ตั้งเป้า 'ไทย' เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ลั่นต้องกำจัดจุดอ่อน พัฒนาจุดแข็ง

ตั้งเป้า 'ไทย' เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ลั่นต้องกำจัดจุดอ่อน พัฒนาจุดแข็ง

"ประยุทธ์" ตั้งเป้า "ไทย" เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ต้องพร้อมรับ ปรับตัว และเปลี่ยนแปลงเพื่อเติบโต ปรับแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ลั่น ต้องกำจัดจุดอ่อนเชิงโครงสร้าง เร่งเสริมจุดแข็งเดิมและพัฒนาจุดแข็งใหม่

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2563 ของสำนักงานสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เรื่อง การติดตามประเมินผลในช่วงครึ่งแผนแม่บทในระยะที่ 1 (พ.ศ. 2561-2565) และเเผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกคนทราบดีวันนี้เราเผชิญความท้าทายอะไรบ้าง ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน คือโควิด-19 ส่งผลกระทบคนทั้งโลก การดำรงชีวิตเศรษฐกิจเป็นแปลงไปอย่างรุนแรง

นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทุกคนในประเทศพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบ แม้จะดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ แต่ประมาทไม่ได้ เพราะอนาคตข้างหน้า มีหลายอย่างต้องเผชิญต่อไป เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เราต้องเตรียมตัว ให้พร้อมเผชิญความเสี่ยง เราต้องความเสี่ยงในเรื่องไม่จำเป็นออกไป เดินหน้าในเรื่องหลักการสำคัญให้เร็ว ทำเชิงรุก ตามแผนขั้นต้นของสภาพัฒน์ฯ แผนยุทธศาสตร์ชาติ หรือแผนปฏิรูปอื่นๆ เมื่อมีอะไรขึ้นมาก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นความเป็นความตายของประเทศของเราในช่วงเวลานี้ เราต้องตั้งหลัก วางแนวทางรับมือวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal การพัฒนาประเทศที่ผ่านมา แม้จะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง แต่มันก็ดีขึ้น ซึ่งก็เผชิญความท้าทายใหม่เข้ามาอีก ก็ต้องระวัง และพลิกโผมการพัฒนาของเราให้ได้รวดเร็วขึ้น ส่วนแผนพัฒนาฯฉบับที่ 12 เป็นความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นี่คือเข็มทิศในการเดินทางของเรา

นายกฯ กล่าวว่า ถ้ามุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามเกณฑ์มาตรฐานของนานาประเทศ คือ เป้าหมายที่เราต้องการ ทำอย่างไรให้คนไทยมีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สังคมปรองดองสมานฉันท์ ทุกคนมีที่ยืน มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดังนั้น แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 เป็นก้าวแรกของการเดินทาง ต้องวางรากฐานให้แข็งแรง กำจัดจุดอ่อนที่สำคัญเชิงโครงสร้าง เร่งเสริมจุดแข็งเดิมและพัฒนาจุดแข็งใหม่

ทั้งนี้ บรรยากาศการรักษาความปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ยังคงมาตรการขั้นสูงสุด ทั้งการคัดกรองโควิด-19 และเพื่อป้องกันให้เกิดความสงบเรียบร้อย หลังจากมีการชุมนุมใหญ่ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เมื่อ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมงานต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมาสแกนบันทึกข้อมูลป้องกันผู้แอบแฝงเข้ามาในงาน