ครบทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ถึงเวลาเร่งเครื่องฟื้นฟูโควิด

ครบทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ถึงเวลาเร่งเครื่องฟื้นฟูโควิด

ขณะนี้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลของไทยก็ฟูลทีม ได้ รมว.คลัง คนใหม่เข้ามารับหน้าที่และผลักดันนโยบายต่อ หลังจากทิ้งช่วงไปกว่า 1 เดือน ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องเร่งวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนและรัดกุมที่สุด ผลพวงจากพิษโควิด-19 ที่ยังมีโอกาสเกิดการระบาดรอบสอง

หลังจากนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2563 ต้องใช้เวลา 25 วันจึงจากได้นายปรีดี ดาวฉาย มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทน แต่ไม่ถึง 1 เดือน นายปรีดีต้องลาออกจากตำแหน่ง และหลังจากนั้นต้องใช้เวลาอีก 1 เดือน จึงจะได้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ สรุปแล้วในช่วงเกือบ 4 เดือน รัฐบาลต้องยุ่งกับการจัดการกรณีการลาออกและการหาตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถือเป็นตำแหน่งสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะต้องบริหารการคลังของประเทศที่จะใช้ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรุนแรง ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 2 ของไทยติดลบถึง 12.2% และหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของวิกฤติเศรษฐกิจในรอบนี้ แต่ช่วงเวลาในการฟื้นตัวยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามว่าจะใช้เวลานานเพียงใด

ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการฟื้นฟูผลกระทบจากโควิด-19 หลายมาตรการนับตั้งแต่การจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนผู้มีอาชีพอิสระ เกษตรกรและกลุ่มเปราะบาง จนมาถึงมาตรการเที่ยวด้วยกันเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งแม้ว่าผลตอบรับในช่วงแรกจะไม่มากนัก แต่รัฐบาลได้รับตัวได้ทันด้วยการปรับปรุงมาตรการอย่างต่อเนื่องทั้งการให้นิติบุคคลเข้าร่วมมาตรการได้ รวมถึงการใช้สิทธิในจังหวัดที่ตัวเองมีทะเบียนบ้านได้

กระทั่งล่าสุดรัฐบาลได้กระตุ้นการบริโภคออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน 3 มาตรการ คือ 1.มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน 2.มาตรการคนละครึ่ง โดยรัฐบาลร่วมจ่ายเงินซื้อสินค้าจำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับประชาชน 10 ล้านคน 3.มาตรการช็อปดีมีคืน ซึ่งเป็นการกระตุ้นการบริโภคผ่านการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มผู้มีรายได้ประจำและอยู่ในระบบภาษี โดยจะได้สิทธินำค่าซื้อสินค้าหรือบริการที่กำหนดมาเป็นค่าใช้จ่ายในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีโอกาสเกิดขึ้นรอบที่ 2 ได้ จึงจำเป็นที่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลจะต้องวางแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้รัดกุมที่สุด ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่กำลังจะทำหน้าที่ได้ ดังนั้นทีมเศรษฐกิจรัฐบาลที่ครบทีมแล้วหวังว่าจะทำงานได้เต็มศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่อยู่ในพรรคการเมืองใดก็ตาม ซึ่งทั้งทีมเศรษฐกิจต้องระลึกอยู่เสมอว่าปัจจุบันกำลังบริหารประเทศในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