‘ไทย’ มอบหน้ากากอนามัย ‘เมียนมา’ 1 ล้านชิ้น ป้องโควิด

‘ไทย’ มอบหน้ากากอนามัย ‘เมียนมา’ 1 ล้านชิ้น ป้องโควิด

“กระทรวงการต่างประเทศ” ส่งมอบหน้ากากอนามัยให้รัฐบาลเมียนมา 1 ล้านชิ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากซีพี พร้อมประกาศความร่วมมือสาธารณสุขไทย-เมียนมา ฝ่าโควิด-19 ร่วมกัน

กระทรวงการต่างประเทศรับมอบหน้ากากอนามัยจำนวน 1 ล้านชิ้นจากบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด โดยนายเนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้ช่วยบริหารประธานคณะผู้บริหารและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้านความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลเมียนมาในนามรัฐบาลไทย เพื่อช่วยเหลือเมียนมาในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยนายชุตินทร คงศักดิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรับมอบ ที่กระทรวงการต่างประเทศ

ไทยตระหนักถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถของเมียนมา ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศไทย ในการรับมือกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เพี่อชะลอการระบาดออกไปในวงกว้าง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลเมียนมาทางการเงิน และร่วมมือกับภาคเอกชนไทยในลักษณะ Public Private Partnership (PPP) ที่มีความประสงค์จะให้การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่รัฐบาลเมียนมา 

160309134921

ด้านนายชุตินทร ได้กล่าวขอบคุณบริษัท และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลือกันในสถานการณ์ที่ยากลำบาก พร้อมกับกล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศยังร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 1.จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเร่งด่วน รวมถึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ ภายใต้แผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-เมียนมา ระยะ 3 ปี สาขาสาธารณสุข และในกรอบอื่น ๆ อาทิ ชุด PPE ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการและการตรวจรักษาโรค เครื่อง RT-PCR แบบเคลื่อนย้ายและพกพาได้สำหรับจุดผ่านแดนสากลและตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา อุปกรณ์สำหรับห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ และห้องตรวจเชื้อความดันลบหรือบวกแบบเคลื่อนที่ได้ และ2.จัดกิจกรรมการฝึกอบรมทางไกลเพื่อสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ให้แก่เมียนมา และพัฒนาองค์ความรู้ในการรับมือกับโรคโควิด-19 

นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีแผนจะเป็นการให้คำปรึกษาทางการแพทย์แบบ Real Time เพื่อเปิดช่องทางให้แพทย์เมียนมาและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไทยให้การปรึกษาในการรักษาและอภิบาลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดอัตราการเสียชีวิต