โควิดเปลี่ยนอสังหาฯ พัทยา จากตลาด 'แมส' สู่ 'ไฮเอนด์'

โควิดเปลี่ยนอสังหาฯ พัทยา จากตลาด 'แมส' สู่ 'ไฮเอนด์'

หลังปลดล็อกดาวน์ “พัทยา” กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนที่คนไทยนิยมเดินทางไปพักเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศหลังจากกักตัวช่วงเกิดโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์พัทยาเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งโดยเฉพาะตลาดลักชัวรี่ทั้งคอนโด พูลวิลล่า

ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้ความต้องการ(ดีมานด์)คนอยากเที่ยวในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นหลังต้องกักตัวอยู่บ้านมา2-3 เดือนและยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ รวมทั้งคนยังกังวลในการเดินทางไปสนามบิน ที่ต้องเจอคนต่างชาติ จึงเลือกที่เดินทางไปท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่ขับรถไปได้ไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง ส่งผลให้พัทยาได้รับอานิสงส์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะโรงแรมที่มีขนาดกลางและเล็กในรูปแบบของบูทิคมีจำนวนไม่เกิน150 ห้อง มีความเป็นส่วนตัว สะอาด ปลอดภัย

จึงเป็น ‘โอกาส’ ของอสังหาฯขนาดกลาง อาทิ ฮาบิแทท ที่มีโครงการขนาดกลางทำให้ยอดขายเติบโตมากขึ้นเป็น 2 เท่าหลังเปิดให้บริการในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมาจากโครงการครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ เป็นลักชัวรีพูลวิลล่ารีสอร์ต ,เบสท์เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา ติดทะเล บลูเฟียร์ บีดับเบิลยู พรีเมียร์ คอลเล็คชั่น บาย เบสท์เวสเทิร์น

159944482994

“ขณะนี้กลุ่มลูกค้าต้องการซื้ออสังหาฯเพื่อการลงทุนในแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากได้รับผลตอบแทนแล้วยังสามารถมาพักอาศัยที่ตอบโจทย์การลงทุนและไลฟ์สไตล์ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์เป็นกลุ่มนักลงทุน นักธุรกิจ ครอบครัว ”

ถือเป็นจังหวะโอกาสสำหรับโครงการที่สามารถตอบสนองกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 เช่น โครงการโอเชียนเฟียร์เป็นพูลวิลล่า ทำ2ห้องนอนเป็นหลักเพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มครอบครัวหรือมีเพื่อนที่เข้ามาพักอาศัย4-5คนก่อนโควิดอัตราการเข้าพัก 60% ราคาห้องคืนละประมาณ 8,000-12,000บาท

หลังจากโควิดมาทุกคนกักตัวอยู่บ้านทำให้คนอยากได้ที่พักที่มีความส่วนตัวไม่ต้องไปร้านอาหาร หรือใช้ส่วนกลางร่วมกับคนอื่น สามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องออกไปไหนได้ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักวันจันทร์-ศุกร์ ขยับอัตราการเข้าพักเป็น 80% ขณะที่วันเสาร์-อาทิตย์ เพิ่มขึ้นเป็น 100% กลายเป็นว่า ‘วิกฤติ’ ทำให้เกิด ‘โอกาส’

“ ตอนนี้พัทยาเริ่มจากเปลี่ยนจากตลาดคอนโดล่าง โรงแรมที่เป็นแมสมาร์เก็ต ราคาที่พักคืนละ 800-900 บาท เริ่มมีคอนโดในวงศ์อมาตย์ ระดับราคา 2 แสนกว่าบาทต่อตร.ม. แสดงให้เห็นว่าความเป็นลักชัวรีเริ่มเข้ามาแล้ว ในนาจอมเทียน มีรีสอร์ทแบรนด์“เรเนซองส์” ในเครือแมริออทเข้ามา และแบรนด์ของไฮแอทที่มีแผนที่จะเปิดตัว ”

ณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ตลาดคอนโดระดับลักชัวรี่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับเศรษฐี ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์มีกำลังซื้อที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 ในพัทยาเพื่อเที่ยวและพักผ่อนแทนโรงแรม หรือซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ หลังจากกักตัวอยู่ในบ้านมานานและไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ส่งผลให้กระแสความต้องการคอนโดในทำเลที่ติดกับหาดเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่ตัดสินใจซื้อเพื่อพักผ่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ยังเป็นสินค้าเพื่อการลงทุนหรือสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต

สังเกตได้จากยอดขายโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน - พัทยา”ซึ่งเป็นคอนโดแบบไฮไรส์ สามารถขายได้ 120 ล้านบาทภายในระยะเวลา 7 วัน มีทั้งระดับเศรษฐี นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีรายได้สูง รวมถึงลูกค้าชาวจีนที่สนใจโครงการเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันการท่องเที่ยวในพัทยาเริ่มดึงกลุ่มครอบครัว กลุ่มไฮเอนด์เข้ามาทำให้ตลาดลักชัวรี่เติบโต ทั้งนี้เนื่องจากพัทยามีท่าเรือ โอเชียลมารีน่าที่จอดเรือยอร์ท ซึ่งหัวหิน ‘ไม่มี’ ดังนั้นกลุ่มเศรษฐี จึงเข้ามาพักผ่อนในพัทยาเพื่อล่องเรือยอร์ชตามเกาะต่างๆ

สะท้อนให้เห็นว่าการท่องเที่ยวพัทยากำลังทรานฟอร์มจากการท่องเที่ยวเชิง ปริมาณ(Quantity) ไปเป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ (Quality )มากขึ้น ยิ่งถ้ามีการพัฒนาการโครงการคุณภาพเข้ามาจะช่วยยกระดับพัทยาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพได้ไม่ยาก และต่อไปการเดินสะดวกสบายขึ้นจากโครงการพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า ทางมอเตอร์เวย์ รวมถึงบิ๊กโปรเจคของกลุ่มทีซีซี กรุ๊ป ลงทุนมิกซ์ยูส ในพัทยารวมทั้งกลุ่มซีพี ทำโครงการมิกซ์ยูสในพัทยาเช่นเดียวกัน ส่งผลให้อสังหาฯในพัทยาเปลี่ยนไป