'ดาวโจนส์' ปิดบวก 185 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

'ดาวโจนส์' ปิดบวก 185 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.) ขานรับปัจจัยบวกด้านเศรษฐกิจ รวมถึงตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว และ "โดนัลด์ ทรัมป์" เตรียมใช้คำสั่งฝ่ายบริหารออกมาตรการเยียวยาโควิดเพิ่มเติม

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 27,386.98 จุด เพิ่มขึ้น 185.46 จุด (0.7%) ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,349.16 จุด เพิ่มขึ้น 21.39 จุด (0.6%) ส่วนดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 11,108.07 จุด เพิ่มขึ้น 109.67 จุด (1%) ปิดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 32 ในปีนี้

ขณะนี้ วอลล์สตรีทกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ส่วนแนสแด็กทะยานปิดทะลุ 11,000 จุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และปิดบวกวันที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่เอสแอนด์พีปิดบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน

เมื่อวันพฤหัสบดี (6 ส.ค.) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.186 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ล้านราย และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวานนี้มีจำนวนลดลง 249,000 รายเมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค.

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 20 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่

ขณะเดียวกัน จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลงสู่ระดับ 16.1 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค. หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 24.912 ล้านรายในช่วงต้นเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสกับทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

นายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาคาดหวังว่าสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไม่ช้า

ถึงแม้นายแมคคอนเนลไม่ได้ระบุว่าเขาคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงในวันนี้ แต่เขาก็กล่าวว่า ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมีความต้องการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

"ผมไม่อาจบอกได้ว่าข้อตกลงจะมาเมื่อไหร่ แต่ผมคิดว่ามันจะมาถึงในอนาคตอันใกล้"

ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายมาร์ก มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว จะประชุมร่วมกันในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

"หากคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะดำเนินการเอง" นายมีโดว์สเผยกับซีเอ็นเอ็น ส่งสัญญาณว่าผู้นำสหรัฐจะใช้คำสั่งฝ่ายบริหารในการออกมาตรการกระตุ้นแทน

ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาการเจรจาระหว่างนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กับ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อประเมินความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งรวมถึงการที่จีนสัญญาที่จะนำเข้าสินค้าสหรัฐมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 2 ปี