‘จีน’ ผงาดผู้นำวัคซีนโควิด สร้างความหวัง-เพิ่มกังวล

‘จีน’ ผงาดผู้นำวัคซีนโควิด สร้างความหวัง-เพิ่มกังวล

จีนผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำโลกด้านวัคซีนป้องกันโรค "โควิด-19" พัฒนาการนี้จะช่วยเสริมสร้างบทบาทจีนในฐานะมหาอำนาจ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องความปลอดภัย และโอกาสที่ปักกิ่งจะใช้สถานะของตนในข้อพิพาทดินแดน

จีนมีวัคซีนทดลอง 9 ตัวอยู่ในขั้นทดลองทางคลินิก ในจำนวนนี้ 9 ตัวอยู่ในเฟส 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการพัฒนาวัคซีน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนอนุมัติ ความสำเร็จนี้เป็นผลจากการวิจัยด้านโรคติดเชื้อที่รัฐบาลสนับสนุนมานานหลายปี

สัปดาห์ก่อน แคนชิโนไบโอโลจิกส์อิงค์ บริษัทยาจีนประกาศว่าจะทดลองวัคซีนโควิดระยะที่ 3 กับอาสาสมัคร 5,000คน ในซาอุดีอาระเบีย

ในบรรดาวัคซีนใหม่ที่กำลังทดลองทางคลิกนิกทั่วโลก 29 ชนิด เป็นของจีน 9 ชนิด มากกว่าประเทศอื่นใดในโลก ในจำนวนนี้ 7 ชนิดทดลองในเฟส 3 เป็นของจีน 5 ชนิด คาดว่าวัคซีนจีนจะใช้งานได้จริงเร็วสุดภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า

การพัฒนาวัคซีนที่มีความคืบหน้าเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างบริษัทยากับสถาบันวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากจีน

แคนชิโน สตาร์ทอัพที่เจ้าของเป็นเอกชน แต่กำลังได้รับสนับสนุนและดำเนินการวิจัยร่วมกับกองทัพจีน ส่วนผู้ผลิตยารายอื่นอย่าง ชิโนฟาร์ม ที่กำลังทดลองทางคลินิกในระยะสุดท้ายเป็นของรัฐบาลจีน ขณะที่ ซิโนวัค ไบโอเทค เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างมหาวิทยาลัยปักกิ่งและบริษัทในฮ่องกง  

159802753611

ทุกบริษัทถูกมองว่าใกล้ชิดกับรัฐบาลกลาง โดยมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นผู้นำยุทธศาสตร์วัคซีนของประเทศ 

ในสมุดปกขาวว่าด้วยมาตรการจัดการกับโควิด-19 ประจำเดือนมิ.ย. กระทรวงวิทยาศาสตร์เน้นย้ำว่าการพัฒนาวัคซีนจะดำเนินไปพร้อมๆกัน โดยใช้แนวทางที่แตกต่างใน 5 วิธี

สื่อจีนรายงานว่า แคนชิโน และซิโนวัคกำลังเตรียมการเพื่อผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ปีละ 100 - 200 ล้านโดส โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน

จุดแข็งของจีน คือ วัคซีนชนิดเชื้อตาย (ininactivated vaccines) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้อนุภาคไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรียสำหรับเพาะเชื้อเพื่อให้อ่อนกำลังลง ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ ซึ่งวัคซีนของจีนที่กำลังทดลองในระยะที่3 จำนวน 3 ชนิดเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย และวัคซีนเชื้อตาย 5 ชนิดทั่วโลกที่เป็นของจีน 4 ชนิด   

วัคซีนชนิดเชื้อตายถูกนำมาใช้มานานแล้ว และได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย เนื่องจากไวรัสถูกสร้างขึ้นจากเซลล์สัตว์และไข่ไก่ ซึ่งต้องใช้แรงงานเข้มข้นและการผลิตไม่มีประสิทธิภาพ บริษัทยายุโรปและสหรัฐจึงเลิกใช้แนวทางนี้ แต่บริษัทจีนยิ่งใช้แนวทางที่ต้องเน้นคนจำนวนมากในการพัฒนาวัคซีน

จีนกล้าที่จะทดลองฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายเพราะเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคติดเชื้อครั้งใหญ่ในอดีต เช่น โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง(ซาร์ส) และไข้หวัดนก

159802755574

อัสตามูเซ บริษัทวิจัยในโตเกียว ตรวจสอบสิทธิบัตรการป้องกันอาร์เอ็นเอไวรัส เช่น ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่และไข้หวัดใหญ่ พบว่า ปี 2562 จีนขอจดสิทธิบัตร 106 รายการ เทียบกับสหรัฐขอจด 61 รายการ

 นับตั้งแต่ปี 2551จีนเป็นผู้นำโลกมาอย่างต่อเนื่องในด้าน "เทคโนโลยีเชื้อตาย" ถือเป็นหัวใจหลักของความพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของจีน

อย่างไรก็ตามวัคซีนของจีนไม่ค่อยวางจำหน่ายในต่างประเทศ และไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วมีประสิทธิภาพเพียงใด การทดลองทางคลินิกมุ่งเน้นในเรื่องความเร็ว แต่ข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพและผลข้างเคียงมีเพียงเล็กน้อย แม้วัคซีนผ่านการทดลองทางคลินิกแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้นักวิจัยชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งมองว่า ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนจีนจึงยังคงอยู่

อีกทั้งการทูตวัคซีน  ที่จีนใช้วัคซีนเพื่อการแพร่ขยายอำนาจ ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน

159802757597

“เมื่อวัคซีนโควิด-19 ที่จีนพัฒนาใช้การได้ จะกลายเป็นสินค้าสาธารณะของโลก นี่คือสิ่งที่จีนสนับสนุน เพื่อสร้างหลักประกันว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะเข้าถึงและซื้อหาวัคซีนมาใช้ได้” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลกในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะแบ่งปันวัคซีนต้านโควิดกับประเทศต่างๆ

ขณะที่ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้จีนจัดหาวัคซีนให้ประเทศตนเป็นอันดับต้นๆ แม้จะมีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้กับปักกิ่ง จึงเป็นไปได้ว่าจีนจะใช้วัคซีนเป็นเครื่องมือเพิ่มอิทธิพล

ในเวลาเดียวกันรัสเซียเริ่มผลิตวัคซีนที่อวดว่า เป็นประเทศแรกของโลกสหรัฐลงทุนกว่า10,000ล้านดอลลาร์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีปริมาณวัคซีนหลายร้อยล้านโดสอย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการใช้วัคซีนจริงกำลังงวดเข้ามาและแย่งกันซื้อวัคซีนกำลังเป็นกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก