BAM - ถือ

BAM - ถือ

AMC ยังเป็นธุรกิจ blue ocean

Event

อัพเดตแนวโม และประมาณการ 3Q63F

lmpact

การตั้ง JV ขึ้นมาบริหารหนี้เสียจะเป็นกลยุทธ์แบบ win-win

เนื่องด้วย NPL จะล้นทะลักเข้ามาในระบบจำนวนมาในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ดังนั้น BAM จึงริเริ่มแผนธุรกิจใหม่ด้วยการเข้าไปเจรจากับธนาคารเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรในการบริหารจัดการหนี้เสีย และเข้าไปเจรจากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์สำหรับขาย
ซึ่งหากโมเดลการผนึกพันธมิตรนี้เป็นไปด้วยดี ก็จะส่งผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังนี้ 1.) BAM จะสามารถเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (distressed assets) จากธนาคารได้เพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่า 2.) ธนาคารสามารถผ่องถ่าย NPL ออกจากงบดุลธนาคารด้วยการโอนไปยังบริษัท JV 3.) รัฐบาลและ ธปท. ไม่ต้องอัดฉีดเงินทุนก้อนใหญ่เพื่อตั้ง AMC แห่งชาติ 4.) ช่วยป้องกันไม่ให้ราคาสินทรัพย์ร่วงหนัก

BAM ยังคงเป็นผู้เล่นหลักที่มีศัยภาพในการเข้าซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ

ธปท. กำลังพิจารณาจะใช้ AMC เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการหนี้ในระบบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 30% ของหนี้ที่เข้าร่วมโครงการผ่อนผันหนี้ และไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามปกติ ทั้งนี้ ในปัจจุบันมี AMC ทั้งหมด 61 บริษัท เป็นของรัฐ 2 แห่ง (SAM, ธนาคนารอิสลาม) มีสถานะกึ่งรัฐวิสาหกิจ 1 แห่ง (BAM) เป็นของธนาคาร 9 แห่ง และเป็น AMC เอกชนอีก 49 แห่ง หากพิจารณาแผนของธปท.เรามองว่ามีสามแนวทางที่เป็นไปได้ 1.) การตั้ง AMC ใหม่ 2.) สนับสนุนให้ AMC แห่งชาติที่มีอยู่แล้วให้ทำหน้าที่แข็งขันมากขึ้น 3.) ผ่อนคลายเกณฑ์ตั้งด้อยค่าของ AMC ของธนาคาร ที่กำหนดที่ตั้งด้อค่า 20% ของสินทรัพย์ที่ถือไว้ >2 ปี และเพิ่มเป็น 40%, 55%, และ 70% เมื่อครอง >5ปี

ประมาณการ 3Q63F – กำไรจะดีขึ้น แต่ยังไม่ได้ฟื้นแบบ V-shape

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BAM ใน 3Q63F จะอยู่ที่ 1.76 พันล้านบาท ซึ่งรวมรายการ deferred tax asset ประมาณ 1.5 พันล้านบาทด้วย แต่หากไม่รวมรายการนี้ กำไรก่อนภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 261 ล้านบาท (+117% QoQ แต่ -70% YoY) ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักใน 9M63F จะลดลง 78% YoY เหลือประมาณ 1.1 พันล้านบาท ทั้งนี้ ผลประกอบการที่อ่อนแอใน 3Q63F สะท้อนถึงแรงกดดันด้าน margin จากการขายสินทรัพย์ รวมถึงไม่มีการขายที่ดินพล็อตใหญ่ และสามารถเก็บเงินสดจากกรมบังคับคดีได้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

คงคำแนะนำ ถือ และคงราคาเป้าหมายปี 2564F ไว้ที่ 28 บาท

แนวโน้มระยะสั้นของ BAM ยังคงอ่อนไหวกับความไม่แน่นอนของนโยบายมหภาค ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักที่ยังคงอ่อนแอใน 3Q63 และความไม่ชัดเจนในการตั้ง JV ร่วมกับธนาคาร แต่เนื่องจากเราคาดว่าจะมี NPL จะท่วมทะลักเข้ามาในตลาด เราจึงคิดว่าธุรกิจบริษัทบริหารสินทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่อยู่
ใน blue ocean และเมื่อพิจารณาจากความชำนาญในการบริหารหนี้เสียที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน เราคาดว่า BAM น่าจะได้อานิสงส์มากที่สุด

Risks

ขาดทุนด้อยค่าของสินทรัพย์ ขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพน้อยกว่าที่คาด และ margin ลดลง