“สมพงษ์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำทีม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน รับฟังความเดือดร้อนของกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ชี้รัฐบาลขาดแผนรองรับที่ดีทำกระทบเป็นวงกว้าง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 ก.ย. 63 ที่ห้องประชุมโรงแรมรอยัลนาคารา อ.เมืองหนองคาย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ฝ่ายค้านรับฟัง 4 กลุ่มเปราะบางจากวิกฤติโควิด 19 เวทีที่ 3 ความเดือดร้อนภาคการเกษตร ซึ่งกลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดขึ้น มีการเสวนาในหัวข้อ ฝ่ายค้านรับฟัง 4 กลุ่มเปราะบางจากวิกฤติโควิด 19 โดย 6 พรรคฝ่ายค้าน ได้ส่งตัวแทนร่วมเสวนาสะท้อนปัญหาและเปิดโอกาสให้เกษตรกรในพื้นที่ จ.หนองคาย ได้แสดงความคิดเห็น เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนำสู่การพิจารณาแก้ปัญหา
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า วิกฤติโควิด 19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งผู้ใช้แรงงานที่มีอยู่ในประเทศไทยประมาณ 39 ล้านคน เป็นผู้ใช้แรงงานภาคการเกษตร 14 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 36 ของผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ ผลกระทบด้านการเกษตร อย่างเช่นในพื้นที่ จ.หนองคาย มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ยางพารา ก.ก.ละ 120 บาท แต่ทุกวันนี้เหลือเพียง ก.ก.ละ 12 บาท บริษัทผลิตยางพาราปิดตัวลงหลายแห่ง มีการรับซื้อน้อยลง ยอมรับว่าภาคอุตสาหกรรมไทยยังไม่ดีขึ้น เป็นตัวอย่างของการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไม่เข้าเป้า ขาดแผนการจัดสรร ขาดการรักษาเสถียรภาพทางการเกษตรในระยะยาว เช่นเดียวกับปัญหาภัยแล้งที่มีผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกร พื้นที่การเกษตรในประเทศไทยมี 149 ล้านไร่ แต่เกษตรกรเป็นเจ้าของพื้นที่จริงแค่ 72 ล้านไร่ ที่เหลือเป็นการเช่าที่ดินทำกิน รายได้ของเกษตรกรโดยเฉลี่ยคนละ 5 พันบาทต่อเดือน เป็นหนี้ทั่วประเทศอย่างต่ำคนละ 2 แสนบาท ทำให้ไม่สามารถใช้หนี้ได้หมดในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นรัฐบาลอย่าละเลยกลุ่มเกษตรกร ต้องหาวิธีการช่วยเหลือ เพราะถือเป็นกลุ่มคนเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 อย่างชัดเจน