'ส.ส.ก้าวไกล' ยืนยันหลักฐานคดี 'บอส อยู่วิทยา' กระทำผิดจริง

'ส.ส.ก้าวไกล' ยืนยันหลักฐานคดี 'บอส อยู่วิทยา' กระทำผิดจริง

"ส.ส.ก้าวไกล" อดีตตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันหลักฐานคดี "บอส อยู่วิทยา" กระทำผิดจริง ชี้ กระบวนการยุติธรรมมีปัญหา ต้องปฏิรูป พร้อมตั้งคำถามคุกมีไว้ขังคนจน?

หลังอัยการไม่สั่งฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ทุกข้อกล่าวหาในคดีขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555

พันตำรวจตรีชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  ในฐานะอดีตนักวิทยาศาสตร์ (สบ.1) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นผู้พิสูจน์หลักคดีนี้ด้วยตัวเอง ทั้งจดบันทึก ถ่ายรูป เก็บร่อยรอยหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับคดีนี้ ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาขับรถชนท้ายจริง แต่นายวรยุทธ กลับส่งคนรับใช้มามอบตัวแทน จนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นต้องนำกำลังไปล้อมบ้าน 200 นาย จนนายวรยุทธ มอบตัว พร้อมย้ำถึงหลักฐานที่ยืนยันได้คือรอยช้ำตามแนวคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งตนเองเป็นผู้ดูกล้องวงจรปิดและคำนวณความเร็วด้วยตัวเองและพบว่าเกินกว่ากฎหมายกำหนด มั่นใจว่าหลักฐานในขณะนั้นสามารถเอาผิดได้แน่นอน โดยกองพิสูจน์หลักฐานขณะนั้นออกรายงานได้ภายใน 1 เดือน แต่พอเข้าสู่ชั้นพนักงานสอบสวนกลับใช้เวลาหลายปี จึงรู้สึกไม่พอใจมากเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ และควรปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อขจัดปัญหาให้หมดไป

ด้าน ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ กล่าวว่า ตำรวจและอัยการต้องแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเหตุผลที่ไม่สั่งฟ้องคดี ซึ่งตำรวจที่เกี่ยวข้องถูกสอบแต่ก็ไม่ได้ผิดวินัยร้ายแรง ทั้งที่ไม่ได้นำรายงานเรื่องความเร็วจากกองพิสูจน์หลักฐานมาพิจารณา , ละเว้นไม่ออกหมายจับ , และไม่ติดตามดูแลการสอบสวน จนทำให้กระบวนการหยุดอยู่ที่อัยการ ยังไม่เข้าสู่กระบวนการศาลเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอัยการเองก็ปล่อยให้มีการเลื่อนนัดพบอัยการถึง 7 ครั้ง ต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งในฐานะ ส.ส.ตั้งคำถามว่า คุกมีไว้แค่ขังคนจนหรือไม่ เหมือนกรณีนักมวยติดคุกฟรีเพราะความผิดพลาดของพนักงานสอบสวน และสุดท้ายฝากไปถึงผู้ต้องหา รวยแล้วต้องมีความละอายใจต่อสังคมบ้าง และย้ำว่าเรื่องนี้ต้องติดตาม ปล่อยไว้ไม่ได้



ขณะที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พันตำรวจตรี สุพิศาล ภักดีนฤนาถ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต้องมีการปฏิรูปตำรวจทั้งกระบวนการสอบสวนคดีและการทำงานของตำรวจ ซึ่งต้องอยู่ภายใต้อำนาจของผู้มีคุณทรัพย์สูง ผู้ก่อเหตุมีฐานะไม่ธรรมดา ขณะที่กระบวนการก็มีการทอดเวลาให้นานออกไป ดังนั้นการปฏิรูปตำรวจต้องให้ความรู้พนักงานสอบสวน มีเครื่องมือเก็บพยานหลักฐาน พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า 2 ปีที่ผ่านมาทำอะไร ถึงปล่อยให้การปฏิรูปตำรวจคาราคาซัง