เลือกเก็งกำไรรายตัว ฟื้นไม่ผ่าน 1269 ทำให้ยังคงความเสี่ยงทางลงใน 3-4 สัปดาห์หน้า

หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับลงเล็กน้อยก่อนการโต้วาที (debate) รอบแรกของการเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐฯ 2020 ระหว่างประธานาธิปดีโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน ใน 6 ประเด็น ทั้งนี้ไม่ว่าใครชนะ คาดความตึงเครียดกับจีนจะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่เปลี่ยนรูปแบบไป จากคะแนนนิยมที่สูงกว่า เราคาดตลาดอาจตอบรับโอกาสชนะของโจไบเดน ได้ทั้งบวกและลบ โดยตลาดน่าจะผันผวนน้อยลงจากความนิ่งและไม่แสดงความเห็นทางการเมืองบ่อยเท่าทรัมป์ แต่ในเชิงลบตลาดจะให้น้ำหนักถึงการขึ้นภาษีนิติบุคคลกลับเป็น 28% (จาก 21%) ซึ่งจะกดดันต่อผลประกอบการได้

ระวังกลุ่มท่องเที่ยว แม้ครม.อนุมัติให้เริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวผ่านนโยบายติดตามเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยจะมีนักท่องเที่ยวชุดแรกจากจีน 120 คน วันที่ 8 ต.ค. อย่างไรก็ตามเรายังคาดจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า มีจำกัดและต่ำกว่าระดับเฉลี่ยที่ราว 3 ล้านคนก่อนสถานการณ์โควิด ทั้งนี้รายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็นเพียง ¼ ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ผลประกอบการของหุ้นท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน และมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนต่อเนื่องในอีกหลายไตรมาส  

DIF กลับมาน่าสนใจ – เช้านี้ TRUE จะทำการขายหุ้น DIF ล็อตใหญ่ (big lot) จำนวน 298 ล้านหุ้น หรือ 2.822% คงเหลือถือ 23.379% ที่ราคา 13.50-14.00 บาท/หุ้น คิดเป็นส่วนลด 1.4-4.9% ของราคาปิดวานนี้ที่ 14.20 บาท โดยผู้ขาย (TRUE) สมัครใจจะไม่ขายหุ้น DIF ออกมาเพิ่ม (lock-up period) ในอีก 90 วันข้างหน้า เราคาดผลกระทบต่อราคาจำกัดและการปรับลดลงล่วงหน้าทำให้หุ้นกลับมาดูน่าสนใจ

เลือกลงทุนรายตัว หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW, SUPER / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, ZIGA 3) วีซ่าพิเศษ ERW, CENTEL, MINT, VRANDA, SPA

ภาพรวมกลยุทธ์ การฟื้นตัวไม่เกิน 1269 ทำให้ในระยะ 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า SET Index ยังอาจเผชิญความเสี่ยงทางลงอีก 50-70 จุด ในช่วงตลาดเปราะบางจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การเก็งกำไรเน้นเลือกซื้อรายตัว โดยมีเงินสดบางส่วนรอซื้อในจังหวะที่ตลาดตกใจหรือแกว่งตัวแรง ซึ่งจะเป็นจังหวะดีในการทยอยซื้อหุ้นใหญ่พื้นฐานดี // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร XO*, PLANB*, EA*

แนวรับ 1,244-1,255 จุด / แนวต้าน : 1,269 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

Service PMI จีนพุ่งแตะ 55.9 – สำนักงานสถิตแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ เดือน ก.ย. อยู่ที่ 55.9 เพิ่มขึ้นจาก 55.2 ในเดือน ส.ค.

เดโมแครตเร่งผลักดันมาตรการเยียวยา $2.2 ล้านล้าน ก่อนเลือกตั้งในเดือน พ.ย. – เดโมแครตเผยตั้งเป้าผลักดันมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน $2.2 ล้านล้าน บรรลุข้อตกลงร่วมกับทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน พ.ย. นี้

เวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP จีน – เวิลด์แบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปี 63 เป็นขยายตัว 2% จากคาดการณ์เดิมที่ 1% ขณะที่ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 63 หดตัว 8.3% ก่อนกลับมาขยายตัวที่ 4.9% ในปี 64 

เคาะซื้อระบบไฮสปีด 5 หมื่นล้านบาท – ครม.อนุมัติกรอบวงเงินสัญญาซื้อรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เป็น 5.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นล้านบาท เตรียมลงนาม 29 ต.ค. นี เคาะตั้งบริษัทลูกบริหาiทรัพย์สิน รฟท.

นักท่องเที่ยวจีนชุดแรกเข้าไทย 8 ต.ค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน – ครม.ไฟเขียวต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน สิ้นสุด 31 ต.ค. ขณะที่ ททท.เผย นักท่องเที่ยวจากกวางโจวชุดแรก 120 คน ดีเดย์เข้าไทย 8 ต.ค.นี้

ประเด็นติดตาม: 30 ก.ย. – China manufacturing PMI เดือน ก.ย. / รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ส.ค. / EU CPI index เดือน ก.ย. / US GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)