึงนาทีสุดท้าย โดยจะให้ผู้แทนทั้งสองฝ่ายเจรจากันวันนี้ เพื่อวางกรอบการเจรจาในรอบต่อไป

- ไฟแนนซ์: ธนาคารออมสินประชุมวันนี้ ขอมติให้เข้าไปร่วมทุนกับผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อย (non-bank) เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ เพื่อเปิด 1Q21E โดยจะเสนอชื่อ 3 ราย เพื่อเลือก 1 รายวันนี้

- China: รายงาน 3Q20 GDP เติบโตสูงขึ้นจาก 2Q20 เป็น +4.9% YoY, +2.7% QoQ แต่แย่กว่าคาดการณ์ของตลาดที่ +5.3% YoY, 3.3% QoQ (Vs 2Q20 3.2% YoY, 11.5% QoQ)

กลยุทธ์ลงทุน Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: ASIAN AUCT SYNEX

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: WICE TU RCL HANA

Derivatives: ถือสถานะ Short ที่เปิดไว้ เพื่อรอทำกำไรตามเป้า (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)