สธ. พบ 3 คนใกล้ชิดผู้ป่วยเมียนมา มีเชื้อโควิด-19 รอยืนยันผลรอบ 2

สธ. พบ 3 คนใกล้ชิดผู้ป่วยเมียนมา มีเชื้อโควิด-19 รอยืนยันผลรอบ 2

สธ. ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัว 2 สามีภรรยา ผู้ป่วยโควิด-19 ชาวเมียนมา จำนวน 3 คน ได้แก่ ลูกสาว หลานชาย หลานสาว ตรวจรอบแรกผลเป็นบวก รอผลยืนยันอีกครั้ง ทั้งหมดถูกส่งตัวไปส่งตัวรักษาโรงพยาบาลแม่สอด

วันนี้ (17 ตุลาคม ) ที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ชาวเมียนมา ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า จากนโยบายการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังจากพบพนักงานขับรถชาวเมียนมาติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 2 ราย กระทรวงสาธารณสุขจึงดำเนินการตรวจเฝ้าระวังเชิงรุกด้วยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 6 คัน ในชุมชน 4 แห่ง ระหว่างวันที่ 12-13 ตุลาคม 2563 ได้เก็บตัวอย่างจำนวน 4,187 ตัวอย่าง ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นบวก 2 ตัวอย่าง ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผล


โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในชุมชนสุเหร่ามะดีนะฮ์ อ.แม่สอด จ.ตาก แบ่งเป็น รายที่ 1 เพศชาย อายุ 63 ปี รายที่ 2 เพศหญิง อายุ 53 ปี ทั้ง 2 ราย เป็นสัญชาติเมียนมา เป็นสามีภรรยา พักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน สามีเป็นผู้พิการนั่งรถเข็น บ้านเป็นลักษณะลานจอดรถ เป็นโกดังซื้อค้าขายแลกเปลี่ยน ในชุมชนสุเหร่ามะดีนะฮ์ ข้อมูลเบื้องต้นผู้ป่วยทั้งสองไม่มีประวัติเดินทางออกนอกพื้นที่ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะติดมาจากลูกชายที่ได้รับการวินิจฉัยโควิด19 ที่เมียวดี เมียนมา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 หรือพนักงานขับรถส่งของจากเมียนมา โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย เข้ามารับการตรวจคัดกรองเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563 โดยรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ทั้ง 2 ราย อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีไข้ ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ขณะนี้เข้ารับการรักษาในห้องแยกเชื้อความดันลบ โรงพยาบาลแม่สอด อาการทั่วไปปกติ

160293395412

  • ไทม์ไลน์ 2 สามีภรรยาเมียนมา

สำหรับไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อที่พบจากการค้นหาเชิงรุก เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ทั้ง 2 ราย ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นสามีภรรยา อายุ 63 และ 53 ปี สันนิษฐานว่าทั้งสองอาจติดมาจากลูกชาย หรือ พนักงานขับรถส่งของจากเมียนมา (อยู่ระหว่างสอบข้อมูลลูกชายที่เมียนมา) โดยในวันที่ 2 และ 9 ก.ย. ลูกชายที่อาศัยในประเทศเมียนมามาเยี่ยม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ลูกชายมีประวัติไปย่างกุ้ง ไม่ทราบเวลาชัดเจน ตรวจพบเชื้อ 7 ต.ค. ที่เมียวดี เมียนมา)

ถัดมา วันที่ 9 ต.ค. เวลา 8.00 – 15.00 น. มีแม่บ้านชาวเมียนมา มาทำงานบ้าน (กวาดพื้น ถูบ้าน ล้างจาน) (แม่บ้านตรวจคัดกรอง 13 ต.ค. ไม่พบเชื้อ) วันที่ 12 ต.ค. เดินทางไปซื้อข้าวสาร อาหารแห่งบริเวณตลาดศาลพ่อท้าว ซื้อไก่ที่บริเวณร้านมุกดา และ ซื้อนมวัวถุง บริเวณสี่แยกบ่อน้ำ วันที่ 13 ต.ค. เก็บตัวอย่างตรวจในการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยหน่วยงานสาธารณสุข วันที่ 15 ต.ค. ไปตลาดพาเจริญ ปั่นจักรยานผ่านตลาดมวยแขก และโรงเรียนอิสลาม วันที่ 16 ต.ค. ละหมาดที่มัสยิดมาดีนะห์ ผลตรวจพบเชื้อ

