หุ้นยุโรปปิดบวกขานรับความหวังวัคซีนโควิด

หุ้นยุโรปปิดบวกขานรับความหวังวัคซีนโควิด

หุ้นยุโรปปิดบวกขานรับความหวังวัคซีนโควิดและผลประกอบการแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดวันศุกร์ (16 ต.ค.) ปรับตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐจะมีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2563 ที่สดใส ได้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.26% ปิดที่ 367.48 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,908.99 จุด เพิ่มขึ้น 205.24 จุด หรือ +1.62%, ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,935.86 จุด เพิ่มขึ้น 98.44 จุด หรือ +2.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,919.58 จุด เพิ่มขึ้น 87.06 จุด หรือ +1.49%

ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ของสหรัฐอาจยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ภายในเดือนหน้า ขณะที่ในเมืองใหญ่หลายแห่งของยุโรปต้องกลับไปดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ธุรกิจและการเดินทางอีกครั้ง เนื่องจากโรคโควิด-19 ระบาดเพิ่มขึ้น

ไฟเซอร์ แถลงในวันศุกร์ว่า บริษัทจะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 กับทางสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ และระบุว่า การยื่นจดทะเบียนวัคซีนจะเกิดขึ้น ทันทีที่มีข้อมูลยืนยันผลการทดลองว่ามีความปลอดภัย โดยอาจมีการยื่นจดทะเบียนในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพ.ย.

แม้ว่าไฟเซอร์ไม่สามารถวางจำหน่ายวัคซีนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. แต่การยื่นจดทะเบียนดังกล่าวจะทำให้สหรัฐมีวัคซีนต้านโควิด-19 ภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสกัดการแพร่ระบาดในสหรัฐ ซึ่งในขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 8,200,000 ราย เสียชีวิตมากกว่า 222,000 ราย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่คาดว่า อังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าหลังอังกฤษแยกตัวออกจากอียู (เบร็กซิท)

หุ้นธิสเซนครุบบ์ พุ่ง 10.8% หลังบริษัทลิเบอร์ตี สตีล เสนอซื้อกิจการของธิสเซนครุบบ์ ส่วนหุ้นหลุยส์วิตตอง พุ่ง 7.3% หลังยอดขายกระเป๋าถือฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยลดผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ระบาดในไตรมาส 3

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราอื่นๆ ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นมงแคลร์ และหุ้นเบอร์เบอรี พุ่งขึ้นมากกว่า 3%

หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเดมเลอร์ พุ่ง 5.5% และหุ้นวอลโว่ พุ่ง 3.3% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาด