แบงก์ชี้สินเชื่ออสังหาฯ‘ฟื้น’ ผู้ประกอบการหันพึ่งเงินกู้

แบงก์ชี้สินเชื่ออสังหาฯ‘ฟื้น’ ผู้ประกอบการหันพึ่งเงินกู้

“แบงก์พาณิชย์” เผยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้น “เกียรตินาคิน” ชี้ยอดปล่อยกู้ไตรมาส 2 กลับมาขยายตัว 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คาดทั้งปีโต 7% สูงกว่าเป้าอื้อ ขณะ ผู้ประกอบการอสังหาฯ หันพึ่งเงินกู้แบงก์ หลังต้นทุนออกหุ้นกู้พุ่ง

 ชี้ส่วนใหญ่กู้ทำโครงการแนวราบ ด้าน “กสิกร” เผยยอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพิ่ม หลังแบงก์ทำแคมเปญร่วมกับโครงการ ออกมาตรการผ่อนฟรี ดอกเบี้ยต่ำ กระตุ้นคนซื้อบ้านเพิ่ม ขณะที่กรุงศรี ชี้สินเชื่อไตรมาส 2 โตแกร่งสะท้อน การรักษาฐานลูกค้าเก่าได้ แม้มีวิกฤติ 

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทบต่อผู้ประกอบการในทุกกลุ่ม ซึ่งรวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย เนื่องจากคนส่วนใหญ่ชะลอการใช้สอยออกไปเพื่อรอประเมินสถานการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากการแพร่ระบาดเริ่มควบคุมได้จนไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ และรัฐบาลทยอยปลดล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น คนที่พอมีกำลังซื้อเริ่มกลับมาใช้สอยส่งผลให้ยอดขอสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมา 

นายสำมิตร สกุลวิระ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ประธานสายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน(KKP) กล่าวว่า สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาขยายตัวตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการขยายตัวทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อใหม่เพื่อเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติม 

สำหรับผู้ประกอบการที่ขอสินเชื่อใหม่ เกือบ 80% ขอสินเชื่อเพื่อเปิดโครงการแนวราบที่ยังมีความต้องการสูง ประกอบกับช่วงที่ตลาดหุ้นกู้ยังไม่ปกติทำให้ต้นทุนการระดมทุนสูง ผู้ประกอบการเหล่านี้จึงหันมาขอสินเชื่อหรือเบิกเงินหมุนเวียนจากธนาคารพาณิชย์ทำให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์กลับมาเติบโตเกือบ 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนสินเชื่อใหม่สำหรับก่อสร้างคอนโดแนวสูง ยังมีทิศทางชะลอตัว เนื่องจากยังมีคอนโดที่สร้างเสร็จ และรอขายอยู่จำนวนมาก ดังนั้น จะเห็นได้ว่าระยะนี้เป็นช่วงระบายสต็อก และเห็นการทำแคมเปญส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง

ส่วนภาพรวมการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ คาดว่ามีโอกาสเกินเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ โดยคาดจะเติบโตราว 7% จากเดิมตั้งเป้าสินเชื่อใหม่ขยายตัวเพียง 3% เท่านั้น จากสินเชื่อคงค้างของภาคธุรกิจที่มีกว่า 6 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ซึ่งพอร์ตส่วนใหญ่มาจากภาคอสังหาราว 75-80%

“ปีนี้มีปัจจัยบวกหลายเรื่อง แม้จะมีโควิด โดยเฉพาะผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่หันมาขอสินเชื่อจากแบงก์มากขึ้น จากเดิมที่เน้นออกหุ้นกู้ ที่เห็นกลุ่มนี้หันมาเบิกเงินหมุนเวียน เบิกวงเงินเพื่อเตรียมสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายในระยะข้างหน้าเพิ่มขึ้น หรือบางส่วนก็มีการกู้เงินเพื่อนำไปทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนด"

