โลกหลังโควิดไม่เหมือนเดิม 'สิงคโปร์' เลือกเดินทางใหม่ 

โลกหลังโควิดไม่เหมือนเดิม 'สิงคโปร์' เลือกเดินทางใหม่ 

สิงคโปร์รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมเรียกว่าเป็นผลงานรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุด พร้อมประกาศสิงคโปร์จะไม่เดินกลับไปสู่โลกก่อนโควิด-19 แต่ต้องเขียนทิศทางใหม่เสียแต่บัดนี้ 

เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานเมื่อวันอังคาร (11 ส.ค.) สิงคโปร์รายงานเศรษฐกิจไตรมาส 2 หดตัวลง 13.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แย่ยิ่งกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ล่วงหน้าที่ -12.6% 

หากเทียบกับไตรมาส 1 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ร่วงลง 42.9% มากยิ่งกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ว่าจะหดตัว 41.2% ถือเป็นการหดตัวสองไตรมาสติดต่อกัน เท่ากับว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552 ที่ตอนนั้นเจอผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก

ทั้งนี้ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมได้ปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับทั้งปีนี้ โดยจะติดลบระหว่าง 5-7% ในปี 2563

อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในเศรษฐกิจสิงคโปร์ต้องปิดตัวลงในช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ประเทศเข้าสู่การล็อกดาวน์บางส่วน ซึ่งรัฐบาลเรียกว่ามาตรการ “เซอร์กิตเบรกเกอร์” เพื่อชะลอการระบาดของโควิด-19 จากนั้นทางการได้ผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเป็นบางส่วนตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ทำให้เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศกลับมาเปิดอีกครั้ง

159725221527

ชาน ชุนซิง รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่า หากพิจารณาตามบริบท นี่คือผลประกอบการรายไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ การคาดการณ์เศรษฐกิจประจำปี 2563 หมายความว่าการเติบโตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถูกหักลบไปหมด 

“ตัวเลขสะท้อนถึงผลกระทบของโควิด-19 ตลอดจนพลังอันล้ำลึกในการเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจโลก และสถานะของเราในห่วงโซ่อุปทานโลก” รัฐมนตรีกล่าวและว่า เขารู้ว่าบางคนยังคงหวังให้เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเร็วและกลับไปสู่ “โลกเก่าที่คุ้นเคย” แต่เป็น “ความจริงอันเจ็บปวด” ที่ว่า “เราจะไม่กลับสู่โลกก่อนโควิด-19 อีกแล้ว” การฟื้นตัวต้องใช้เวลาอีกสักระยะและอาจไม่ราบรื่น คลื่นการติดเชื้อระลอกใหม่และความปั่นป่วนจะกลับมาอีก

ชานยังตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงระดับโลกครั้งใหญ่หลังการระบาด สภาพแวดล้อมด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เอื้อให้สิงคโปร์เติบโตได้ดีในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจหลักเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ เขาได้แต่หวังว่าประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์จะไม่บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งอย่างเปิดเผย จนบั่นทอนเสถียรภาพส่วนอื่นๆ ของโลก

159725229411

ในโอกาสนี้ ชานร่างหลัก 3 ประการที่สิงคโปร์ต้องยึดถือเพื่อก้าวสู่เส้นทางใหม่ที่รออยูข้างหน้า ได้แก่ การเปิดกว้างธุรกิจอยู่อย่างปลอดภัยและยั่งยืน รัฐบาลช่วยเหลือธุรกิจและคนงานปรับตัวเข้าสู่โลกใหม่ได้อย่างสมเหตุสมผล และข้อสุดท้ายรัฐบาลจะช่วยเหลือบริษัทที่ธุรกิจของตนต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ให้ได้สร้างสรรค์ตนเองในแบบใหม่ๆ และก้าวสู่ตลาดใหม่

รัฐมนตรีทิ้งท้ายว่าแม้อนาคตจะไม่แน่นอนและสภาพการณ์ต่างๆ กำลังท้าทาย แต่ความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อประชาชนสิงคโปร์ทุกคนยังไม่เปลี่ยนแปลง

“เราจะทำอย่างสุดความสามารถเตรียมตัวประชาชนของเรา ไม่รอจนกว่าโควิด-19 หายไป แต่เราจะเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้” ชานให้คำมั่น

สิงคโปร์ที่พึ่งพาการค้าเป็นหลัก ที่เป็นประเทศแรกๆ ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำไตรมาส 2 ของปี ที่หลายชาติต้องเข้าสู่การล็อกดาวน์ ถือเป็นลางร้ายต่อเศรษฐกิจโลกตัวเลขที่แย่กว่าคาด ยังเป็นสัญญาณเตือนต่อเขตเศรษฐกิจเอเชียอื่นๆ ที่พึ่งพาการค้าเป็นสำคัญ ที่โดยปกติสิงคโปร์จะเสียหายก่อน

เมื่อวันอาทิตย์ (9 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุง กล่าวสุนทรพจน์วันชาติ เตือนว่า “วิกฤติยังไม่จบง่ายๆ” โควิด-19 กลับมาอีกในหลายๆ ประเทศที่เคยควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว

ตอนแรกสิงคโปร์ใช้มาตรการตรวจหาเชื้อและตามรอยโรคอย่างเข้มงวด จึงควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ตอนหลังพบการระบาดในคลัสเตอร์ที่พักแรงงานต่างด้าวหลายแห่ง กลายเป็นการระบาดในวงกว้าง ถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกว่า 5.5 หมื่นคน เสียชีวิต 27 คน