สำหรับการค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 9 คน ประกอบด้วย คนในครอบครัว 5 คน และผู้ร่วมพิธีทางศาสนา 4 คน โดยจำนวนนี้ 3 คน ตรวจพบสารพันธุกรรม SARS-CoV-2 (ด้วยวิธี RT-PCR) ครั้งแรกที่โรงพยาบาลแม่สอด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563 เป็นลูกสาว อายุ 23 ปี หลานสาวอายุ 10 ปีและหลานชายอายุ 1 ปี
รอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง โดยทั้ง 3 คนอยู่ในโรงพยาบาลแม่สอด และที่เหลือได้รับการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และรอผลการตรวจซ้ำ นอกจากนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 55 คน ทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อ และอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ได้เข้มข้นมาตรการโดยพ่นทำลายเชื้อที่บ้านผู้ติดเชื้อ โดยประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยขอให้ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคม กิจกรรมที่ไม่จำเป็นและงานรื่นเริงจังหวัดให้งดทั้งหมด กิจวัตรประจำวันอย่างการซื้อสินค้า เข้าร้านอาหาร ให้ไปซื้อสินค้าจำเป็น ร้านค้าขอให้ยึดหลักคนไม่หนาแน่น หากหนาแน่นให้ซื้อกลับบ้าน ส่วนศาสนกิจ เช่น วัด มัสยิด ขอให้งด ในช่วง 1-2 วัน โดยทางจังหวัดจะประเมินอีกครั้ง รวมถึงโรงเรียนด้วย

สำหรับ การดำเนินงานในการป้องกัน และควบคุมโรค ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 วันที่ 12 ต.ค. ได้มีการจัดตั้ง Safety zone จุดแลกส่งสินค้าระหว่างชายแดน โดยไม่ต้องข้ามแดนไปมาระหว่างชายแดน วันที่ 14 ต.ค. ตรวจ RT-PCR พนักงานขับรถฝั่งไทยบริเวณ Safety zone แลกเปลี่ยนสินค้า จำนวน 239 ราย ไม่พบเชื้อทั้งหมด วันที่ 15 ต.ค. ตรวจ RT-PCR พนักงานขับรถฝั่งไทยบริเวณ Safety zone แลกเปลี่ยนสินค้า พนักงานขับรถ ชาวไทย 220 คน ชาวเมียนมา 32 คน รอผล และ วันที่ 16 ต.ค. ตรวจ RT-PCR พนักงานขับรถฝั่งไทยบริเวณ Safety zone แลกเปลี่ยนสินค้า ชาวไทย 163 คน ชาวเมียนมา 60 คน รอผล

“พื้นที่แม่สอดถือเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่ประชาชนมีความเข้าใจทำให้ไม่เกิดความตื่นตระหนก อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคที่มีความเข้มแข็งและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 สำหรับการปฏิบัติตัวของประชาชน ขอให้ถือวัคซีนประจำตัว 3 อย่าง คือ การสวมหน้ากากอนามัย /หน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่นเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และสัมผัสเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ให้หลีกเสี่ยงสถานที่แออัดที่มีคนจำนวนมาก และลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ที่ใช้บริการผ่าน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพราะหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสมาตรวจและเฝ้าระวังโรคต่อไป” นายแพทย์โอภาส กล่าว

160292671674

ด้าน นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า สธ. ได้ตั้งรับเชิงรุก ในการตั้งรับสถานการณ์ที่มีโอกาสแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาในขอบชายแดน และเนื่องจากแม่สอดเป็นพื้นที่ๆ มีการค้าขายหนาแน่น การเชิงรุกได้ผลดี การปฏิบัติตัวของคนในพื้นที่ ค่อนข้างไม่ตื่นตระหนก และการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สิ่งสำคัญที่จะแนะนำประชาชนในพื้นที่และทั่วไป คือ ความไม่ตระหนก การจัดการที่ดี ที่สำคัญ คือ วัคซีนประจำตัว 3 อย่าง ได้แก่ ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

“อย่างไรก็ดี ที่ประชาชนในพื้นที่ตอนนี้ต้องคำนึงถึง คือ แม่สอดเป็นพื้นที่เสี่ยง ต้องเฝ้าระวังอาการต่างๆ เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ สามารถรับการตรวจรักษาฟรีได้ที่ รพ.ในพื้นที่ สำหรับพื้นที่อื่น หากเข้าในชุมชน แออัด หรือสงสัยว่ามีโอกาสติดเชื้อ สามารถเข้ารับบริการภาครัฐได้ฟรีเช่นกัน หวังว่าประชาชนทุกท่าน การ์ดต้องไม่ตก ต้องต่อสู้เอาชนะโควิด-19 ให้ได้” รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว