'บอร์ด อคส.' ตามหาเงิน 2,000 ล้านบาท ปมซื้อขายถุงมือยางไม่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ด

'บอร์ด อคส.' ตามหาเงิน 2,000 ล้านบาท ปมซื้อขายถุงมือยางไม่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ด

"บอร์ด อคส." เรียกถกด่วน ตามหาเงิน 2,000 ล้านบาท ปมซื้อขายถุงมือยางไม่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ด

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.63  ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ(บอร์ด)องค์การคลังสินค้า(อคส.) ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารองค์การคลังสินค้า กรณีมีการถอนเงินจากบัญชีของอคส.ไป 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนในธุรกิจถุงมือยาง ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่มีการผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดอคส. ส่งผลให้สังคมและพนักงานอคส.เกิดคำถามถึงที่มาที่ไปของเงินว่ามีการดำเนินการถอนออกจากบัญชีได้อย่างไร ซึ่งจากการสอบถามไปยังประธานบอร์ด อคส. ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์และมีข้อสงสัยในฐานะประธานบอร์ดจึงต้องเรียกประชุมด่วนเพื่อทราบที่มาว่าเป็นอย่างไรเพราะเรื่องนี้ยังไม่เคยผ่านการอนุมัติจากบอร์ด ซึ่งต้องรอข้อมูลจากผอ.อคสที่จะทำสรุปมารายงานอีกครั้ง

ด้านแหล่งข่าวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เช้าวันที่ 17 กันยายน 2563 มีการเรียกประชุมผู้บริหารเป็นการเร่งด่วนเพื่อติดตามเรื่องดังกล่าว เพราะเงินมูลค่า 2,000 ล้านบาทนำไปใช้ในการซื้อถุงมือยางเพื่อนำไปจำหน่ายต่อและมีการจ่ายเงินให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่ตั้งมาได้ไม่นาน

ทั้งนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าาการกระทรวงกลาโหม ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 31/2563 เรื่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ โดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 9/2562 เรื่องการยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ บางฉบับที่หมดความจำเป็น โดยยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดกรอบอัตราชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ เพื่อรองรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นของรัฐตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด

 

ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและแก้ไขข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานขององค์การคลังสินค้า นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้ ...รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า มาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรีโดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือน ค่าจ้าง เงินอื่น และสิทธิประโยชน์เดิมที่ได้รับอยู่ จนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป