'ประภัตร'เร่งผลิตเนื้อสัตว์ป้อนตลาดเพื่อนบ้าน-จีน

'ประภัตร'เร่งผลิตเนื้อสัตว์ป้อนตลาดเพื่อนบ้าน-จีน

"ประภัตร"ของบเงินกู้ 3,000 ล้านบาท เร่งผลิตสินค้าปศุสัตว์ ป้อนตลาดหลังจีนประกาศงดนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากประเทศที่โควิดระบาดกว่า 23 ประเทศ ขณะ กัมพูชาขอทำMOU ซื้อไก่เพิ่มวันละ 5 หมื่นตัน

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการระบาดของโควิด -19 ทำให้หลายประเทศผู้นำเข้าเกิดความกังวล ล่าสุดจีนได้ประกาศห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากประเทศที่มีการระบาดของโควิด ครอบคลุมกว่า 23 ประเทศ ซึ่งจะเป็นผลดีกับไทยที่สามารถควบคุมการระบาดของโควิดได้ ดี ทำให้สามารถส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารในตลาดจีนได้ตามปกติ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการ

นอกจากนี้จากที่จีนเกิดปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร(ASF) ลามมาถึงเวียดนาม กัมพูชา และลาว ทำให้ขณะนี้ ประเทศดังกล่าวขาดแคลนเนื้อสัตว์อย่างหนัก ซึ่งส่วนใหญ่ได้นำเข้าจากไทยเป็นหลัก เพราะเป็นประเทศเดียวที่สามารถควบคุมการระบาด ส่งผลให้ราคาขายปลีกเนื้อสุกรของไทยปรับเพิ่มขึ้น ถึง180 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งกรมการค้าภายในต้องเข้าไปควบคุม และแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ยังส่งผลถึงการส่งออกไก่เนื้อของไทยที่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันในส่วนของการค้าชายแดน โดยกัมพูชาได้ ได้ทำหนังสือถึงกรมปศุสัตว์ ขอทำบันทึกข้อตกลง สั่งนำเข้าเนื้อไก่เพิ่มขึ้นอีกวันละ 5 หมื่นตัน ทั้งหมดนี้ทำให้ภาคปศุสัตว์ต้องเร่งผลิต ซึ่งกระทรวงเกษตรฯได้เสนอของบ ตามพรก.เงินกู้ ในการแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19รวม 3,000 ล้านบาท

 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานพัฒนาการ เศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ(สศช.) หากได้รับความเห็นชอบ จะนำมาส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์รายย่อยกลุ่มต่างๆให้มีศักยภาพมากขึ้น โดยต้องเร่งดำเนินการ เพื่อเพิ่มผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

“ภาคปศุสัตว์ของไทยมีระบบการเลี้ยงที่ปลอดภัยมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ ได้ลงทุนใช้เทคโนโลยีควบคุมจนได้เนื้อที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก แต่ที่ยังห่วงคือกลุ่มผู้เลี้ยงรายย่อย ที่ต้นทุนยังสูงอยู่ หากได้รับการสนับสนุน จะทำให้ศักยภาพการผลิตสูงขึ้น และจะตรงกับจังหวะของตลาดที่มีความต้องการพอดี“