จับตาประชุมผู้ถือหุ้น‘วินด์’10ก.ย.

“ณพ ณรงค์เดช” ยันไม่กังวลประชุมผู้ถือหุ้น 10 ก.ย.นี้ เชื่อผู้ถือหุ้น เข้าใจมากขึ้น หลังรับฟังข้อเท็จจริงทั้งหมด -ความคืบหน้าดัน “วินด์ เอนเนอร์ยี่” ขายไอพีโอ ลั่น ไม่ว่าใครเข้ามา
บริหาร แต่จุดหมายเดียวกัน
นายณพ ณรงค์เดช ในฐานะผู้ถือหุ้น รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.ย. บริษัทจะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้น หลังจากที่กลุ่มผู้ถือหุ้นได้มีการรวบรวมเสียงเพื่อให้บริษัทจัดประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งทางทีมผู้บริหารก็จะมีการให้ข้อมูลของบริษัทแก่ผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีความเข้าใจมากขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นโยบายการจ่ายเงินปันผล รวมถึงความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับการจัดประชุมผู้ถือหุ้นขึ้นในวันที่ 10 ก.ย.นั้น ส่วนตัวไม่กังวล ไม่ว่าหลังจากการประชุมผู้ถือหุ้นจะออกจะเป็นอย่างไร หรือแม้แต่ตนเองอาจจะไม่ได้เป็นผู้บริหาร เพราะสุดท้ายไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารงาน ก็มีเป้าหมายเดียวกันที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากที่ผ่านมาโครงการของบริษัทได้จ่ายไฟเข้าระบบครบแล้วทั้ง 8 โครงการ กำลังการผลิตรวม 710 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ขอยืนยันว่าคดีความฟ้องร้องที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝั่งของครอบครัว และนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ นั้นไม่มีผลกระทบต่อการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะคดีฟ้องร้องที่เกิดขึ้นไม่ได้ฟ้องบริษัท แต่เป็นการฟ้องบุคคล ขณะที่ผลการดำเนินงานของ WEH ดีขึ้นต่อเนื่อง
“การประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 ก.ย. เราจะมีการทำความเข้าใจกับผู้ถือหุ้น เกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงความคืบหน้าในการขายไอพีโอ ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นในผู้ถือหุ้น ว่าหลังจากได้ฟังข้อมูลแล้วจะมีความเข้าใจมากขึ้นและผลงานที่บริษัทได้ทำมา จนผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย จนใกล้จะเขาไอพีโอแล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่กังวลไม่ว่าหลังจากประชุมผู้ถือหุ้นจะเป็นอย่างไร เพราะ สุดท้ายแล้วไม่ว่าใครเข้ามาบริหารงาน ก็มีเป้าหมายเดียวกันที่จะให้ WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จากที่ผู้ถือหุ้นทะเลาะกันนั้นส่งผลกระทบต่อการทำ IPO ได้ยากขึ้น”
นายณพ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวยืนยันว่าได้ชำระค่าหุ้นซื้อ บริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี่ คอร์ปอเรชั่น (REC) ซึ่งในช่วงที่ซื้อนั้น REC ถือหุ้น WEH 59 % ได้ชำระค่าหุ้นไปครบทั้งจำนวน 190 ล้านดอลลาร์ แล้ว แต่ที่นายนพพร มีการฟ้องตนเองนั้น คาดเป็นส่วนของโบนัสที่เกิดขึ้นหากโรงไฟฟ้าอีก 5 โครงการได้ COD ครบ หรือ WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่า 525 ล้านดอลลาร์
ในส่วนของโบนัสนั้น หลังจากที่ตนเข้าซื้อแล้ว พบว่า โครงการโรงไฟฟ้าอีก 5 โครงการนั้นมีปัญหาการก่อสร้างหลายอย่าง ไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้ตนเองต้องเข้ามาแก้ไข ปัญหาหลายอย่าง ซึ่งผิดจากคำพรรณนาที่นายนพพรให้ไว้ตอนที่เซ็นสัญญาซื้อขายหุ้น จึงถือว่านายนพพร ทำผิดเงื่อนไข ตนจึงไม่จ่ายในส่วนของโบนัสให้
ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างการยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการที่ประเทศสิงคโปร์ ที่จะไม่มีการจ่ายเงินโบนัสดังกล่าวให้นายนพพร ซึ่งศาลฯจะมีการนัดสืบพยานในเดือนธ.ค. 2563 นี้







