มีโอกาสขึ้นต่อ

มีโอกาสขึ้นต่อ

ดัชนีวานนี้ปิดบวก 9.58 จุด คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ ขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง

ประกอบกับความหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,330.81 จุด (+9.58 จุด) Volume 5.5 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,823.50 ลบ. TFEX Net +3,839 สัญญา ตราสารหนี้ -684 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 164.07 จุด +0.62% จากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และมีความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นศก.รอบใหม่ของสหรัฐ

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 69 เซนต์ +1.7% ปิดที่ 41.70 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นศก.รอบใหม่ของสหรัฐ ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบที่จะรายงานคืนนี้จะลดลงมากกว่า 4 ล้านบาร์เรล

+สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมิ.ย.

+ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ +4.9%yoy +1%mom ในเดือนมิ.ย.ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและอัตราดบ.จำนองที่ต่ำ

+วานนี้ครม.อนุมัติโครงการฟื้นฟูศก.เพิ่มเติมอีก 157 โครงการ มูลค่ากว่า 800 ลบ. และอนุมัติกู้เงิน ADB 4.8 หมื่นลบ.เพิ่มสภาพคล่องรองรับผลกระทบโควิด-19

-ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 จ่อแตะ 18.5 ล้านราย ตายเกือบ 7 แสนราย เพื่อนบ้านน่าเป็นห่วง ผู้ติดเชื้อสะสมในฟิลิปปินส์ 1.12 แสนราย ใกล้แซงอินโดนีเซีย 1.15 แสนราย เวียดนามตายเพิ่ม

-ที่ปรึกษารัฐบาลเตือนฝรั่งเศสเผชิญโควิดระบาดระลอกสอง

-สศก.เผย GDP เกษตรครึ่งปีแรกหดตัว -5.1% คาดทั้งปี 63 หดตัว -2.3 ถึง -1.3%

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 3.72 จุด +0.11%

+ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเพิ่มขึ้น 378.28 จุด +1.70% เปิด -93.94 จุด

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.30 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.04 บาท/US

*จับตาการประชุม กกร. และการประชุมกนง. ส่วนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค. ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย. PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมัน

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากข่าวความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ประกอบกับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ใพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320-1,340 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

SMT – Analyst Meeting “ มุมมองบวก

Key Update (4/8/63):

  • 3-4 เดือนที่ผ่านมาบริษัททำการ Reallocation: production และ layout ทำให้มีประสิทธิภาพและพื้นที่ในการผลิตมากขึ้น (สามารถผลิตสินค้าได้เพิ่มอีกราว 2 เท่าจากยอดขายเดิม โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม)
  • เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มงาน Medical
  • ขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอื่นมากขึ้น อาทิ ยุโรป และ จีน (เดิมสัดส่วนหลักมาจากสหรัฐ)
  • เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในงวด 2H63 และปี 2564 โดย ผบห.ตั้งเป้ายอดขายปี 63 ราว 2 พันลบ. +13%YoY ขณะที่ %GPM จะปรับดีขึ้นจากปีก่อน จากการทำ Cost efficiency ประกอบกับ Value-added products โดย 2H63 ผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นตามกลุ่มงาน Optics และ IC Packaging ขณะที่ปี 64 คาดรายได้โตราว 30%YoY จากงาน Optics ในกลุ่ม automotive และ high-speed cable
  • ระมัดระวังความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาราว 100% จากเดือนที่ผ่านมา

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
  • หุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q20 ดี (WICE TASCO CPF PTT TOP SPRC PTTGC XO)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (KCE SVI HANA DELTA TU TFG)

หุ้นมีข่าว

 BBL Analyst Meeting (Bloomberg Consensus 128.18) ผู้บริหารเปิดเผยว่าเริ่มต้นควบรวมกิจการกับธนาคารเพอร์มาตา เริ่มต้น 21 พ.ค.  63 และปลายมิ.ย. 63 มี %NPL ปรับเพิ่มเป็น 4.1% จาก 3.5% ณ ปลายมี.ค. 63 โดย NPL ของธนาคารเพอร์มาตาอยู่ในระดับที่ระดับที่รับได้และคาดว่าปลายปีจะยังอยู่ในกรอบเป้า 4 – 4.5% ขณะที่คาด Credit Cost ปี 63 ประมาณ 28,000 ล้านบาท 1H 63 18,325 ล้านบาท ผู้บริหารมีมุมมองบวกที่เป็น synergy จากการควบรวมกิจการในการขยายธุรกิจต่างประเทศและทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้

