โมเมนตัมยังบวก แต่ระวังความแข็งแกร่ง (Market breath) ของหุ้นสหรัฐฯ เริ่มชะลอ

โมเมนตัมยังบวก แต่ระวังความแข็งแกร่ง (Market breath) ของหุ้นสหรัฐฯ เริ่มชะลอ

หุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าต่อแต่ความแข็งแกร่งในการปรับขึ้นลดลง

S&P500 และ Nasdaq ยังคงทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ DJIA ปรับขึ้น 450 จุด เพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันเดียวนับจากก.ค.63 เป็นต้นมา โดยมีแรงซื้อเข้ามาทั้งกลุ่มปลอดภัยและเทคโนโลยี ทั้งนี้แม้โมเมนตัมของหุ้นสหรัฐฯยังเป็นบวก แต่เราแนะนำนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังต่อความผันผวนทีอาจจะตามมาหลังการปรับขึ้นของดัชนีเริ่มมาจากหุ้นที่กระจุกตัว โดยหากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของตลาด (Market breath) จากจำนวนหุ้นที่ซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ย 50 วัน ของ S&P500, Nasdaq และ DJIA อยู่ที่ 83%, 53% และ 80% และเริ่มมีจำนวนที่ลดลง แสดงถึงการขึ้นที่กระจุกตัวและภาวะกระทิงที่อาจทยอยอ่อนกำลังลง นอกจากนี้การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินสหรัฐฯ มีแนวโน้มทำให้ตลาดหุ้นเอเชียผันผวน หรือเคลื่อนไหวด้อยกว่า (Underperform) หุ้นสหรัฐฯ

ศบศ.เสนอนโยบายกระตุ้นท่องเที่ยว เศรษฐกิจและจ้างงาน วงเงินรวม 6.8 หมื่นล้านบาท ได้แก่ 1) กระตุ้นท่องเที่ยว การเพิ่มสิทธิประโยชน์ของเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกต้างรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักวันธรรมดาได้ 2 วันโดยไม่นับเป็นวันลา 2) กระตุ้นการใช้จ่าย โดยสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50% คนละ 3,000 บาท เพื่อใช้จ่าย 100-250 บาท/วัน จำนวน 15 ล้านคน 3) ส่งเสริมการจ้างงาน 260,000 ตำแหน่ง สำหรับผู้จบการศึกษา 2562-63 โดยสนับสนุนค่าจ้าง 50% ของเงินเดือน (9,400-15,000 บาท ขึ้นกับวุฒิการศึกษา) เป็นเวลา 12 เดือน // เรามองมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอาจส่งผลบวกทางจิตวิทยาต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและที่เกี่ยวกับการบริโภค ได้แก่ CPALL, ZEN, M เป็นต้น

หุ้นไทยอาจเคลื่อนไหวด้อยกว่าตลาดโลก นักลงทุนมีแนวโน้มเพิ่มความระวังต่อความผันผวนระยะสั้น แม้ปัจจัยเรื่องแนวโน้มผลประกอบการไม่ใช่ปัจจัยใหม่ แต่ในภาวะที่ปัจจัยภายนอกมีความไม่แน่นอนระยะสั้นที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะประเด็นการเมืองสหรัฐฯ หรือ No-deal Brexit ประกอบกับปัจจัยการใองภายใน ทำให้ประเมินตลาดอาจเพิ่มความระวังและมองการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคง หรือหุ้นในกลุ่มปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ทั้งนี้แม้ตลาดหุ้น เกิดใหม่และเอเซียสามารถปรับขึ้นได้ในช่วงที่ค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่า แต่เรามักพบว่าการปรับขึ้นในภาวะดังกล่าวมักเคลื่อนไหวด้อยกว่าหุ้นสหรัฐฯ

หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand อาทิ CRC 2) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, TASCO 3) หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย CPALL, ZEN, M

ภาพรวมกลยุทธ์ การลงทุนระยะกลางยังคงเป็นบวก แต่การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในจุดเสี่ยงปรับขึ้น // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPALL*, ADVANC*, CPNREIT*, ACE*

แนวรับ 1,306 จุด / แนวต้าน : 1,320-1,329 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำคาด ADP เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 428,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 1.17 ล้านตำแหน่ง แต่ได้ปรับเพิ่มตัวเลขเดือน ก.ค. ขึ้นสู่ระดับ 212,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ 167,000 ตำแหน่ง

ภาคเอกชนอสังหาเตรียมเข้าพบนายกฯ ชงปลดล๊อก LTV – สมาคมอสังหาเตรียมเข้าพบนายกฯ เพื่อเสนอแนะแนวทางการสนับสนุนธุรกิจอสังหาฯ โดยหนึ่งในประเด็นที่คาดว่าจะเสนอต่อรัฐบาลคือการปลดล๊อกมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV

น้ำมันดิบ – ปรับลดลง 2.5-3% หลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโกเริ่มฟื้นตัวจากเฮอริเคน

 

ประเด็นติดตาม: 3 ก.ย. – FED Beige Book / 4 ก.ย. – US Employment Report / 7 ก.ย. – ตัวเลขการค้าจีน / 8 ก.ย. – EU GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)