"เจษฎ์" แนะ "สุรพล" ฟ้อง กกต. ใช้เจตนา-ดุลยพินิจให้ใบส้มไม่สุจริต

"เจษฎ์" แนะ "สุรพล" ฟ้อง กกต. ใช้เจตนา-ดุลยพินิจให้ใบส้มไม่สุจริต

หลังศาลฎีกาฯ กลับคำตัดสิน "กกต." เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง สุรพล ทำให้ถูกตั้งคำถามถึงการทำงานของกกต. ว่าสุจริตหรือไม่

         นายเจษฎ์ โทณะวนิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ต่อกรณีที่ศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษายกคำร้องกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง​(กกต.) เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบส้ม) นายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย 1 ปี ว่า เป็นปัญหาที่เมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องพิจารณา เนื่องจากในการพิจารณาการกระทำทุจริตเลือกตั้ง ทั้ง กรณีใบส้ม ที่ให้สิทธิ กกต.​พิจารณา นั้นห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง,​ใบเหลือง หรือสั่งให้เลือกตั้งใหม่ แต่ให้สิทธิคนที่ถูกตัดสินดังกล่าวลงเลือกตั้งได้ และ ใบแดง คือ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ที่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการพิจารณานั้นมีปัญหาโดยเฉพาะใบส้ม ว่าหากให้อำนาจ กกต.​พิจารณาแล้ว ยังส่งเรื่องไปที่ศาล และเมื่อศาลกลับคำตัดสินของ กกต. อาจทำให้ถูกมองว่าคำตัดสินที่เป็นที่สุด ไม่เป็นที่สุดได้
      นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับกรณีที่เกิดขึ้น และมีประเด็นที่นายสุรพงษ์จะฟ้อง กกต. นั้น ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การใช้ดุลยพินิจของกกต.​นั้นสุจริตหรือไม่ เพราะหากฟ้องโดยปกตินั้นการทำงานของ กกต.​ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 225 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.​มาตรา 132 วรรคสอง ระบุว่าให้คำสั่งของกกต. นั้นให้เป็นที่สุด บุคคลไม่สามารถฟ้องร้องได้ 
       “สิ่งต้องพิจารณาคือ เมื่อไม่ได้ทำผิด คำสั่งของกกต. นั้นสุจริตหรือไม่ หากไม่สุจริตสิ่งที่ดำเนินการต่อได้ คือ คดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำหน้าที่โดยไม่สุจริต สามารถร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องละเว้นได้ หากมีมูลส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นกรณีทุจริตคดีอาญาสามารถส่งไปยังศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”นายเจษฎ์ กล่าว.