ความเห็น ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาว และศักยภาพในการเติบโตจากการเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลให้ NPLเพิ่มขึ้นผนวกกับสถานการณ์ระบาดหนักของโควิด-19 ในประเทศอินโดนีเซียเป็นปัจจัยลบเชิงจิตวิทยาที่กดดันราคาหุ้นในระยะสั้น  ราคาปิดล่าสุดซื้อขายที่ PBV 0.45 เท่าต่ำกว่า PBV กลุ่มที่ระดับ 0.52 เท่า แนะนำถือ

(+) AOT (Bloomberg Consensus 57.30 บาท)  ส่อแท้ง! แผนให้ AOT เข้าบริหารสนามบิน 4 แห่งของทย. ถาวรเผยยังไม่เห็นความชัดเจนใน 2 ปีนี้แน่นอน เหตุต้องใช้เวลาศึกษานาน สอบถามความเห็นหลายองค์กร แถมเจอสถานการณ์โควิด-19 หาก AOT เข้ามาช่วงนี้อาจต้องประสบภาวะขาดทุน 3-5 ปี% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IVL (Bloomberg Consensus 32.58 บาท)   เดินหน้าขยายธุรกิจรีไซเคิล PET เข้าซื้อกิจการใหม่ IMP Polowat ในโปแลนด์ ขนาดกำลังการผลิตรวม 27,000 ตัน/ปี พร้อมปรับขนาดของกำลังการผลิตในผลิตภัณฑ์รีไซเคิลให้เพิ่มสูงถึง 750,000 ตันภายในปี 68 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PTL (Bloomberg Consensus - บาท)   ส่งซิกผลงานงวดไตรมาสแรกโต ลั่นยอดขายเด้งรับดีมานด์ใช้ผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางในอุตสาหกรรมอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น พร้อมทุ่มงบลงทุนราว 3,000 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตสินค้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SPCG (Bloomberg Consensus 27.50 บาท) SCGP โชว์ผลงานครึ่งปีแรกรายได้รวม 45,903 ล้านบาท โต 11% และมีกำไรสุทธิ 3,636 ล้านบาท โต 40% รับยอดขายบรรจุภัณฑ์กลุ่มอีคอมเมิร์ซ-ฟู้ดเดลิเวอรี่-ผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก-สินค้าอุปโภคบริโภค-สินค้าเพื่อสุขภาพพุ่งแรง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) ALT (Bloomberg Consensus - บาท)   ผนึกกำลัง RATCH ตั้งบริษัทย่อย SIC ลุยธุรกิจโครงข่ายสายใยแก้วนำแสง พร้อมรับรู้กำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ให้ SIC จำนวน 269 ล้านบาท เป็นทุนหมุนเวียน ส่วนธุรกิจหลักยังเดินหน้าตามแผน มีลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนแผนโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพัทยาคืบหน้ากว่า 50% มั่นใจผลงานมีประสิทธิภาพ หนุนโอกาสรับงาน PEA ต่อ  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg Consensus 19.95 บาท) ครึ่งปีหลัง ส่งสัญญาณฟื้นตัวแรงจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ พร้อมเดินหน้าบริหารสต๊อก มองค่าการตลาดเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตร แย้ม Q3/2563 ปริมาณขายมีแนวโน้มพลิกบวก ฟากโบรกประเมินกำไรไตรมาสที่ 2 440 ล้านบาท โต 43% จากไตรมาสก่อน ค่าการตลาดหนุน, มอง Growth Company ในระยะยาว เชียร์ซื้ออนาคต 22 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

 

(-) KTC AEONTS - แบงก์ชาติสั่งลดเพดานดอกเบี้ย บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคลเป็นการถาวร (ที่มาประชาชาติธุรกิจ)

(+) SUSCO (Bloomberg Consensus 3.65 บาท) เชื่อทิศทางครึ่งปีหลัง 2563 ปริมาณการขายน้ำมันทยอยฟื้น แม้ยังไม่สามารถขายน้ำมันเครื่องบินได้เต็มที่ ด้านราคาน้ำมันโลกปรับตัวลดลง ช่วยหนุนการใช้เงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจลดลง ดันมาร์จิ้นดีขึ้น เดินหน้าเปิดสถานีบริการครบ 250 แห่งทั่วประเทศตามเป้า(ที่มา ทันหุ้น)

(+) BJCHI (Bloomberg Consensus - บาท)เ ผยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ชุดสุดท้ายของโครงการ LINDE ให้กับลูกค้าได้ตรงตามกำหนด พร้อมเดินหน้าประมูลโครงการใหม่มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท มั่นใจหนุนผลงานปี 2563 โตก้าวกระโดดจากแบ็กล็อกในมือ 4.2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)