สหรัฐดีเดย์ 1 พ.ย. แจกวัคซีนต้านโควิด-19

"โรเบิร์ต เรดฟิลด์" ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุในจดหมายฉบับลงวันที่ 27 ส.ค.ว่า “ซีดีซีขอความร่วมมืออย่างเร่งด่วนในการสมัครเพื่อการแจกจ่ายวัคซีนนี้”

และแมคเคสสัน คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลกลางในการจัดตั้งศูนย์กลางเพื่อแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เมื่อพร้อมใช้งาน

ซีดีซี ระบุว่า “หากมีความจำเป็น ก็ขอให้มีการพิจารณายกเว้นข้อกำหนดใดๆ ที่จะขัดขวางไม่ให้ศูนย์แจกจ่ายวัคซีนเหล่านี้ดำเนินงานได้อย่างเต็มที่ภายในวันที่ 1 พ.ย. 2563” ซึ่งเป็นเวลา 2 วันก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.

แต่อีกด้านหนึ่ง คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สหรัฐจะไม่เข้าร่วมในโครงการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ระดับโลกหรือโคแวกซ์ (COVID-19 Vaccines Global Access Facility – COVAX)ซึ่งเป็นโครงการที่ประเทศต่างๆ กว่า 170 ประเทศเข้าร่วมดำเนินการกับองค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) เพื่อทำการพัฒนา ผลิต และจัดหาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างเท่าเทียม

การที่สหรัฐตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่สหรัฐได้ประกาศถอนตัวออกจากดับบลิวเอชโอ เมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยปธน.ทรัมป์ระบุว่าดับบลิวเอชโอจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปครั้งใหญ่ และยังกล่าวหาว่าดับบลิวเอชโอได้รับอิทธิพลอย่างมากจากจีนด้วย

“สหรัฐจะยังคงเข้าร่วมกับประเทศพันธมิตรทั่วโลกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเอาชนะไวรัสตัวนี้ได้ แต่เราจะไม่ถูกจำกัดโดยองค์กรพหุภาคีที่ได้รับอิทธิพลจากดับบลิวเอชโอและจีน”

นายจัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวก่อนหน้านี้

ด้านนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันในสหรัฐกำลังอยู่ในระดับสูงจนยอมรับไม่ได้ โดยล่าสุด สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวนราว 40,000 รายในแต่ละวัน และจำเป็นต้องลดจำนวนดังกล่าวให้เหลือเพียง 10,000 ราย หรือน้อยกว่านั้น

นายแพทย์ฟอซียังเตือนด้วยว่า พฤติกรรมของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันแรงงานในสุดสัปดาห์นี้ จะเป็นปัจจัยกำหนดว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐในช่วงฤดูหนาวนี้จะมีความรุนแรงเพียงใด

“เรารู้จากประสบการณ์ขณะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติ หรือวันทหารผ่านศึก โดยประชาชนส่วนหนึ่งมีแนวโน้มที่จะขาดความระมัดระวังต่อมาตรการควบคุมความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ผมจึงขอวิงวอนให้ทุกคนตระหนักว่าเราจำเป็นต้องร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาดที่เรากำลังเผชิญอยู่”นายแพทย์ฟอซี กล่าว

ขณะที่สหรัฐ ประกาศให้ทุกรัฐแจกจ่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในวันที่ 1 พ.ย. อินโดนีเซียก็ประกาศว่าเตรียมเริ่มผลิตวัคซีนโควิด-19 ภายในกลางปีหน้า โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียประกาศว่า อินโดนีเซียวางแผนที่จะเริ่มการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงกลางปี 2564

ปธน.วิโดโด กล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร (2ก.ย.)ว่า บริษัทร่วมทุนภายในประเทศได้รับมอบหมายให้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเสร็จสิ้นไปประมาณ 30-40% แล้ว พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า การทดลองทางคลินิกสำหรับวัคซีนโควิด-19 จะสามารถเริ่มดำเนินได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นปี 2564 ก่อนที่การผลิตเพื่อการพาณิชย์จะเริ่มขึ้นในช่วงกลางปีหน้า โดยวัคซีนดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า “Merah Putih” ได้รับการพัฒนาโดยการร่วมลงทุนภายใต้กระทรวงการวิจัยและเทคโนโลยีของอินโดนีเซีย