ชงครม.ปลดล็อค 'แรงงานเมียนมา' ตกค้าง 'แม่สอด' ทำงานต่อในไทย

ชงครม.ปลดล็อค 'แรงงานเมียนมา' ตกค้าง 'แม่สอด' ทำงานต่อในไทย

สธ.เผยผลตรวจโควิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่แม่สอด รอบแรกเป็นลบไม่ติดเชื้อ รอเช็คซ้ำอีกรอบ เร่งหารือแรงงานนำเรื่องเข้าครม. ปลดล็อคแรงงานเมียนมาตกค้างในไทยเข้าทำงาน แทนนำเข้าแรงงานมาใหม่ เผยปลอดโควิด19อยู่แล้ว ลดต้นทุนนายจ้างต้องจ่ายค่ากักตัว 14 วัน

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด19 ในอ.แม่สอด จ.ตากว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่อ.แม่สอด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ทำให้รับทราบในหลากหลายมิติ อย่างเช่น มีแรงงานเมียนมาที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในพื้นที่อ.แม่สอดร่วมหมื่นคนแต่ไม่มีใครจ้างงาน เนื่องจากการเข้ามานั้นหากโดยบริษัทก.เป็นคนนำเข้าก็ต้องทำงานกับบริษัทก. ไม่สามารถไปทำงานกับบริษัทม ข.ได้ เมื่อบริษัทก.ไม่จ้างงานจึงทำให้ว่างง่าน ทั้งที่บริษัทข.มีความต้องการแรงงาน เป็นสิ่งที่กำลังเดินสวนทางกันอยู่

จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)หารือกับปลัดกระทรวงแรงงาน ในการพิจารณาจัดหาแหล่งทำงานให้แรงงานที่อยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นผู้ที่ไม่มีเชื้อ แต่หากขอนำเข้ามาใหม่ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการนำเชื้อเข้ามาและเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัมที่จะนำเข้าเพราะต้องจ่ายค่ากักกันตัวให้แรงงานที่เข้ามาใหม่ 14 วัน อย่างบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งขออนุญาตนำเข้าแรงงาน 3,000 คนก็ต้องมานั่งลุ้นอีกว่าจะปลอดเชื้อหรือไม่ ขณะที่มีแรงวงานอยู่ในไทยนั่งรออยู่แล้วแต่จ้างงานไม่ได้ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 20 ตุลาคม 2563 จะนำเข้าหารือเพื่อปรับระบบและจัดสรรสถานที่ทำงานในการรับช่วงแรงงาน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า จากการคัดกรองผู้สัมผัสและการค้นหาเชิงรุกในชุมชนกว่า 4,900 คน พบการติดเชื้อที่รายงานแล้วคือ 2 สามีภรรยา ลูกและหลานรวม 5 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคนอื่นผลการตรวจหาเชื้อรอบแรกเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อ แต่จะมีการตรวจซำอีกครั้งเนื่องจากอาจจะอยู่ในระยะฟักตัวของโรคและจะมีการเฝ้าระวังจนครบ 14 วันและบางรายเข้าอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนดในพื้นที่แล้ว และอยู่ระหว่างคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตากพิจารณาว่าจะต้องตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนใดเพิ่มเติมหรือไม่