STGT - ถือ

เราประมาณกำไรสุทธิ 2Q20F ที่ราว 881 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% qoq โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาขายเฉลี่ยในไตรมาสที่เพิ่มขึ้นราว 15%qoq ทั้งนี้บริษัทได้วางแผนที่จะปรับเพิ่มราคาขายอย่างมากตั้งแต่กันยายนปีนี้ แต่ความต้องการสำหรับถุงมือยางอาจจะอ่อนแอลงในช่วง 2H21 เนื่องจาก (1) ความต้องการอาจจะลดลงหากมีวัคซีน Covid-19 ที่มีประสิทธิภาพ, และ (2) อุปทานใหม่จากจีน แม้จะมีโอกาสในการปรับประการกำไรเพิ่ม แต่ยังมีความไม่แน่นอนในการทำสัญญาซื้อขายใหม่ เราจึงคงคำแนะนำ ถือ กำหนดราคาเป้าหมายที่ 73.50 บาทต่อหุ้น

 

คาดว่ากำไรจะเติบโต 109% qoq ใน 2Q20F

เราประมาณกำไรสุทธิ 2Q20F ที่ราว 881 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% qoq โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาขายเฉลี่ยใน (ASP) 2Q20 ที่เพิ่มขึ้นราว 15% qoq สู่ระดับ 22.50 ดอลลาร์สหรัฐ / ลัง (700 บาท/1,000 พันชิ้น) ซึ่งช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นสู่ระดับ 24% จาก 18% ใน 1Q20 โดยผลประกอบการใน 2H20 นั้นมีโอกาสที่จะเติบโตได้ดีตามราคาขายเฉลี่ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

 

แผนที่จะตั้งราคาขายใหม่นับตั้งแต่กันยายน

เดิม STGT วางแผนปรับเพิ่มราคาขาย 5%mom นับตั้งแต่เมษายนจนถึงธันวาคม อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมที่จะเจรจากับลูกค้าเพื่อปรับเพิ่มราคาขายใหม่ตั้งแต่กันยายนสำหรับถุงมือยางสังเคราะห์, ถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง, ถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้งสู่ระดับ 60, 48, 42 ดอลลาร์สหรัฐ / ลัง ตามลำดับ เปรียบเทียบกับ 21, 19, 16 ดอลลาร์สหรัฐ / ลัง ใน 1Q20 โดยบริษัทจะเจรจากับลูกค้ารายต่อรายเพื่อทำสัญญาซื้อขายใหม่

 

แต่ความต้องการอาจจะลดลงใน 2H21

เรามองว่าความต้องการถุงมือยางอาจจะลดลงใน 2H21 เนื่องจาก (1) ความต้องการอาจจะลดลงหลังจากฤดูไข้หวัดระบาดปกติในช่วงฤดูหนาวและหลังจากมีวัคซีน Covid-19 ที่มีประสิทธิภาพ (2) Supply หรือ กำลังการผลิตใหม่จาก2 ผู้ผลิตถุงมือในจีน ได้แก่ Blue Sail Medical และ Intco Medical โดย Blue Sail ที่วางเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตถุงมือยางสังเคราะห์สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านชิ้นภายในนสิ้นปี 2023 จาก 4.3 พันล้านชิ้นที่สิ้นปี 2019 ด้าน Intco Medical วางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตถุงมือยางสังเคราะห์สู่ระดับ 5.9 หมื่นล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2023 จาก 5 พันล้านชิ้น ณ สิ้นปี 2019 ในขณะที่กำลังการผลิตถุงมือยางทั่วโลก ณ สิ้นปี 2019 อยู่ที่ 3 แสนล้านชิ้นต่อปี

  

คงคำแนะนำ “ถือ” กำหนดราคาเป้าหมายต่อหุ้น 73.50 บาทต่อหุ้น

จากความเสี่ยงของความต้องการที่ลดลงหากวัคซีน Covid-19 ที่มีประสิทธิภาพถูกค้นพบในปีหน้า เราจึงแนะนำ ถือกำหนดราคาเป้าหมาย 73.50 บาทต่อหุ้นเทียบเท่า 25x FY21F EPS