สำหรับสินเชื่อธุรกิจอสังหาฯของธนาคารไตรมาส2 มียอดคงค้างอยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท โดยขยายตัว 8.3% หากเทียบกับช่วงสิ้นปีก่อน ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัย อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 6.0% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ด้านนายพจนารถ แสงพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กสิกรไทย กล่าวว่า ดีมานด์ความต้องการสินเชื่อสำหรับรายย่อย ถือว่าเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ราคาคอนโด บ้าน ถูกปรับลดลง ดังนั้นก็เป็นโอกาสดีสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลัง ในการเข้ามาซื้อสินทรัพย์ที่ดีราคาถูก

ขณะเดียวกันจากการทำแคมเปญของผู้ประกอบการอสังหาฯต่างๆ ทั้งปรับยอดผ่อนลดลง การผ่อนให้ฟรี 1-2ปี สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยระยะนี้ ถือว่าจูงใจ และกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้รวดเร็วขึ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีลูกค้าทุกกลุ่ม ที่เข้ามาขอสินเชื่อจากแบงก์ ไม่เฉพาะลูกค้าที่มีรายได้สูงเท่านั้น อีกทั้งการจับมือของธนาคาร ร่วมกับภาคธุรกิจอสังหาฯรายใหญ่ๆในตลาด โดยการให้ดอกเบี้ยพิเศษ ก็เป็นปัจจัยหนุนให้ผู้ซื้อกล้าตัดสินใจซื้อมากขึ้น

ดังนั้นคาดว่า การเติบโตสินเชื่อปล่อยใหม่ สำหรับที่อยู่อาศัยน่าจะบวกได้ หากเทียบกับยอดคงค้าง ณ สิ้นไตรมาสแรก ที่อยู่ราว 3.3 แสนล้านบาท

“การปล่อยสินเชื่อใหม่ตอนนี้ยังดี แม้จะมีผลกระทบจากโควิด แต่ดีมานด์เข้ามาต่อเนื่อง ด้วยราคาที่ลดลง มีมาตรการจูงใจ แคมเปญๆใหม่ที่เห็นมากขึ้น จึงเชื่อว่าจะหนุนสินเชื่อปล่อยใหม่เป็นบวกได้ในปีนี้" และหากดูดอกเบี้ยวันนี้ก็ไม่ได้สูง โดยเฉพาะ MRR ของแบงก์ที่อยู่ระดับต่ำเฉลี่ย 3ปี อยู่ที่ราว 3.3-3.6% หรือมีต่ำกว่า สำหรับแคมเปญพิเศษที่ทำกับบางโครงการ ดังนั้นแนวโน้มตอนนี้ตลาดกลับมาเริ่มแข่งขันคึกคัก แบงก์ใหญ่ๆกลับมาแข่ง เพราะทิศทางฟื้นชัดเจน ขณะที่การปล่อยกู้ของแบงก์ ก็ไม่ได้ผ่อนเกณฑ์ หรือเพิ่มเกณฑ์ปล่อยกู้ มาตรฐานการปล่อยกู้เรายังเหมือนเดิม ที่ดูศักยภาพลูกหนี้เป็นหลัก”

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร ในไตรมาส 2 ยังเห็นการเติบโต โดยสินเชื่อยังขยายตัว 0.9% หรือ 2,407 ล้านบาท จากไตรมาส 1ปี 2563 และเพิ่มขึ้น 1.4% หรือ 3,764 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในช่วงครึ่งปีแรก สะท้อน ความสามารถของกรุงศรีฯ ในการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อภาคอสังหาริมทรัพย์

ส่วนการเติบโตในครึ่งปีหลัง แม้สถานการณ์ข้างหน้ามองทิศทางยาก เพราะการคลายล็อกดาวน์ โควิด-19 ทำให้ผผู้ประกอบการอาจมีการลดโปรโมชั่นลง ลดการหั่นราคาลงเหมือนครึ่งปีแรก ทำให้เชื่อว่าบรรยากาศอสังฯในครึ่งหลังน่าจะไม่ได้คึกคักมากนัก ทั้งนี้ เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเก่าก็น่าจะทำให้พอร์ตสินเชื่อบ้านโดยรวมยังเติบโตได้ในครึ่งปีหลังนี้