ราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง 31 ดอลลาร์

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง 31 ดอลลาร์

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันศุกร์ (9ต.ค.)พุ่ง 31 ดอลลาร์ ปัจจัยดอลล์อ่อนหนุนตลาด และความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 31.10 ดอลลาร์ ปิดที่ราคา 1,926.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ทองคำถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาดีที่สุดในปีนี้ โดยพุ่งขึ้น 26% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขานรับการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าจากการที่นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในวงเงินที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำเนียบขาว ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกัน เสนอวงเงินเพียง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนางเพโลซีต้องการให้ทำเนียบขาวออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับรวม ซึ่งครอบคลุมถึงการช่วยเหลือประชาชนและทุกภาคธุรกิจ รวมทั้งรัฐบาลในมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่เป็นการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมใดเป็นการเฉพาะ

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแยกออกเป็นฉบับย่อยหลายฉบับ เพื่อเยียวยาประชาชนและบางภาคธุรกิจเท่านั้น ขณะที่เขาไม่เห็นด้วยที่จะให้เงินสนับสนุนมลรัฐต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเขาอ้างว่ามีการบริหารงานที่ล้มเหลว

ปธน.ทรัมป์ เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการต่างๆที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย