‘มายคลาวด์ ฟูลฟิลเม้นท์’ เดินเกมรุกในวันที่ 'อีคอมเมิร์ซ' ครองเมือง

‘มายคลาวด์ ฟูลฟิลเม้นท์’ เดินเกมรุกในวันที่ 'อีคอมเมิร์ซ' ครองเมือง

ส่องธุรกิจมาแรงในช่วงวิกฤติไวรัสครองโลก หนึ่งในนั้นคือ 'fulfillment service' บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง

ผลพวงต่อเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้สตาร์ทอัพที่ชื่อ 'MyCloud Fulfillment' ติดท็อปแถวหน้าในกลุ่มผู้ให้บริการด้าน Fulfillment ด้วยความมุ่งหมายให้การขายของออนไลน์ของคนไทย สามารถส่งข้ามประเทศได้พร้อมกับจำหน่ายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้กลายเป็นที่เตะตา และได้รับความสนใจมากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมถึงวงการอีคอมเมิร์ซเป็นอย่างมาก

นิธิ สัจจทิพวรรณ กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง MyCloud Fulfillment บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ จำกัด กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่เคยจำหน่ายสินค้าออนไลน์ประเภทจิวเวลรี่เมื่อปี 2556 ประกอบกับที่บ้านทำธุรกิจคลังสินค้ามานานกว่า 30 ปี จึงได้ผนวกรวมและต่อยอดประสบการณ์ความรู้สองส่วนนี้เข้าด้วยกันเกิดเป็นธุรกิจ Fulfillment และถือเป็นรายแรกๆ ในไทย

160310563548

“มายคลาวด์ ฟูลฟิลเม้นท์” คลังสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ทำหน้าที่จัดการคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรตั้งแต่การเก็บ แพ็ค และขนส่ง รวมถึงการเชื่อมต่อช่องทางการขายอัตโนมัติหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ มาร์เก็ตเพลส หรือโซเชียลมีเดีย

MyCloud มีสิ่งที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ คือ 1. การให้บริการ Customize ที่สามารถปรับแต่งตามใจลูกค้า เช่น แพ็คสินค้าตามการร้องขอเฉพาะออเดอร์ เช่น ผูกโบว์ เขียนการ์ด ฉีดน้ำหอมบนการ์ด 2. การให้บริการดาต้า โดยอาศัยจุดแข็งจากการทำฐานข้อมูลสินค้าเข้า-ออก ทำให้ทราบความต้องการของผู้บริโภคในตลาด ส่งผลให้ลูกค้าสามารถวางแผนการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการกระจายสินค้าได้เร็ว ลดต้นทุนการสต็อคสินค้า ส่งผลให้ได้กำไรมากขึ้น

160310578041

“ภารกิจคือต้องการทำให้ร้านค้าบริหารจัดการได้ง่ายละเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะบริษัทสตาร์ทอัพมีพนักงานกว่า 150 คน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยโควิดเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้การซื้อขายออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมาก พัสดุจากคลังสินค้า จึงพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน จากเดิมก่อนโควิดมีออเดอร์อยู่ประมาณเดือนละ 45,000 ออเดอร์ จนขยับมาที่ 80,000-150,000 ออเดอร์ กระทั่งล่าสุดพุ่งมาอยู่ที่ประมาณ 250,000 ออเดอร์ ส่วนสินค้าก็มีหลากหลายแต่ที่เพิ่มมากชัดเจนคือ อาหารเสริม เครื่องนอน สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าอุปโภคในชีวิตประจำวันตลอดจนสินค้าแฟชั่นต่างๆ"

นิธิ ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้คนใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นถึง 34% ในช่วงที่ผ่านมา เกิดการจับจ่ายซื้อของมากขึ้นกว่าเดิมถึง 8 เท่า ลูกค้าบางรายของ MyCloud เติบโตสูงสุดถึง 25 เท่า ฉะนั้น การขายอีคอมเมิร์ซจะเป็นเรื่องของช่วงเวลาที่มีการขายดี อีกทั้งมีเพียง 28% เท่านั้นที่ซื้อซ้ำกับแบรนด์เดิมและช่องทางเดิม และใน 4-5 รายของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้ามักจะซื้อสินค้าตามการบอกต่อหรือการแนะนำจากเพื่อน

160310571334

ปัจจุบันคลังสินค้าของมายคลาวด์กระจายอยู่ 3 พื้นที่คือ 1.ลาดกระบัง ขนาด 3 พันตารางเมตร 2.รังสิต โดยเป็นคลังสินค้าที่ร่วมกับ SCG บนพื้นที่ 3 พันตารางเมตร ในรูปแบบ OEM 3.สุวรรณภูมิ ขนาด 4 พันตารางเมตร อนาคตตั้งเป้าเพิ่มจำนวนคลังสินค้า โดยเล็งในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ พิษณุโลก สระบุรี

160310573186

เนื่องจากเป็นโลเคชั่นที่ดีด้วยเส้นทางโลจิสติกส์เป็นแลนด์มาร์กที่สะดวกในการขนส่ง อีกทั้งค่าแรงขั้นต่ำ จึงจะเป็นฐานการทำงานที่ดี และส่วนใหญ่ออเดอร์ทั้งหมดที่จำหน่ายออกไปนั้น 70% เป็นการขนส่งสู่ต่างจังหวัด (ภาคใต้มีสัดส่วนสูงสุดถึง 50%) ส่วนในกรุงเทพฯมีเพียง 30% จึงเป็นทิศทางที่เราจะขยายคลังไปสู่จังหวัดต่างๆ เพิ่มเติม

นิธิ มองภาพธุรกิจคลังสินค้าว่าจะไม่ใช่แค่เรื่องภายในประเทศ แต่จะเป็นการขายของทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีการขายข้ามประเทศกันมากขึ้น เพียงแต่การขายข้ามประเทศยังมีต้นทุนสูง และยังล่าช้า ซึ่งแพลนของมายคลาว์ในอนาคตคือ จะขยายการบริหารงานรุกเปิดคลังในต่างประเทศ โดยจะนำร่องที่ เวียดนาม เป็นอันดับแรก เพราะมีความต้องการให้การจัดส่งเร็วขึ้น ถูกขึ้นและใกล้ขึ้น ยิ่งความต้องการสินค้าด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น การขายออนไลน์จึงต้องพัฒนาไปถึงจุดนั้น 

160310581939

“เราได้รับเงินลงทุนซีรี่ส์ A มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์จาก ECG-RESEARCH, Gobi Partners, NVest Venture และ SCB 10X โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาระบบการจัดการด้านข้อมูล หรือ DATA ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศ และพัฒนาระบบเพื่อจับคู่ธุรกิจไปโตที่ต่างประเทศด้วยเช่นกัน” นิธิ กล่าว

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

www.mycloudfulfillment.com