'พันธมิตรนอกสภา' ไล่รัฐบาล

'พันธมิตรนอกสภา' ไล่รัฐบาล

การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม วันที่ 19 ก.ย. 2563

ที่ประกาศแนวทางไว้ตั้งแต่เริ่มว่า จะจัดที่ลานโพธิ์ ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เวลา 14.00 น. และหากคนมาล้นพื้นที่จะขยับไปชุมนุมที่สนามหลวง ต่อจากนั้น 20 ก.ย.จะเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล

การแสดงพลังของคนรุ่นใหม่ ภายใต้หัวข้อ ทวงอำนาจ คืนราษฎร ตามการข่าวของฝ่ายความมั่นคง ระบุว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุม 50,000 คน และระบุด้วยว่า จะมีกลุ่มการเมืองขนคนเข้าร่วม โดยใช้รหัสระดมพลคือ ต่อต้านรัฐประหาร และใช้จังหวะ “19 กันยายน” เป็นการรำลึกเหตุการณ์ยึดอำนาจเมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา ที่ ”คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ คมช. ยึดอำนาจ "ทักษิณ ชินวัตร” นายกฯขณะนั้น

ก่อนจะถึงวันชุมนุม มีความพยายามปลุกกระแส ระดมคน ไม่ปกติ ทั้งการใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎร ที่ถ่ายทอดสดทั่วประเทศ ต่อความพยายามใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง สลายการชุมนุมบนจุดนัดหมาย คือ สะพานมัฆวานรังสรรค์ภายใต้ปฏิบัติการ ยุทธการมัฆวานรังสรรค์

ในทางวิเคราะห์ของผู้มีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ประเมินกันว่า จะเป็นการเรียกกระแสความสนใจ และเพิ่มจำนวนคน เพื่อหวังเป็นกำลังต่อกรกับฝ่ายความมั่นคง และอีกนัยหนึ่งคือ การบอกให้ “ต่างชาติ” โดยเฉพาะองค์กรสากลด้านสิทธิมนุษยชน จับตาการชุมนุม

 

เนื่องจาก พื้นที่สะพานมัฆวานฯ ถูกใช้เป็น “สมรภูมิ” และมีเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อหวังผลประการเดียวคือ ไม่ให้เข้าถึงทำเนียบรัฐบาล ที่เป็นจุดชี้ชัยชนะ ว่าการชุมนุมแต่ละครั้งจะบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จหรือไม่

หากรัฐบาลปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมยึดทำเนียบฯ ได้ แม้จะไม่ได้แพ้อย่างเด็ดขาด และยังอยู่ในอำนาจต่อไปได้ก็จริง แต่ก็เป็นการทำให้รัฐบาลสูญเสียอำนาจการปกครองไปโดยปริยาย เหมือนกับที่ "รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์" เผชิญมาแล้ว 

ไม่เพียงเท่านี้ ยิ่งส่งผลให้ม็อบขยายวงกว้างได้มากขึ้น เกินกว่ารัฐบาลจะควบคุมได้ ครั้นรัฐบาลจะใช้กำลังเข้าไปหักเหมือนกับม็อบผู้ใหญ่ก็ทำได้ลำบาก เพราะเกินกว่าครึ่งล้วนเป็นเยาวชน

ขณะเดียวกันในส่วนของ ส.ส.ฝ่ายค้าน เริ่มทยอยประกาศตัวเป็นแนวร่วมอย่างไม่เป็นทางการให้เห็นบ้างแล้ว โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลจะระดม ส.ส.เข้าไปสังเกตการณ์การชุมนุมในพื้นที่ และพร้อมช่วยประกันตัวทันที 

ไม่เพียงเท่านี้ ฝ่ายค้านยังพยายามชิงจังหวะการเมืองในสภา เพื่อเพิ่มแรงกดดันนอกสภาด้วย โดยพรรคเพื่อไทยได้เปิดประเด็น ยุทธการสะพานมัฆวานรังสรรค์’ เพื่อหวังให้คนออกมาร่วมชุมนุมกดดันรัฐบาลมากขึ้น 

ตามมาด้วย ความพยายามให้การประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณางบฯ 2564 ลากยาวไปถึงวันที่ 19 ก.ย.จากเดิมที่จะจบลงในวันที่ 18 ก.ย. เพื่อหวังให้การเมืองทั้งนอก และในสภา ร้อนไปพร้อมๆ กัน

19 ก.ย.นี้ อาจยังไม่ใช่ฉากสุดท้ายของการเมืองในยุคประยุทธ์ แต่อย่างน้อยจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รัฐบาลอยู่ในอำนาจยากขึ้น จนอาจต้องแพ้ภัยตัวเอง